ตลุยแดนภารตะ หนีเสือ ปะ จระเข้ แล้วเราจะ...??ภาคจบ

พอออกมาอีกทางก็พบกับประตู ที่เต็มไปด้วยเกือกม้า ถ้าเราไม่ได้สังเกตุจริงๆก็คงคิดว่าเป็นเครื่องประดับประตูเท่านั้น ซารุบอกกับเราว่า ในสมัยก่อนทุกครั้งที่ นักรบ หรือ ผู้ที่ขี่ม้า ออกจากเมือง หลังจากกลับมา จะเอาเกือกม้ามาติดที่ประตูนี้ เพื่อแสดงว่าเขา อกกไปแล้วเจอกับเหตุการอะไร ถ้าสังเกตุที่เกือกม้า ก็จะมีการติดอยู่ 3 แบบ

           ความหมายก็คือ ถ้าติดแบบ ตัวยู ก็หมายถึงโชคดีในการเดินทางที่ผ่านมา (อาจจะต้องการออกไปทำอะไรสักอย่างแล้วสมใจ) แบบตัวซี ติดแบบตะแขง ก็ไม่ดีไม่ร้าย ปกติ แต่ถ้าเป็นตัวยูคว่ำ หมายถึงการออกไปครั้งนั้น ไปพบเจอกับเรื่องไม่ดี โชคร้าย หรือ มีเพื่อนร่วมทางเสียชีวิต ก็เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆจาก ซารุ ที่ผมก็ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน อิอิ




ภาพนี้ผมโหลดมาให้เห็นชัดๆ อิอิ

     อกมาด้านนอกก็เห็นกับ คล้ายๆกับ หอนาฬิกา อยู่ด้านล่างไกลๆ ซารุ บอกว่าคือที่สุสารของช้าง โดยการเอางาช้างที่ล้ม(ตาย) มาติดไว้รอบๆหอคอย เพื่อเป็นการระลึกถึงช้างที่ล้มไป ก็ไม่ทราบว่าจริงแท้ประการใดเช่นเคย





    ออกมาอีกด้านที่รถจะมารับ ผมก็งงๆมีรถที่เป็นรถคล้ายๆกับรถที่เรานั่งมา(รถของบ.ทัวร์)จอดอยู่เต็มไปหมด ไหนทีแรกบอกขึ้นมาไม่ได้ไง (ตอนนั้นในใจคิดว่าสงสัยจะโดนตั้งแต่แรกเข้าเลย 555) ก็เก็บภาพไปเลื่อยรอรถที่เรานั่งมา ขึ้นมารับ ไม่นานก็มารับ เราลงจากที่นั่น หลังจากนั้นก็มาส่งเราที่เดิม ที่โอะนะกะโบ้ง จอดรถรอเราอยู่





     ถึงเวลาเคลียค่าใช้จ่าย ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ต้องทำให้อารมณ์เสียอีกแต่ก็มีจนได้ สำหรับ ซารุ ผมโอเคกับการบริการของเขา ให้ไป 300RP.
กับค่ารถ อีก 150 RP. (ที่ผมพึ่งจะรู้จาก คห.ที่ 8 ว่าถ้าโดยสารรถของรัฐ  แค่คนละ 10 RP. 555) สรุปจ่ายเงินรวม 450 RP.แต่ ซารุ ไม่มีเงินทอน ผมจึงเดินไปร้านขายของแถวๆนั้นเพื่อซื้อของแตกเงิน คิทแคท ที่ติวตัวมา 4 อัน หมดแล้ว ผมจึงจัดมาอีก 4 อัน แล้วก็ส่งให้ โอะนะกะโบ้งไป1อัน แค่นั้นแหละ มีพวกที่น่าจะเป็นคนขับรถรับจ้าง หรือ พวกเดียวกับซารุ อยู่ดีๆก็ หยิบขนม แล้วบอกให้ผมจ่ายให้ด้วย ผมงงอยู่แปปคิดว่าเขาพูดเล่น

ฉีกซองขนมต่อหน้าต่อตาผม เจ้าของร้านทอนเงินผมโดยคิดค่าขนมของคนนั้นด้วย ปิ๊ดแตกครับ คุณเป็นใครแล้วทำไมผมต้องจ่ายเงินให้ ระเบิดลงอีกครั้งครับ ผมโวยวายกับเจ้าของร้านว่ามาเก็บเงินที่ผมได้ไง ผมไม่รู้จักกัน ไอ้คนนั้นตีมึนเดินหนี แต่ผมไม่ยอม เจ้าของร้านต้องไปเก็บเงินที่เขาเองสิ ซารุเดินมาจ่ายแทน แล้วเจ้าของร้านก็ทอนเงินผมจนครบ ผมงงกับพฤติกรรม ของชายคนนั้นจริงๆ และถ้าผมยอม คมมากันหลายคน เพราะยืนกันเป็นหมู่คณะ

      ออกเดินทางต่อ ด้วยการขับรถที่บอกได้เลยว่า ไม่ต้องไปถึงสวนสนุกแค่คุณนั่งรถ ที่ชาวอินเดียขับในตอนที่มีรถบรรทุกเยอะๆ ก็เสียวได้ขับไม่เร็วครับ ความเร็ว ที่ 80-90 กม/ชม. แต่ตลอดการเดินทางอย่างที่บอก ไม่มียก แซงซ้าย แซงขาว แซงไหล่ทาง ความเร็วนี้ตลอด เหมือนเดิมครับง่วงแค่ไหนก็หลับไม่ลง

        เดินทางไปสักพักก็หยุดรับประทานอาหาร ที่น่าจะเป็นจุดเชือดนักท่องเที่ยวอีกตามเคย อาหารราคาพอทนได้ แต่บอกตามตรงเหมือน ของกินเล่นๆมากกว่าที่จะกินเพื่ออิ่มท้อง (สำหรับผมนะ) และน้ำแพงกว่าปกติมาก ด้านในส่วนใหญ่มีแต่ชาวต่างชาติ รถที่จอดส่วนใหญ่ก็เป็นแบบที่เรานั่งมา(บ.ทัวร์) อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่เราที่โดนเชือด อิอิ กินอาหารเสร็จ ก็มีห้องสำหรับซื้อของฝาก เราก็เดินดูเป็นพิธี แต่ไม่ได้ซื้ออะไร แต่แอบดีใจที่มีของแบบที่เราซื้อมา ที่นี้แพงกว่า 555

         ออกเดินทางต่อ ทุกๆครั้งที่ผมกับแฟนทานข้าว ผมไม่รู้ว่าโอะนะกะโบ้ง ไปทานตรงไหน แต่ถามทุกครั้งเค้าจะบอกว่าทานแล้ว(ดูเหมือนว่าจะทานจริงๆ) การจราจรหลังจากนั้นค่อนข้างสาหัส ติดมากขยับได้ทีละนิด เนื่องจากกำลังขยายถนนก็เลยต้องเบี่ยงไปเบี่ยงมาตลอดทาง ถึงเมือง Jaipur ก็เย็นๆ แต่ที่แย่กว่านั้น โอะนะกะโบ้งหลงทาง หาที่พักไม่เจอ เลยได้เห็นพฤติกรรม แปลกๆของชาวอินเดียในการขับรถ ไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นแบบนี้กันทุกคนหรือป่าว



         ยกตัวอย่างเช่น จอดถามทางกลางสี่แยก ขอย้ำว่ากลางสี่แยกเลย ผมนี่งงจริงๆ คนก็จอดบอกทางกลางสี่แยกเหมือนกัน 555 บางครั้งก็วิ่งย้อนศร แต่เค้าอื่นก็หลบทางให้ ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่  บางครั้ง วิ่งๆอยุ่เลน2 (ถนน3เลน) จอดเอาดื้อๆถามทางคันที่วิ่งเลนซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แล้วแต่โอกาสจะอำนวย หลงแบบนี้อยู่ในเมืองเป็นชม.สุดท้ายก็เจอที่พัก



         โปรแกรมเที่ยวเมืองจะไปในวันรุ่งขึ้น พอเราเอาของเก็บเรียบร้อย ก็เลยคิดว่าจะออกไปเที่ยวเอง อย่างที่บอกในก่อนหน้านี้ แฟนผมอยากได้ชุดส่าหรี เลยจะออกไปตลาด ที่น่าจะไม่ไกลจากที่พัก แฟนผมดูจากแผนที่ พอเดินออกมาหน้าโรงแรม โอะนะกะโบ้ง ถามว่าอยากไปไหนจะพาไป (ตอนนั้นคิดว่าขอไปเองบ้างเถอะ ขี้เกียจจะโดดเชือดแล้วอ่ะ) เขาบอกว่าถ้าไปเองจะอันตรายมาก มีคนไม่ดีเยอะ(ผมคิดว่าเจอมาเยอะแล้วเจออีกคนสองคนคงไม่เป็นไร 555) ผมก็ยืนยันที่จะไปเองเพราะจะไปใกล้ๆที่พัก

          ออกเที่ยวเองตอนกลางคืนดูๆก็น่ากลัวนะครับ เพราะบนนถนนส่วนมากแถบจะทั้งหมดมีแต่ผู้ชาย เพราะชาวอินเดียผูหญิงจะอยู่บ้านไม่ได้ออกมาทำงาน แฟนผมเปิดแผนที่เดินหาตลาด สุดท้ายก็เจอตลาด แต่บอกตามตรงนะครับว่าเดินไม่ต่ำกว่าครึ่งชม. เดินเที่ยวตลาดผมบอกแฟนว่าอยากได้อะไรให้บอกเดี๋ยวผมจะต่อราคาเอง

          สุดท้ายก็ได้ชุดส่าหรี่ พร้อมรองเท้า มาหนึ่งชุดนราคาที่น่าพอใจ(ทุกวันนี้ยังอยู่ในตู้ไม่เคยได้ใส่จริงๆสักครั้ง แค่ลองใส่ในวันที่ซื้อมา555)
หลังได้ของสนองกิเลส แฟนผมเรียบร้อย ก็เดินเล่นไปเลื่อยๆ คิดว่าจะหาที่ที่มี ฟรีWiFi เหมือนฟ้ามาโปรด เจอรร้านเม็คโดนัล ผมได้กินอะไรที่อิ่มท้องจริงๆซะที มีฟรีWiFiให้ใช้ด้วย

         ทุกอย่างดูราบรื่น แต่ขากลับ หลงทางครับหาทางกลับไม่ถูก 555 เดินงมทางกลับกันเป็นชม. เข้าซ.โน้น ซ.นี้ นับ10ๆซ.แต่ก็กลับไม่ถูก เวลาน่าจะเกือบ4ทุ่ม โชคดีที่เป็นในตัวเมืองก็เลยมีไฟทางอยู่บ้าง แต่ไม่สว่างเท่าไหร่ ร้านค้าก็ปิดเกือบหมดแล้ว ผมเริ่มห่วงความปลอดภัย(ทั้งที่จริงๆน่าจะปลอดภัย) สุดท้ายก็เลยใช้บริการ รถ3ล้อทีบ บอกชื่อโรงแรมเขาไป เขาบอกว่า 100 RP.เวรกรรมจริงๆ แพงกว่า3ล้อเครื่องของนายกระปุกที่เรานั่งในเดลีซะอีก แต่ทำไงได้ครับยอมๆไป เพราะดีกว่านอนข้างถนน 555


         นั่งรถจักรยาน3ล้อประมาณ 10กว่านาที ก็ถึงโรงแรมชื่อเดียวกันเลย Maharani Plaza แต่มันดูไฮโซกว่าที่เราพักเยอะ 555 เวรกรรม เหตุผลที่โอะนะกะโบ้ง หลงทางเมื่อตอนเย็นน่าจะเป็นเพราะมีสองที่ โชคดีที่มียาม หรือ พนักงานต้อนรับ(ใส่ชุดทหารโบราณ) เราจึงถามทางไปที่โรงแรมที่เราพัก เขาบอกว่าไปตามถนนอีกไม่ไกลก็ถึง ชี้ทางสว่างให้เรา จ่ายเงินค่าสามล้อเสร็จ เราก็เดินกันต่อไปในทางที่เขาบอก ไม่ไกลจริงๆแต่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน10กว่านาที 555 วันนี้ก็เลยสิ้นสุดลงเมื่อเรากลับถึงที่พัก

          ตอนต่อไปผมกับแฟนจะโดนหลอกอะไรกันอีก แต่บอกได้เลย โดนทุกวัน555
ปล.เรื่องราวทั้งหมดเกิดจากสถานการที่ผมเจอจริงๆ ความรู้สึกที่ผมบรรยายเป็นความรู้สึกส่วนตัว ที่ผมเองอาจจะมองในแง่ลบเองก็ได้ ไม่ได้มีเจตณาที่จะให้ร้าย ต่อบุคคลใด หรือสถานที่ใด แค่ต้องการให้เป็นภูมิต้านทานกลโกงต่างๆถ้า ได้พบเจอกับตัวของเพื่อนๆ อะไรบ้างอย่างที่ผมอาจจะมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ตอนก่อนหน้านี้   ตอนที่ 1   //pantip.com/topic/31959297
                          ตอนที่ 2   //pantip.com/topic/31964089

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความสนใจ ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นครับ กระทู้ญี่ปุ่นมีแต่เรื่องดีๆ ไม่ค่อยได้รับการตอบรับ เอาเรื่องน่าละอายที่รู้ไม่ทัน คนอื่น มาเล่าให้ฟัง ผลตอบรับดีกว่าเยอะ  ส่งสัยจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆมากกว่า 555



Create Date : 30 เมษายน 2557
Last Update : 30 เมษายน 2557 4:05:52 น.
Counter : 574 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Imuchan
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ประสบการณ์ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องหาเอง
เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
27
28
29
 
 
All Blog