มิถุนายน 2549

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
บทนำ - ทำไมถึงอยากเรียน
คนทุกคนมีความฝัน อยากจะเป็นนั่นเป็นนี่กันมาแต่เด็ก เกือบทุกคนตอนเป็นเด็ก ญาติผู้ใหญ่มักชอบถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร บางคนอาจตอบว่าอยากเป็นหมอ บางคนตอบว่าอยากเป็นตำรวจ สมัยนี้คงมีบางคนตอบว่าอยากเป็นนายกฯ คงจะมีไม่กี่คนที่ตอบว่าอยากเป็น "ดอกเตอร์" คำตอบนี้มีมาในใจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่นานๆ มากแล้ว ก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยซะอีก ความฝันของเราคือ อยากเรียนสูงๆ สูงที่สุดเท่าที่จะมีปัญญาเรียนได้ และที่สำคัญอยากเรียนที่ประเทศอังกฤษ ไม่รู้ทำไมถึงเลือกเรียนที่นี่ทั้งๆ ที่อากาศก็ไม่ดี คนก็ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เราชอบ British Accent นี่น่า จะเรียนทั้งทีขอให้ได้มาซักนิดก็ยังดี ความฝันอันนี้มีมานานมากๆ แล้วจำได้ว่าตอนเป็น fresher เรียนปีหนึ่ง รุ่นพี่ถามว่าอยากจะทำอะไรในอนาคต คำตอบของเราค่อนข้างสร้างความสับสนให้เพื่อนๆ และรุ่นพี่เลยทีเดียว เราตอบไปว่าอยากเรียน PhD (Doctor of Philosophy), ทุกคนงงเพราะเราไม่ใช่เด็กทุนใดๆ ไม่ได้อยากเป็นอาจารย์ ณ ตอนนั้น เรารู้ว่าสิ่งที่เราอยากทำคือเรียนให้จบ PhD อยากเป็น ดอกเตอร์

จะว่าไปแล้วเราก็ถือว่าตนเองโชคดีที่เติบโตมากับทางบ้านที่เรียกได้ว่าพร้อมที่จะสนับสนุนให้ได้ทำความฝันให้เป็นจริง กับค่าเล่าเรียนค่ากินค่าอยู่ในประเทศที่ถือได้ว่ามีค่าครองชีพแพงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เมื่อขอมาเรียนต่อตอนแรกๆ ก็มีอิดออดบ้าง อยากให้ทำงานก่อนบ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมให้มาเรียนต่อจนได้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาผ่านไปนานเกือบ 4 ปี เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ จากวันที่เริ่มสมัครเรียน กรอกใบสมัคร ทำ proposal เขียน personal statement สัมภาษณ์ เริ่มเรียนภาษา เรียน MPhil/PhD Transfer เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล เขียน thesis จนวันนี้วันที่เรียกได้ว่า รอส่งอย่างเป็นทางการและสอบ viva จากการที่มีไฟโชติช่วงมากอยากเรียน บางวันก็นั่งคิดว่าเราจะเรียนไปทำไม น่าเบื่ออ่านอยู่เรื่องเดียวซ้ำไปซ้ามา แก้ไปแก้มาอยู้อย่างเนี่ย บางทีก็รู้สึกว่าว่างเกินไป ต้องหาอย่างอื่นทำบ้าง สุดท้ายก็ต้องพยายามเรียนให้จบค่าเทอมไม่ใช่ถูกๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็ให้กำลังใจกันจนมาถึงวันนี้จนได้ ขอบอกให้ทุกคนฟังว่าการเรียน PhD ไม่ได้ยากเกินความสามารถของคนๆ หนึ่งที่อยากเรียน และ มีความพยายามที่จะเรียน การเรียน PhD ให้จบได้จากประสบการณ์ของตัวเองจะต้องมีองค์ประกอบ 4 อย่างด้วยกัน อย่างแรกซึ่งสำคัญมากคือ ความสนใจอยากแท้จริงในหัวข้อที่จะทำวิจัย ไม่ใช่ทำเพราะ อาจารย์ที่ปรึกษา อยากให้ทำ หรือตามแฟชั่นไป เห็นเขาเรียนก็อยากเรียนบ้าง อย่างที่สองคือ motivation ไม่ว่าจะได้ทุนมา หรือ ทุนส่วนตัวก็ตาม ถ้าไม่มี motivation และความตั้งใจจริงแล้ว ต่อให้เก่งแค่ไหนโอกาสเรียนจบก็น้อยนิดเท่านั้น ควรถามตัวเองก่อนตัดสินใจเรียนว่า สามารถอยู่กับเรื่องๆ เดียวนานกว่า 3 ปีได้ไหม ถ้าคำตอบคือได้ ก็สามารถเรียนได้ อย่างที่สามคือ ความมีวินัยในตนเอง การเรียนที่อังกฤษ โดยเฉพาะเรียน ปริญญาเอก อาจารย์ที่ปรึกษา จะไม่มานั่งคอยบอกคอยสอนเรา จะให้เราคิดเราอ่านมาแล้วมาคุยกัน ถ้าเราไม่เข้าใจแล้วไม่ถาม ก็จะไม่ได้คำตอบ เขาอาจจะเข้าใจว่าเรารู้แล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีวินัยที่จะทำงานของเราเอง แล้วเอาไปคุยกับเขา “it’s อาจารย์ที่ปรึกษา jobs to advise students not direct the students” อย่างสุดท้ายที่ต้องทำได้คือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราจะต้องทำงานของเราเองได้ (independent) คนที่สามารถให้คำแนะนำเราได้จะมีแค่ อาจารย์ที่ปรึกษา เท่านั้น การเรียน PhD แทบจะไม่มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนเลยก็ว่าได้ จะมีก็แต่ office mates, lab mates ซึ่งแต่ละคนจะทำงานวิจัยของตนเองเท่านั้น ขาดข้อใดข้อหนึ่งไปอาจจะทำให้เรียนไม่จบได้ง่ายๆ อีกอย่างที่สำคัญมากๆ ถึงมากที่สุดของชีวิตนักศึกษาปริญญาเอกก็คือ ความสัมพันธ์กับอาจารย์ที่ปรึกษา ถ้าความสัมพันธ์ไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา และอาจเรียนไม่จบได้ง่ายๆ เช่นกัน

ข้อความใน blog นี้เขียนจากประสบการณ์ของผู้เขียนเพียงคนเดียว เขียนขึ้นเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ 4 ปีในฐานะนักศึกษาปริญญาเอก อยากให้คนที่อยากจะเรียน PhD ได้อ่านเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ ได้รู้ว่าควรทำอย่างไรใช้ชีวิตอย่างไร จัดการอย่างไรกับชีวิตของนักศึกษาปริญญาเอก ที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ มาบังคับ อยากให้ทุกคนคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจ มีหลายคนที่มาเรียนได้ปีเดียวแล้วก็เลิกไป แม้ว่าการศึกษาคือการลงทุน แต่มันก็อาจจะเป็นอุปสรรคได้ในอนาคต ในการมี Over Qualification

Knot
25-June-2006



Create Date : 25 มิถุนายน 2549
Last Update : 25 มิถุนายน 2549 17:13:00 น.
Counter : 637 Pageviews.

3 comments
  
ผมยังอยู่ม.๕ แต่ฝันจะเป็นดอกเตอร์
โดย: ดนย์ วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:19:15:40 น.
  
if you really like to become a doctor, think carefully which subject you would like to study, make your choice, and then go for it. Good luck.
โดย: Knot (Knotk4 ) วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:21:55:41 น.
  
cheer you up! ka
โดย: breakaway วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:11:56:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Knotk4
Location :
ปราจีนบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จากความฝัน ... ก่อเกิดพลัง ... ไม่หยุดยั้ง ... ทำฝันนั้น ... ให้เป็นจริง