Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ธรรมะจริงๆแล้วเหมาะแก่คนโลภมาก กิเลสหนา

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าธรรมะนั้น เป็นเรื่องของ คนดี คนสะอาด ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่โลภ ไม่เที่ยวกลางคืน ออกแนวว่าต้องดูเป็นผู้ใหญ่ๆ ดูอนุรักษ์นิยม(conservative) แต่งตัวเรียบๆ ไม่ตามแฟชั่น ไม่ตามเทรนด์ ไม่บ้าแบรนด์เนม

หลายคนเข้าใจว่า สำหรับ คนโลภมาก บาปหนา บ้ากาม บ้าshopping ฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินเป็นเบี้ย คนพวกนี้ศึกษาธรรมะไปก้บาปมาบัง อ่านไปก็เอาไปใช้ไม่ได้หรอก

ที่จริงแล้วทั้งสองอย่างนี้เป็นความคิดที่ผิดด้วยกันทั้งคู่

ก่อนที่จะ คิดว่าธรรมะนั้นถูกสร้างมาเพื่อใคร เราลองมาคิดกันก่อนดีกว่า ว่าธรรมะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำอะไร

ถ้าคุณตอบว่าเพื่อที่จะให้ทุกคนเป็นคนดี ผมก็ขอบอกว่านั่นมันไม่ใช่ประเด็น สิ่งนั้นมันเป็นผลพลอยได้

คุณลองนึกย้อนไปตอนเรียนประวัติพระพุทธเจ้าดูก่อนดีกว่าว่าท่านมาออกบวชเพื่ออะไร คือต้องเข้าใจนะว่าก่อนพระพุทธเจ้าจะบวช ท่านก็มีทุกอย่างหมดแล้ว เป็นเจ้าชาย รูปหล่อ พ่อรวย perfect สุดๆ ฉลาดมากด้วย เรียนเก่งสุดๆ เก่งทุกด้านทุกศาสตร์ทุกแขนง คือทุกอย่างก็ดูperfect ไร้ที่ติ เป็นชีวิตที่ทุกคนบนโลกปรารถนา

ถ้าเป็นคนปกติ ก็คงจะไม่คิดมากให้ปวดหัว สู้มาผลาญเงินเล่น partyทั้งวันทั้งคืน ดีกว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล

แต่ด้วยความที่พระพุทธเจ้าฉลาดมากไง ก็เลยไม่คิดอะไรตื้นๆอย่างนั้น วันนึงพระพุทธเจ้าแอบหนีไปเดินเล่นนอกวัง อยากเห็นว่าโลกภายนอกเป็นยังไง(แอบเหมือนหนังจีน 555) แล้วพระพุทธเจ้าก็ไปเห็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นในวัง คนแก่หนังเหี่ยวหน้าย้อย คนป่วยเจ็บปวดทรมาน ศพคนตายเน่าขึ้นอืด

เห็นแล้วก็เลยคิดได้ว่าอุ๊ยย ถึงตอนนี้ทุกอย่างยังperfectอยู่ หน้ายังตึงใสไร้สิว แต่เดี๋ยวพอแก่ไปก็หน้าย้อยแก้มห้อย สิ่งดีๆในชีวิตจะหายไปต้องรู้สึกแย่แน่ๆ แล้วถ้าเป็นโรคอะไรขึ้นมานี่ยิ่งแย่ เป็นมะเร็ง เป็นอัมพาตขึ้นมาทำไงดีเนี่ย มีเงินก็รักษาไม่ได้ ตายๆๆ

แล้วแย่สุดถ้าตายล่ะกลายเป็นผีล่ะ จะติดสินบนยมบาลก็คงทำไม่ได้ ถึงตอนนี้จะมีอะไรมากเท่าไร ถึงจุดนั้นก็เหลือแค่ศูนย์ ไม่เหลืออะไรเลย

พูดถึงแล้ว พระพุทธเจ้าก็เป็นperfectionism เหมือนกันนะ อุส่ามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ ณ ตอนนี้ แต่กลับคิดว่ายังสามารถหาอะไรที่สุดยอดกว่านี้ได้อีก สามารถที่จะคงความสุขไว้ได้ตลอดกาล happiness never melts พูดเป็น swensens เลย 555 พระพุทธเจ้าก็เลยออกตามหาความสุขสุดยอดนั้นๆ และก็ค้นพบวิธีทาง ซึ่งท่านก็เรียกวิธีเหล่านั้นว่าธรรมะ

ก่อนจะออกนอกเรื่องไปไกล เรามาตอบคำถามเดิมก่อนดีกว่าว่า ธรรมะ มีไว้เพื่ออะไร และเพื่อใคร

ธรรมะทำไม ก็เพราะ เรายังไม่พอใจกับชีวิตที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนี้น่ะสิ ถ้าพอใจแล้ว จะมาขวนขวายทำให้มันดีขึ้นทำไมล่ะ
ธรรมะเพื่อที่จะทำให้ชีวิตดีกว่านี้ มีความสุขมากกว่านี้ พึงพอใจในชีวิตตัวเองมากกว่านี้

ที่นี่เราก็มาต่อกันที่คำถามว่าธรรมะเพื่อใคร ใครสามารถใช้ประโยชน์จากธรรมะได้

คำตอบคือทุกคนที่อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากมีความสุขมากกว่านี้ ทุกคนที่ยังไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอยากรวยกว่านี้ อยากสวยกว่านี้ อยากได้ อยากมี อยากเป็น รึแม้แต่ความไม่อยากมีชีวิตแบบที่มีอยู่ ธรรมะก็ช่วยคุณได้

จะเห็นได้ว่ายิ่งถ้าคุณไม่พอใจกับสิ่งที่คุณมีอยู่ปัจจุบัน คุณยิ่งควรจะเข้าหาธรรมะ มันไม่เกี่ยวหรอก ว่าคุณเป็นคนยังไง โลภมาก บ้ากามยังไง จะเป็นยังไงก็ใช้ธรรมะได้

ตราบใดที่คุณยังไม่เคยลอง คุณก็ไม่ควรที่จะตัดสินว่ามันไม่เหมาะกับคุณ

ไว้เดี๋ยวหนหน้ามาต่อกันนะครับ ว่าธรรมะเนี่ยจริงๆ มันเป็นยังไง




Create Date : 02 มกราคม 2553
Last Update : 2 มกราคม 2553 23:34:42 น. 1 comments
Counter : 1001 Pageviews.

 
ธรรมะเพื่อมวลมนุษย์ เทวดา และสัตว์นรก ค่ะ เพื่อความหลุดพ้น เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีหลักธรรม

เจ้าชายสิทธิธัตถะทรงแสวงหาสัจธรรม หาทางแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ค่ะ

สำคัญที่เราให้คำจำกัดความทุกข์กันถูกหรือเปล่า ถ้าทุกข์ที่แท้ มันก็คือการมาเวียนว่ายตายเกิด ทุกข์ที่ใจในทางชีวิต พระองค์ก็ทรงหาแก้ปัญหาทุกข์นั้นให้ด้วย ศีล สมาธิ และปัญญาค่ะ เมื่อได้ปัญญา จะรู้วิธีการวางทุกข์ทางโลกนั้นค่ะ และเมื่อรู้วิธีวาง สติมา ปัญหาจะแก้ไขได้ ทางออกมีเสมอค่ะ สำหรับคนมีสติสัปปัชชัญญะ พระู้กำหนดทรงเมตตาให้ทางเสมอค่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:22:18:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jijeruni
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จริงๆอยากเขียนหนังสือเกี่ยวกับธรรมะในมุมมองใหม่ๆ
โดยใช้ภาษาที่อ่านง่ายและสนุก
เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากต่อชีวิตทุกคน
แต่กลับถูกละเลยไป

ก็เลยลองเขียนเล็กน้อยในบล็อกดูก่อน
ชอบไม่ชอบยังไง เม้นบอกได้นะครับ =]
Friends' blogs
[Add jijeruni's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.