แม่ตั้งใจทำบล็อคนี้ขึ้นมาเพื่อบันทึกเรืองราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวเรา เมื่อหนูทั้ง2คน พี่ต้นข้าวกะน้องต้นหอม โตขึ้นหนูจะได้รับรู้เรื่องราวแห่งความสุขของเราทั้ง 4 คน
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
น้องต้นข้าว...ฉลอง2ขวบไปนอนพักผ่อนที่โรงพยาบาล





ต้นข้าวเธอต้องเข้าใจว่าพ่อแม่พาเธอมาเที่ยวพักผ่อนที่โรงพยาบาลแน่ ๆ

เลย



ผ่านพ้น 2 ขวบ มาได้ไม่กี่อาทิตย์ แม่ยังยุ่ง ๆ กับงาน ยังไม่ได้อัพบล็อควัน

เกิดครบรอบ 2 ขวบ ก็ต้องมาเขียนเรื่องต้นข้าวนอนโรงพยาบาลครั้งแรก

ก่อน



เริ่มตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 12 ต.ค. 55 ต้นข้าวเริ่มจาม เหมือนจะมีน้ำมูกนิด ๆ

เช้าวันเสาร์มีไข้นิดหน่อย แม่ป้อนยาลดไข้ เช็ดตัว แล้วบังเอิญวันเสาร์นั้นแม่

ต้องไปงานศพคุณพ่อของป้าโจ้ที่จ.ราชบุรี ตลอดทั้งวันก็โทรถามยายเรื่อย

ๆ ว่า ต้นข้าวเป็นไง ยายก็บอกว่าไข้ขึ้น ๆ ลง ๆ พอกินยา เช็ดตัว ไข้ก็ลง พอ

หมดฤทธิ์ยา ไข้ก็กลับ ไม่มีน้ำมูกหรือไอ

วันอาทิตย์ก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือมีไข้ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ไข้ไม่สูงประมาณ 38

นิด ๆ ยังกินได้ เล่นได้ แม่ยังพาออกไปเดินซื้อของที่บิ๊กซีอยู่เลย




วันจันทร์พ่อแม่มาทำงานตามปรกติ ช่วงบ่ายยายบอกว่าไข้สูงขึ้น กินน้อย

ลง แต่เล่นได้ วันนั้นแม่ออกจากออฟฟิตเร็วกว่าปรกติ 1 ชม. โทรบอกพ่อ

ว่าจะพาต้นข้าวไปหาหมอ แต่พอดีช่วงบ่ายวันนั้นพ่อไปดูงานที่ชลบุรี เลย

ให้แม่นั่งแท็กซี่พาไปกับยายนง แล้วตอนค่ำ ๆ ถ้ายังอยู่รพ.จะแวะมารับ




ไปถึงรพ.วัดไข้ได้ 39.1 พยาบาลให้ทานยาลดไข้ ช่วยกันเช็ดตัว ต้นข้าว

ร้องไห้ไป1 รอบ ต้นข้าวคงตกใจว่ามาจับหนูไว้ทำไม หนูกลัว ร้องหาให้แม่

ช่วย แต่แม่ช่วยอะไรหนูไม่ได้ ถ้าไม่เช็ดตัวให้ไข้ลด แล้วเกิดชัก จะยิ่งน่า

กลัวไปกว่านี้ ได้พบกับคุณหมอผู้หญิงเป็นคุณหมอเวร คุณหมอซักอาการ

ตรวจร่างกาย แล้วสรุปให้แม่ฟังว่า ต้นข้าวเป็นไข้มา 3 วันติด ไม่มีอาการ

หวัด ตอนนี้คิดไว้ 3 โรคคือ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หรือ ส่าไข้




แต่เนื่องจากต้นข้าวมีไข้ติดกัน 3 วันแล้ว อยากจะเจาะเลือดดูเกร็ดเลือด

ก่อน จะได้รู้ว่าจะเป็นไข้เลือดออกหรือไม่ แม่ก็โอเคให้คุณหมอเจาะดีกว่า

ถ้าเกร็ดเลือดดี จะได้ตัดเรื่องโรคไข้เลือดออกไปก่อน พาต้นข้าวกลับเข้า

ห้องพยาบาลอีกครั้ง พยาบาล 4 คน รุมจับตัวต้นข้าว ส่วนแม่และยายคุณำ

พยาบาลขอให้รอที่หน้าห้อง ระหว่างรอดูพยาบาลรุมเจาะเลือดต้นข้าว แม่

สารภาพเลยว่า พยายามจะเข้มแข็ง แต่ระหว่างที่รอมันนานมากกว่าพยาบาล

จะเจาะเสร็จ แล้วต้นข้าวก็ร้องเรียกแม่ดังมาก ๆ แม่เจ็บ แม่จ๋า แม่กับยาย

ยืนน้ำตาซึมเลย กว่าจะได้เลือดไปตรวจ แล้วพยาบาลยังมาพูดอีกว่าไม่แน่

ใจว่าจะพอสำหรับตรวจ 2 อย่างหรือเปล่า ในใจแม่ตอนนั้นได้แต่ภาวนาให้

พอตรวจด้วย ไม่อยากให้เจ็บ 2 ครั้ง อ้อแล้วคุณหมอขอให้คาเข็มเจาะไว้

ก่อน เผื่อเป็นไข้เลือดออกแล้วต้องให้น้ำเกลือจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวอีกครั้ง











ระหว่างรอผลเลือด พ่อก็มาถึงรพ.แล้ว ต้นข้าวงอนแม่ไม่ให้แม่อุ้ม แล้วก็ไม่

ยอมนั่งรอเฉย ๆ อ้อนให้พ่ออุ้มพาเดินเที่ยว




แล้วสุดท้ายผลเลือดก็ออกมาว่าเกร็ดเลือดต่ำ คาดว่าน่าจะเป็นไข้เลือดออก

คุณหมอมี2แนวทาง ว่าถ้ากลับบ้านแต่พรุ่งนี้ก็ต้องมาตรวจตอนเช้าอีกที

เพราะกลัวเด็กมีอาการช็อค หรือจะนอนรักษาที่รพ.ก็ได้ แม่เลือกนอนรพ.

ใกล้หมอดีกว่า แต่คุณหมอก็บอกว่าไข้เลือดออกไม่มียารักษา มีแต่ให้น้ำ

เกลือ ตรวจชีพจร ความดัน วัดไข้อย่างสม่ำเสมอ คืนนั้นเราเลยได้ขึ้นห้อง

ตอนใกล้ 3 ทุ่ม แล้วพ่อก็ออกมาซื้อข้าวเย็นให้แม่และยายกิน








แรก ๆ ต้นข้าวก็งง ๆ กับสายน้ำเกลือ พยายามดึง ๆ เหมือนกัน แต่ซักพักก็

ชิน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว พ่อต้องกลับบ้านไปส่งยายนง

แล้วเก็บของใช้ที่จำเป็นกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง พอต้นข้าวเห็นพ่อไป


ส่งยายนง ต้นข้าวร้องตาม บอกว่าจะหายายใหญ่ ร้องอยู่ซักพัก แม่ชวนคุย

ชวนเล่นซักพักก็ลืม แล้วก็หลับ แต่คืนนั้นก็หลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะคุณพยาบาล

มาตรวจทุกชม. แล้วคุณหมอผู้หญิงพอออกเวรตอนประมาณตี 1 ก็มาตรวจ

อีกครั้ง คืนนั้นต้นข้าวมีไข้สูงเกิน 39 อีก 1 ครั้ง แม่และพยาบาลพาไปเช็ด

ตัวที่ห้องพยาบาล ทุกครั้งต้นข้าวก็จะร้อง แต่พอเช็ดตัวเสร็จพากลับห้อง

ต้นข้าวก็ลัลล้าเหมือนเดิม แต่อย่างหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือไม่ยอมกินยาเอง แต่

ไม่กินก็ไม่ได้ สุดท้ายพยาบาลก็ต้องพาไปห้องพยาบาล ล็อคตัวด้วยผ้าเช็ด

ตัว แล้วจับป้อนยากัน แม่พยายามพูด หลอกล่อให้ต้นข้าวกินยาเองเหมือน

เวลาอยู่บ้าน แต่ก็ไม่สำเร็จ








เช้าวันอังคารที่ 16 ต.ค. คุณหมอประจำตัวก็มาดูอาการ บอกว่าคาดว่าน่าจะ

เป็นไข้เลือดออก แต่ยังไม่เจาะเลือดเพิ่ม คอยดูอาการก่อน ไข้ต้องลดต่อ

เนื่องเกิน 1 วันถึงจะปลอดภัย ตลอดวันนี้ทั้งวันต้นข้าวไข้ขึ้น ๆ ลง ๆ ถ้าสูง

เกิน 39 ก็ต้องไปเช็ดตัวกัน ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพัก ต้นข้าวไม่งอแง ไม่

ร้องไห้ เล่นเท่าที่สามารถเล่นได้ แต่ยังกินอาหารได้น้อย แม่ก็เพิ่งเคยเห็น

ต้นข้าวกินนมเปรี้ยวไม่หมดกล่อง กินผลไม้ได้หน่อยเดียว กินขนม กินข้าว

ได้นิดเดียว และเวลาพ่อแม่กินข้าว ต้นข้าวก็ไม่มากวนขอกินด้วย เพราะถ้า

เป็นขณะปรกติต้นข้าวจะเป็นตรงกันข้ามหมด















บ่ายวันนี้คุณหมอขอตรวจเลือดอีกครั้ง คุณพยาบาลคนที่มาเจาะคนนี้ เจาะ

เก่งมากใช้เวลาแป๊บเดียวเสร็จ เกร็ดเลือดตกลงไปอีกหน่อย แต่ยังไม่ถึงขั้น

อันตราย ไข้ยังสูง ๆ ต่ำ ๆ แม่เปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับไข้เลือด

ออกบอกไว้ว่า ถ้าไข้ลดลงจะเป็นช่วงจุดเสี่ยง ถ้าคนไข้ไม่ได้ดูแลอย่างใกล้

ชิด ร่างกายอาจช็อคได้ แต่ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ แล้วคนไข้ไม่มีไข้ อยากทาน

อาหาร ไม่ซึม ก็แสดงว่าร่างกายดีขึ้น วันพรุ่งนี้พ่อต้องเดินทางไปจ.

กำแพงเพชร พ่ออยู่ในระหว่างการตัดสินใจ เพราะห่วงทั้งงานและห่วงต้น

ข้าว แม่บอกพ่อไปแล้วว่า ไม่ต้องห่วงต้นข้าวแม่ดูแลได้





แล้วเช้าวันพุธที่ 17 ต.ค. คุณหมอประจำก็มาตรวจอีกที ต้นข้าวเริ่มมีจุดแดง

ๆ ขึ้น ไข้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ขอให้นอนต่ออีกซักวัน ถ้าไม่มีไข้กลับมา

อีก วันพรุ่งนี้น่าจะกลับบ้านได้ แม่คุยกับพ่อว่าให้ไปทำงานที่จ.กำแพงเพชร

เถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวคืนนี้จะให้ยายนงมานอนเป็นเพื่อน








เริ่มมีจุดขึ้นบ้างตามหน้า หน้าอก





วันนี้พอพ่อไปทำงาน ก็ถามถึงพ่อทั้งวัน ยังกินอะไรไม่ได้มาก แต่กินน้ำได้

มากขึ้น วันนี้คุณหมอขอตรวจการกินน้ำ และขับออก ช่วงเวลาที่อยู่ในห้อง

พัก ต้นข้าวจะลัลล้า แต่พอมีใครเปิดประตูเข้ามาจะผวา วิ่งมาเกาะแม่ แล้ว

ร้องบอกว่า ไม่เอา เจ็บ ๆ ไม่เงยหน้ามองใครทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่คนที่เข้ามาอาจ

จะเป็นแม่บ้านมาทำความสะอาด เวลาเห็นก็ทั้งสงสารทั้งขำ








นอนกลิ้งไปกลิ้งมา จนสุดท้ายมาเป็นท่านี้ คงจะสบายที่สุดแล้ว





เช้าวันพฤหัสที่ 18 คุณหมอมาตรวจอาการ ต้นข้าวเห็นหน้าก็ร้องไห้แล้ว คุณ

หมออนุญาติให้กลับบ้านได้ จุดแดงเริ่มเยอะขึ้น ไข้ลดลง คุณหมอนัดมา

ตรวจอีกทีวันอาทิตย์ ซักพักคุณพยาบาลมาถอดสายน้ำเกลือออกให้ ต้นข้าว

ก็ร้องอีกนิดเพราะกลัว ๆ แต่พอถอดสายน้ำเกลือได้ ก็เดินเล่นทั่วห้องเลย

คงอยากไปมานานแล้ว ต้นข้าวได้น้ำเกลือไป 2 ขวดกว่า ๆ พยาบาลยังแซว

ๆ เลยว่า เสียดายขวดนี้จังเพิ่งได้ไปหน่อยเดียวเอง (ขวดที่ 3 )









รอยเข็มจากน้ำเกลือน่ากลัวน่ะ รอยใหญ่ชัดมาก



สาย ๆ เราก็ได้กลับบ้าน พอถึงบ้านมีเรื่องตลกเพราะ ต้นข้าวร้องไห้ไม่ยอม

เข้าบ้าน แม่ถึงได้บอกว่า ต้นข้าวต้องคิดว่าพ่อแม่พาไปเที่ยวพักผ่อนมาแน่

ๆ ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล (ยกเว้นคืนแรกที่พ่อกลับมาส่งยายนง) ต้น

ข้าวไม่เคยถามถึงบ้านเลย ไม่มีร้องไห้คิดถึงบ้านเลย




แม่ไม่แน่ใจว่าต้นข้าวโดนยุงกัดจากที่บ้าน หรือที่วัดเพราะอาทิตย์ก่อนที่จะ

ป่วย แม่พาต้นข้าวไปงานศพลุงสามารถ ที่วัดศรีเอี่ยม บางนา 3 วัน แต่

โอกาสที่จะโดนกัดจากที่บ้านก็เป็นไปได้เพราะช่วงกลางวัน ต้นข้าวชอบร้อง

ออกมาเดินเล่นนอกบ้าน ตรงนั้นไม่มีน้ำขังแต่บริเวณที่วางรองเท้าแม่เคย

สังเกตว่าเวลาหยิบรองเท้าก็มักมียุงบินออกมา แม่โทรแจ้งทางเขตและ

สาธารณสุขให้มาเก็บประวัติและมาพ่นยาไล่ยุง เพราะเป็นห่วงยุงจะไปกัดคน

อื่นต่อ และอีกอย่างคือคุณหมอบอกมาว่า ถ้าต้นข้าวเป็นไข้เลือดออกอีก

ครั้ง อาการของโรคจะหนักกว่าครั้งแรก หลังกลับบ้านประมาณ 2 วันต้นข้าว

ก็เริ่มกลับมากินอาหารได้เหมือนเดิม วันที่เข้ารพ.ชั่งน้ำหนักได้ 12.5 กก.

ผ่านไป 6 วัน วันที่นัดตรวจชั่งน้ำหนักได้ 12.7 กก. เก่งจริง ๆ ลูก นี้ขนาดกิน

ไม่ได้อยู่ช่วงนึงน่ะเนี้ย





รักหนูต้นข้าวค่ะ



Create Date : 26 ตุลาคม 2555
Last Update : 26 ตุลาคม 2555 11:47:33 น. 2 comments
Counter : 1905 Pageviews.

 
เห็นแล้วเจ็บแทน
ขนาดเราตัวโตขนาดนี้ เวลาโดนเข็มฉียาจิ้มยังเจ็บแทบน้ำตาเล็ดเลย
น้องต้นข้าวเก่งมากกเลย


โดย: encantada วันที่: 26 ตุลาคม 2555 เวลา:17:39:58 น.  

 
นู๋ต้นข้าวไม่สบายอีกแล้วเหรอจ๊ะ
แต่ไข้เลือดออกนี่น่ากลัวจริงๆนะ
ที่บ้านก็กลัวอยู่เหมือนกัน
เพราะยุงเยอะมากๆ
ยังไงก็ขอให้หายเร็วๆนะสาวน้อย



โดย: แม่ส้มของจ๋ำจ๋ำ & โจโจ้ (~ sweettemper ~ ) วันที่: 28 ตุลาคม 2555 เวลา:11:56:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สาวเลขา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




+Lilypie Premature Baby tickers
Friends' blogs
[Add สาวเลขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.