Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
หัวใจพุทธะ

ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าคนอื่นๆรู้สึกเหมือนผมรึเปล่าว่าศาสนาพุทธทุกวันนี้กำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด และนับวันก็ยิ่งจะถลำลึกลงไปเรื่อยๆ จากศาสนาที่มีเหตุผลมากที่สุดก็เริ่มกลายเป็นไม่มีเหตุผลมากขึ้นไปทุกที จากการใช้ปัญญาเป็นตัวนำ ก็กลายเป็นการใช้ศรัทธานำปัญญา จากกาลามสูตรที่สอนให้สงสัยและคิดในทุกเรื่องทุกประเด็นก่อนที่จะเชื่อ แม้คำสอนนั้นจะออกจากปากพุทธะ ก็ยังไม่ควรเชื่อว่าถูกในทันที แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า ใครที่พยายามเอาคำสอนมาวิเคราะห์ในทางที่ต่าง รึมีการสงสัยเคลือบแคลง กลับถูกโจมตีอย่างหนัก หาว่าลบหลู่ หาว่าทำลายศาสนา มันช่างน่าเศร้าที่คนนับถือศาสนาที่มีเหตุผลกลับทำตัวเป็นคนไร้เหตุผล

อีกประเด็นที่น่าเศร้าคือ การที่คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นชาวพุทธ แต่กลับไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่พระพุทธเจ้าต้องการจะสื่อคืออะไร การที่เป็นพุทธแต่กลับไม่รู้ว่าสิ่งใดคือจุดเด่นของศาสนาพุทธ จุดเด่นซึ่งทำให้พุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นคืออะไร หากจะตอบเพียงว่าศาสนาเราเป็นศาสนาที่มีเหตุผล คิดเป็นวิทยาศาสตร์ คำพูดนี้ก็ช่างกว้างและคลุมเครือ เกินกว่าจะจับเป็นรูปเป็นร่างได้ หากจะมาอ้างว่ารู้อริยสัจสี่ ก็อยากจะถามว่าเข้าใจถึงขนาดเอามาใช้ได้จริงหรอ เพราะแท้จริงแล้วอริยสัจสี่นั้นเป็นเพียงกรอบโครงร่างให้ความคิดเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ลึกมากพอที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาอันแสนซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ได้
จริงอยู่ที่ว่าอริยสัจสี่ได้ถูกสอนเป็นธรรมบทแรกหลังการตรัสรู้ แต่ถามว่า ของสิ่งแรกจำเป็นว่าจะต้องเป็นของที่ดีที่สุดจริงๆหรอ หากเรามาลองมองจากสิ่งต่างๆรอบตัว ก็เห็นได้อย่างแน่ชัด ว่าของสิ่งแรกที่ออกมามักยังไม่ใช่ของเด็ด แต่จะเป็นเพียงการเกริ่นนำ การปรับผู้ฟังเข้าหาผู้พูด แต่ของทีเด็ดจะถูกปล่อยออกก็ต่อเมื่อผู้ฟังอยู่ในสภาวะที่พร้อมแล้ว

หรือหากเราจะประเมินผลว่าอริยสัจสี่นั้นได้ผลจริงรึเปล่า ก็มาดูที่ผลลัพธ์จากผู้ฟังก็ได้ หลังการเทศน์อริยสัจสี่จบมีเพียงโกณทัญญะ ท่านเดียวที่บรรลุ แล้วสิ่งที่บรรลุก็ยังไม่ได้เห็นแจ้งแทงตลอดเป็นพระอรหันต์ แต่บรรลุในขั้นแรกเป็นพระโสดาบัน หลายท่านอาจจะแย้งว่า แค่ได้เท่านี้ก็ถือว่าอริยสัจสี่ทำได้ดีมากแล้ว คือถ้าเราไม่เอาไปเปรียบเทียบกับธรรมอื่นๆ ก็ถือว่าโอเค อย่างน้อยห้าคนฟังมีคนหนึ่งเข้าใจ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือถ้าเรานำธรรมนี้ไปเปรียบเทียบกับธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนในวันถัดไปนั้น อริยสัจสี่เหมือนเป็นเพียงฝุ่นผง ในจักรวาลอันกว้างใหญ่

ธรรมที่พุทธะพูดในวันถัดไปนั้นเป็นอะไรที่สั้นมาก แต่มันเป็นหัวใจของพุทธะ หากศาสนาพุทธนั้นขาดสิ่งนี้ไปแล้ว หรือคนที่เรียกตัวว่าเป็นพุทธกลับหลงลืมสิ่งนี้ ไม่ใส่ใจสิ่งนี้ ก็พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้เลยว่า ศาสนาพุทธได้ตายไปแล้ว ตายในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าหมดประโยชน์ไปจากโลก แต่คือได้หมดความพิเศษไป หมดซึ่งเป็นพุทธะ กลายเป็นเพียงศาสนาธรรมดาซึ่งหาได้ทั่วไปตามพื้นโลก

ธรรมะที่พุทธะได้กล่าวในวันถัดไป มีเพียง สามประโยค “สพเพ สงขารา อนิจจา, สพเพ สงขารา ทุกขา, สพเพ ธรรมา อนตตา” แปลเป็นไทยก็คือ “ทุกสิ่งย่อมต้องเปลี่ยนแปลง, ทุกสิ่งย่อมทำให้เกิดทุกข์, ทุกสิ่งแท้จริงแล้วไร้ตัวตน”

แม้จะเป็นประโยคสั้นๆแค่สามประโยค แต่ความหมายของมันก็ครอบคลุมทุกสิ่งในศาสนาพุทธ ครอบคลุมทุกสิ่ง ทุกปรากฏการณ์บนโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในภายนอก รึเกิดขึ้นภายในใจ ผู้ที่เข้าใจสามสิ่งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงจะประสบความสำเร็จทางโลก แต่เรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นผู้อยู่เหนือโลก อยู่เหนือการเกิดและการตาย อยู่เหนือการเปลี่ยนแปลงทั้งปวง อยู่เหนืออารมณ์และความรู้สึกทั้งหมด อยู่เหนือความสุขและความทุกข์ อยู่เหนือแม้กระทั่งนิพพาน และตัวพุทธะนั่นเอง

ผลจากการที่พุทธะได้สอนธรรมอันเป็นหัวใจนี้ไปแล้ว ปัญจวัคคีย์ทั้งห้าล้วนบรรลุขั้นสูงสุด กลายเป็นพระอรหันต์ เข้าใจทุกสิ่ง หลุดจากบ่วงพันธนาการทั้งจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต หลุดจากกรอบทั้งของการมีตัวตน และไม่มีตัวตน หากดูในคัมภีร์ ไม่มีธรรมไหนอีกแล้วที่เทศน์แล้วจะประสบความสำเร็จ สร้างความเข้าใจแก่ผู้ฟังได้มากขนาดนี้

สิ่งนี้แหละที่ทำให้พุทธเป็นพุทธ สิ่งนี้แหละที่ทำให้พุทธพิเศษจากศาสนาทั้งปวง สิ่งนี้คือทางออกของโลก ทางออกของทุกปัญหาความขัดแย้ง สิ่งนี้แหละที่จะช่วยระงับความหิวโหยอยากกระหายอันไม่สิ้นสุดของมนุษย์

หากคนใดเรียกตนว่าเป็นพุทธ แต่ไม่พยายามที่จะศึกษาหัวใจของพุทธนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นคนหลงทาง



Create Date : 18 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 0:37:55 น. 8 comments
Counter : 776 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:28:59 น.  

 
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ....

สาธุๆๆๆๆ เป็นบทความที่ดีแล้ววววครับ


แล้วว่างๆจะแวะเข้ามาอ่านอีกนะครับ ขอบคุณครับ


โดย: oneshot วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:55:30 น.  

 
-/\\-
ขอบคุนคับบ
จะพยายามเขียนต่ออย่างเต็มที่เช่นกันคับ ^^


โดย: jijeruni วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:57:55 น.  

 
ทักทายคราฟ




โดย: nuyza_za วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:45:34 น.  

 
เมื่อผมยังไฟร้อนแรง
ผมก็เคยคิด เคยเขียนแสดงความเห็น เหมือนคุณเช่นกัน
และผมก็พบกับการต้านอย่างที่คุณเขียนเช่นกัน

มันหนักเกินกว่าทีฆราวาสคนเดียวจะทำ
ขนาดคนห่มจีวรยังเฉย
ผมเลยถอดใจ
เดินทางคนเดียวตัวเบากว่าแยะเลย
ใครจะเดินไปด้วย ผมไม่ขัดข้อง
แต่ผมเลิกลากคนที่ไม่เดินไปแล้วครับ










โดย: นมสิการ วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:57:58 น.  

 
ผมคงทำต่อไปเรื่อยๆอ่าคับ
คือก็ไม่ได้หวังผลอะไรอยู่แล้ว
พูดไปถ้ามีคนได้ประโยชน์สองสามคน ผมยังโอเคเลยคับ

เพราะที่มีความสุขทุกวันนี้ได้
ก็เพราะพระพุทธเจ้าตัดสินใจเอาเรื่องนี้มาพูด
แม้คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วย


โดย: jijeruni วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:14:02 น.  

 
ข้อความโดนใจจังครับคุณ jijeruni ผมชอบศึกษาธรรมในลักษณะแบบเช่นคุณ หรือ แบบของ เซน ผมว่าคล้าย ๆ กัน คือพอได้อ่านแล้วค่อย ๆ คิดตาม เหตุ - ตามผลช้า ๆ เกิดความนิ่งของจิตใจได้ดี รู้สึกคล้ายกับร่างกายและจิตใจเบา ๆ ว่าง อย่างไรชอบกล แต่รู้สึกดีจัง ลงข้อความเช่นนี้ต่อไปเถิดนะครับ มีประโยชน์อย่างน้อยก็ กับผมคนหนึ่งละครับ เป็นกำลังใจช่วยกันดำเนินใน ตามแบบผู้ที่นับวันจะมีความทุกข์น้อยลงครับ


โดย: ชอบอ่านธรรม IP: 117.47.5.84 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:10:30:56 น.  

 
เมื่อถึงจุดต่ำสุด ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
เพียงแต่ว่า ขณะนี้ เป็นจุดต่ำสุดหรือยัง

พวกเรากำลังเข้าใจผิดกันเรื่องนับถือพุทธ อยู่

คงเคยได้ยินคำว่า ผู้เข้าถึงไตรสรณคมณ์

ตราบใด จิต-วิญญาณ ยังไม่เข้าถึงไตรสรณคมณ์ที่แท้จริงแล้ว

บุคคลนั้นยังไม่ถือว่าเป็น พุทธแท้ แม้โกนหัว ห่มผ้าเหลืองอยู่ก็ตาม


โดย: ตำหนักจิตปริศนา IP: 134.236.17.134 วันที่: 7 มิถุนายน 2561 เวลา:13:01:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jijeruni
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จริงๆอยากเขียนหนังสือเกี่ยวกับธรรมะในมุมมองใหม่ๆ
โดยใช้ภาษาที่อ่านง่ายและสนุก
เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากต่อชีวิตทุกคน
แต่กลับถูกละเลยไป

ก็เลยลองเขียนเล็กน้อยในบล็อกดูก่อน
ชอบไม่ชอบยังไง เม้นบอกได้นะครับ =]
Friends' blogs
[Add jijeruni's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.