เมื่อหาญกล้าจะไปเที่ยว Osaka ด้วยตัวเอง day 1 part 2

ไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้วหมายใจไว้ว่าจะไปหอคอย Tsutenkaku สัญลักษณ์ของเมือง Osaka ที่ต้องมาเยือนใครพลาดถือว่ามาไม่ถึง Osaka ทีเดียวเชียว โดยที่ชั้น 5 ของหอคอยแห่งนี้ มีรูปปั้นเทพเจ้า Biligen ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคดี ให้ขอพรจากเทพเจ้าด้วยการลูบเท้าเชื่อว่าจะทำให้โชคดีมีสุข (ไม่พลาดแน่นอนงานนี้ 😊) และหอคอยนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างนึงคือให้สังเกตุแสงไฟนีออนที่ตัวตึก (เวลาเปิดไฟยามค่ำ) ถ้าเป็นสีขาว แสดงว่าพรุ่งนี้อากาศจะดี สีส้มพรุ่งนี้จะมีเฆมมาก ถ้าเป็นสีเขียวแสดงว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก แต่จุดประสงค์หลักที่มาหอคอยแห่งนี้เพราะ....เป็นแหล่งรวมประวัติ&จำหน่ายขนมของ glico นั่นเอง....^^ โดยขนมบางอย่างสามารถหาซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น

การเดินทางไปยังหอคอย Tsutenkaku ให้นั่งรถไฟสายสีม่วง (Tanimachi Line-plat 1) ไปเปลี่ยนเป็นสายสีแดง (Midosuji Line-plat 2-3) ไป 1 สถานีและเปลี่ยนเป็นสายสีน้ำตาล (Sakaisuji Line-plat 2) ที่สถานี Dobutsuen mae นั่งต่อไปอีก 1 สถานีไปลงที่ Ebischo station exit 3 😁 ใช้ pass เข้าฟรีอีกแล้วค่ะ





จากนั้นลงมาเดินที่ตลาดชินเชไก Shinsekai ที่เป็นเหมือนแสงสีในยามค่ำคืนของ ย่านนี้



หลังจากเดินดู ชม ช้อป กันให้หนำใจก็ถึงเวลานั่งรถไฟกลับ Namba เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ตรง locker ของสถานีเข้าไป check in ที่พักโดยขึ้นสายสีน้ำตาล (Sakaisuji Line-plat 2 ) ไป 1 สถานีแล้วไปเปลี่ยนเป็นสายสีชมพู (Sennichimae Line-plat 2 ) ที่สถานี Nippombashi นั่งต่อไปอีก 1 ป้ายลงที่สถานี Namba





จากนั้นด้วยความขี้เกียจเดิน 700 เมตรต่อวัน หาจนเจอว่าให้นั่งสาย (Midosuji Line-plat 1 ) ไปลงที่สถานี Daikokucho เดินต่ออีกแค่ 400 เมตรจะถึงที่พักซึ่งใกล้กว่าเส้นเดิมที่เดินจากสถานี Namba ถึง 300 เมตร 😊 ดูแล้วใช้ pass แบบคุ้มจนเกินคุ้มจริงๆ จบทริปของวันแรกไปแบบสบายๆชิวๆ เที่ยวแบบไม่รีบร้อน 😅 และถ้าเวลาเหลือ อาจจะออกมาเดินดูไฟดูของยามค่ำคืนแถว Dotonbori ซึ่งอยู่แถวๆย่านที่พักนั่นเอง

Create Date : 15 เมษายน 2559 Last Update : 23 เมษายน 2559 19:41:53 น. Counter : 840 Pageviews.		4 comments
Share Tweet