Group Blog
พฤศจิกายน 2566

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
ทำไมต้องมีศีล ศีลทำให้อุ่นใจอย่างไร
ทำไมต้องมีศีล ศีลทำให้อุ่นใจอย่างไร

ตราบที่ยังไม่ถึงพระนิพพานฉันใด เราจึงยังต้องเวียนว่ายตายเกิด และรับผมของกรรมตั้นไปเรื่อย บางครั้งฆ่าคนที่รักบ้าง คนที่รักฆ่าเราบ้าง ทำร้ายเบียดเบียนคนที่รักและคนรอบข้างบ้าง ทำมห้ก่อเกิดผูกบ่วงกรรมกันมาสืบไป

หากเราระลึกชาติได้ว่าคนที่เรารักฆ่าเรา นอกใจเรา ทำร้ายช้างผลสาญเรา หรือเราเองที่เป็นคนฆ่าคนที่รัก ล้างผลาญคนที่รัก จะเกิดความจองเวรกันเช่นไรต่อไป

หากคนที่ทำร้ายเราเพราะเราล้างผลาญชีวิตเขาให้ฉิบหายไว้
หรือคนทีเราทำร้ายเขา เราเคยทำร้านเขาให้ฉิบหายนับชาติไม่ถ้วนไม่ถ้วน

แต่โดยสันดานเดิมของเราที่ติดตามมาทำให้เรายังทำเลวซ้ำๆ ผูกเวรกันซ้ำ ไม่ว่าจะเกิดมาในภพชาติใดเมื่อเจอกันก้อจองเวรทำร้ายกันเพราะผูกบ่วงกรรมกันไว้ และด้วยจริตสันดารเดิมที่หยาบกระด้าง เลวทราม ต่ำช้าของเรา หรือ เขา

ด้วยเหตุดังนี้ การจะหมดสิ้นเวรกรรมที่ทำร้ายกันมา ทำให้เกิดชาติใดๆภายหน้าตราบที่ยังไม่ถึงพระนิพานแล้วต้องเวียนว่ายตายเกิดฉันใด จะได้ไม่มีบ่วงผูกกรรมชั่วกันไว้ แล้วมีแต่สิ่งดีๆ เราจึงต้องมี ศีล คือ การเว้นจากความเบียดเบียนทำร้ายกัน ไม่สร้างเวรกรรมเพิ่ม และเกิดกรรมใหม่ที่ดีงาม เกิดความอุ่นใจว่าพ้นจากเวรภัยที่ตนจะกระทำสืบต่อแล้ว
(ข้อนี้เรียกหิริ คือ ความละอายต่อบาป, โอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัวต่อบาป ..หิริโอตตัปปะมีศีลเป็นอานิสงส์ มีศีลเป็นผล) ได้ด้วยอานุภาพแห่งศีล


ศีลจะบริบูรณ์ไม่เร่าร้อน ด้วยมี พรหมวิหาร ๔ อบรมจิตร่วมสงเคราะห์ลงในเรื่องของกรรม คู่กับ หิริ โอตตัปปะ เพื่อพยุงใจให้รู้ว่า..เมื่อกรรมใดเป็นบาป ก็ต้องทำไว้ในใจน้อมออกจากใจที่กระทำบาปนั้นด้วยกุศลจิต(พรหมิวิหาร ๔) ดังนี้ ..แล้วผลที่ได้จากการตั้งจิตใจ หิริ โอตตัปปะ และ พหรมวิหาร ๔ คือ ศีล ทาน ภาวนา

หากจะตั้งศีลโดย เมตตา ให้ตั้งความปารถนาในสุขสำเร็จดีงาม สวัสดี เว้นจากภัยเบียดเบียน จงมีแก่ผู้อื่น

เข้าถึง เมตตา ให้ความสุขเกิดมีแก่ผู้อื่นด้วยความอิ่มใจ เป็นสุข ปราศจากความหน่วงตรึงจิตในตนแผ่ไปให้ผู้อื่น

เข้าถึงความอิ่มใจได้ด้วย ทาน การสละให้ เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น น้อมใจไปในการสละคือ ไม่ทำด้วยโลภหวังสิ่งตอบแทนจากเขาคือ มีใจสละออกจากความ โลภ โกรธ หลง งมงายออกจากกายใจตน

ทานอันเป็นมหาทาน คือ อภัยทาน เข้าถึงอภัยทานคือ สละใจด้วยใจละเว้นจากความเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ปารถนาให้สุขสำเร็จปรรศจากเวรภัยเบียดเบียนเกิดมีแก่ผู้อื่นเสมอตน ชื่อว่า ศีล ดังนั้น อภัยทานจึงเป็นศีล อภัยทานจึงประกอบด้วยพรหมวิหาร ๔



Create Date : 21 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2566 0:19:54 น.
Counter : 329 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1075032
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]