การแจกปฏิทินเป็นเหมือนธรรมเนี
ยมที่ทำกันในช่วงปีใหม่
เราเคยชินกับการเปลี่ยนปฏิทิ
นใหม่ทุกปี ฉีกหรือเปลี่ยนหน้าปฏิทินทุกเดื
อน
แต่เคยนึกสงสัยไหมว่า
ทำไมเราต้องเปลี่ยนปฏิทินทุกๆ ปี?หลายคนคงตอบว่าถ้าไม่เปลี่ยน ก็ไม่มีปฏิทินดูสิ อันเก่ามันใช้ไม่ได้แล้ว
แล้วทำไมปฏิทินเก่าจึงใช้ได้ครั
้งเดียว เอากลับมาดูใหม่ไม่ได้?
ทีนาฬิกายังสามารถบอกเวลาได้
ตลอดไป คือ ไม่มีกำหนดวัน-เวลาสิ้นสุ
ดของนาฬิกา ไม่มีรอบการเปลี่ยนเรือนใหม่ ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกวัน
เพราะวันในปฏิทินแต่ละปีไม่ได้
ตกในวันเดียวกันใช่หรือไม่ ?
เคยคิดไหมว่า
ปฏิทินที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี
้ไม่มีประสิทธิภาพเลย
ปฏิทินเป็นเทคโนโลยีแรกๆ ของโลก ถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่หลายพันปี
ก่อน
ผ่านการดัดแปลงแก้ไขแบบปุ
ปะมาตลอด บางยุคก็เพิ่มเดือนเข้าไปเฉยๆ
ปฏิทินที่เราใช้กันอยู่ปัจจุบั
นจึงไม่เป็นระบบนัก
ตัวอย่างเช่น การจัดแบ่งวัน สัปดาห์ และเดือนในปฏิทิน
เดือนหนึ่งมี 30 วันบ้าง 31 วันบ้าง โดยไม่มีหลักเกณฑ์ว่าทำไมเดือนนี้ต้องมีวันเท่านี้ (คำลงท้ายว่า "คม" กับ "ยน"
เป็นชื่อเดือนที่เรียกให้สอดคล้
องกับการแบ่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว) แถมทุกๆ 4
ปี ยังมีวันที่ 29 กุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาอีก
สิ่งเหล่านี้ทำให้วันในแต่ละปี
เหลื่อมจากกันไปเรื่อยๆ เช่น
วันปีใหม่ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ปีหน้าตรงกับวันอังคาร เป็นต้น
เมื่อวันเหลื่อมไปทุกปี
ทำให้ยากที่จะสร้างปฏิทินล่
วงหน้าไปตลอดกาล
ซึ่งสร้างความยุ่งยากในการพั
ฒนาเทคโนโลยีหลายๆ ด้าน
จึงมีความพยายามหลายครั้งที่
จะปรับเปลี่ยนระบบปฏิทินให้ดียิ
่งขึ้น
ล่าสุดปฏิทินแบบใหม่ได้ถู
กเสนอขึ้นมาและมีแนวโน้
มอาจนำมาใช้จริง
ก่อนจะกล่าวถึงปฏิทินใหม่ น่าจะทำความเข้าใจถึงระบบปฏิทิ
นที่เราใช้อยู่กันก่อน
ปฏิทินที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีชื
่อว่า
ปฏิทินเกรกอเรียน (Gregorian Calendar) เป็นปฏิทินตามระบบสุริยะคติ กล่าวคือเป็นระบบบอกวันเวลาที่ยึดตามดวงอาทิตย์ เราอ้างอิงเวลาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก และการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ โลกหมุนรอบตัวเอง ใช้เวลา 1 วัน ส่วน
โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลาเท่ากับหมุนรอบตัวเอง 365.25 รอบ หรือประมาณ 365 วัน กับอีก 6 ชั่วโมง
เนื่องจากไม่มีทางแบ่งวันให้
ลงตัวได้ เราจึงกำหนดให้ 1 ปี มี
365 วัน ตัดเศษ 0.25 วัน ออก แล้วนำไปชดเชยโดยการเพิ่ม 1 วัน ทุกๆ 4 ปี
ทำให้เรามีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ทุก 4 ปี โดยเรียกปีที่มี 366 วันว่า leap
year หรือ
ปีอธิกสุรทิน หากจะปรับเปลี่ยนปฏิทิน
เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริ
งตามธรรมชาติ
อย่างเวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ให้
เป็นจำนวนเต็มสวยๆ ได้
สิ่งที่เราพอจะทำได้คือจัดแบ่
งวัน เดือน ปี ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยที่
ยังสอดคล้องกับจั
งหวะของธรรมชาติอยู่
ปัญหาหลักที่ทำให้วันในปฏิทินร่
นไปทุกปีคือ การหารไม่ลงตัว
ต่อให้ตัดเศษ .25 วันไป 365 ก็ยังหาร 7 ไม่ลงตัวอยู่ดี เศษ 1
วันนี้จะทำให้วันในแต่ละปีเหลื่
อมกัน
หากจะเปลี่ยนให้ 1 สัปดาห์มี 5 วันเพื่อให้หารได้ลงตัว
คงจะส่งผลกระทบมากมายหากวันในสั
ปดาห์หายไป 2 วัน
แค่ชีวิตประจำวันคงโกลาหลน่าดู วันหยุด วันเรียน วันทำงานจะเปลี่ยนไปหมด
นอกจากนี้การอ้างอิงประวัติ
ศาสตร์ย้อนหลังจะวุ่นวายซับซ้
อนมาก
ปฏิทินใหม่ที่เพิ่งเสนอขึ้นมาชื
่อว่า
Hanke-Henry Permanent Calendar ใช้วิธี
กำหนดให้ 1 ปี มี 364 วัน เพื่อให้หาร 7 ได้ลงตัว นั่นหมายถึง หากวันที่ 1 มกราคม เป็นวันอาทิตย์ วันที่ 31 ธันวาคม
จะเป็นวันเสาร์ เมื่อครบรอบปี วันที 1 มกราคม จะตกที่วันเดิมทุกๆ ปี
ไม่เพียงแค่นั้น ปฏิทิน Hanke-Henry
ยังจัดแบ่งจำนวนวันในแต่ละเดื
อนใหม่ โดยให้มีรูปแบบเป็นคาบ 30-30-31 คือ
มกราคม มี 30 วัน กุมภาพันธ์มี 30 วัน มีนาคมมี 31 วัน พอเมษายน ก็ให้มี 30
วันอีก เป็นคาบแบบนี้ไปเรื่อยๆ
จะเห็นว่าจำนวนวันในคาบ 3 เดือน รวมกันได้ 91 วัน ซึ่งหาร 7
ลงตัวพอดี ทำให้แต่ละคาบมีการเรียงตั
วของวันเหมือนกัน วันในเดือนเมษายน
กรกฎาคม ตุลาคมจะเรียงตัวเหมือนวันในเดื
อนมกราคม
เมื่อคาบ 30-30-31 วัน วนครบ 4 รอบ ก็จะครบ 364 วัน หรือ 1 ปีพอดี ปัญหาคือ เศษ 1.25 วัน
ปฏิทิน Hanke-Henry
ใช้วีธีชดเชยวันที่ขาดไปคล้ายกั
บปฏิทินเกรกอเรียน แต่ต่างกันตรงที่
แทนที่จะชดเชยทีละ 1 วัน ซึ่งทำให้วันเหลื่อม จะชดเชยที่ละ 7 วัน หรือ 1
สัปดาห์ แทน ดังนั้นทุกๆ 5-6 ปี ปฏิทิน Hanke-Henry
จะมีสัปดาห์พิเศษเพิ่มขึ้นมา คล้ายกับการมีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ทุก 4 ปี
หากเราเปลี่ยนมาใช้ปฏิทิน Hanke-Henry เราจะ...
- ไม่ต้องเปลี่ยนปฏิทินทุกปี สามารถทำปฏิทินเพียงแผ่นเดียว โดยระบุว่าปีใดบ้างที่มีสัปดาห์
พิเศษ
- สามารถวางแผนงานล่วงหน้าได้ง่าย รวมทั้งจัดสรรวันหยุดวันลาต่างๆ ได้สะดวก
- รัฐบาลไม่ต้องมาคอยประชุมเพื่
อประกาศวันหยุดราชาการทุกๆ ปี
- ลดความซับซ้อนยุ่งยากในการสร้
างและใช้งานอุปกรณ์บอกเวลาได้ เช่น
คนใช้นาฬิกาก็ไม่ต้องคอยปรับเลื
่อนวันในเดือนที่มีวันที่ 31
ผู้ผลิตก็ออกแบบนาฬิกาให้แสดงวั
นที่ได้โดยอ้างจากคาบ 30-30-31
ไม่จำเป็นต้องใช้การคำนวณยุ่
งยากแบบในปัจจุบัน
แต่ขณะเดียวกันก็อาจทำให้เกิ
ดผลกระทบในด้านลบเช่นกัน
- วันสำคัญหรือคนที่เกิดในวันที่
โดนตัดทิ้ง เช่น วันที่ 31 พฤษภาคม ต่อไปจะฉลองวันเกิดวั
นไหนจะทำอย่างไรกับวันเหล่านี้
- การอ้างอิงเวลาในประวัติศาสตร์
จะได้รับผลกระทบหรือไม่
- อาจต้องพิจารณาถึงความเข้ากั
นได้กับปฏิทินในระบบอื่นเช่น ปฏิทินจันทรคติ
แน่นอนว่าในยุคเปลี่ยนผ่านย่
อมมีติดขัด หรือสับสนบ้าง
แต่ที่ผ่านมา ปฏิทินมีการเปลี่ยนแปลงแก้
ไขมาหลายครั้ง
ของไทยแงก็ยังเคยเปลี่
ยนแปลงจากจุลศักราช และรัตนโกสินทรศก
ช่วงแรกอาจสับสนแต่เมื่อเวลาผ่
านไปคนเริ่มคุ้นเคยก็ไม่เป็นปั
ญหา
สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการเปลี่
ยนแปลงจะคุ้มค่าที่จะปรับตัวหรื
อไม่
ไม่ใช่กลัวว่ามันจะเปลี่
ยนแปลงไป เพราะทุกๆ อย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไปอยู่แล้ว
เราเพียงแต่ปรับตัวให้สอดคล้
องก็พอ
อ้างอิง //www.wired.com/wiredscience/2011/12/rational-calendar/ //www.infoplease.com/spot/gregorian1.html