การปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพราะ ปตท. จริงหรือ?
จากสถานการณ์การปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศที่มีการปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้(ส.ค.59)ทำให้ ปตท. ตกเป็นเป้าโจมตีของคนในโซเชียลบางกลุ่ม (อีกครั้ง)โดยมองว่า ปตท. มีส่วนสำคัญในการตั้งและปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศและการปรับราคาพลังงานทำให้ ปตท. มีกำไรสูงขึ้น เป็นการขูดรีดประชาชน โครงสร้างราคาน้ำมันแบ่งออกเป็น 4 ส่วนย่อยได้แก่ 1. ราคาหน้าโรงกลั่น 2. ภาษีต่างๆ 3. กองทุนน้ำมัน 4. ค่าการตลาด โครงสร้างการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ได้แก่ ราคาหน้าโรงกลั่นเป็นราคาที่อ้างอิงจากตลาดราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ใกล้ที่สุด(ต้องคิดค่าขนส่งตามระยะจากตลาดกลางนั้นมาที่ประเทศ หากอ้างอิงตลาดที่อยู่ไกลย่อมเสียค่าขนส่งมาก) ซึ่งในที่นี้คือตลาดน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เมื่อสิงคโปร์มีการปรับราคาประเทศไทยก็จะมีการอ้างอิงและปรับตามไม่เกิน 3 วันทำการดังนั้นราคาหน้าโรงกลั่นจึงเป็นราคาอ้างอิงที่ไม่สามารถกำหนดเองได้ ภาษีต่างๆ ในส่วนของภาษีนั้น รัฐเป็นผู้กำหนดและดูแลจะเห็นว่าประเทศไทยเสียภาษีน้ำมันค่อนข้างสูง เนื่องจากประเทศไทยจัดประเภทของน้ำมันเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยดังนั้นภาษีจึงเป็นนโยบายของรัฐ และปตท. ไม่มีสิทธิ์กำหนด กองทุนน้ำมัน เป็นหน้าที่ของ กบง.ในการกำหนดควบคุมการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน โดยจะเห็นว่าปัจจุบันราคาน้ำมันบางชนิด ยังมีการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันอยู่เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้เช่นน้ำมันตระกูลเอทานอล E20 และ E85 นอกจากนี้กองทุนน้ำมันยังมีหน้าที่คอยเป็นกันชนยามที่ราคาน้ำมันเกิดการผันผวนโดยกองทุนน้ำมันเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐ และ ปตท.ไม่ใช่ผู้กำหนดการจัดเก็บกองทุนน้ำมัน ค่าการตลาด เป็นส่วนเดียวในโครงสร้างราคาที่ผู้ประกอบการมีสิทธิ์กำหนดโดยค่าการตลาดนั้น จะเป็นส่วนของกำไรที่แบ่งกันระหว่างแบรนด์และเจ้าของปั๊มโดยยังไม่ได้หักต้นทุนการดำเนินการของปั๊ม ซึ่งแม้ว่าค่าการตลาดผู้ประกอบการมีสิทธิ์กำหนดเอง แต่ค่าการตลาดเฉลี่ยน้ำมันทุกชนิดอยู่ที่ 2 บาทเท่านั้น หมายความว่าส่วนที่ผู้ประกอบการ(หรือที่โซเชียลบางกลุ่มเข้าใจว่าคือ ปตท.) สามารถกำหนดเองได้ อยู่ที่ไม่เกิน 2บาทของน้ำมันแต่ละประเภท และใช่ว่าจะสามารถปรับราคาเท่าไหร่ก็ได้เพราะประเทศไทยเป็นการค้าเสรี หากปรับราคาสูงเกินไปก็มีสิทธิ์ที่แบรนด์อื่นจะขายในราคาถูกกว่าได้ดังนั้นส่วนของค่าการตลาดจึงมีกลไกตลาดคอยควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ส่วนการปรับราคาน้ำมันนั้นจะใช้การดู ค่าการตลาด เป็นหลัก โดยเมื่อตลาดน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ มีการขยับปรับขึ้นราคาน้ำมัน ราคาหน้าโรงกลั่นในประเทศที่อ้างอิงกับตลาดสิงคโปร์ก็จะขยับขึ้นราคาน้ำมันตาม ทำให้ ค่าการตลาดปรับตัวลดลง ก็จะมีการประกาศขึ้นราคาน้ำมันให้ค่าการตลาดกลับมาเฉลี่ยที่ 2 บาทกลับกันเมื่อน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์มีการขยับลดก็จะมีผลให้ค่าการตลาดในประเทศสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ย และส่งผลให้มีการปรับลดราคาเพื่อคงค่าการตลาดเฉลี่ยไว้ ดังนั้นหากจะสรุปว่า ปตท. เป็นผู้กำหนดราคานั้น จึงไม่เป็นความจริงเพราะโครงสร้างราคาน้ำมันนั้น มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อราคาขายหน้าปั๊ม ปตท.เป็นเพียงหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีหน้าที่กำหนดเพียงค่าการตลาดเพื่อให้แบรนด์และปั๊มสามารถอยู่ได้เท่านั้น สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่www.รู้จริงพลังงานไทย.com/การปรับขึ้นราคาน้ำมัน/ //samtahantoptt.blogspot.com/
Create Date : 23 สิงหาคม 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 23 สิงหาคม 2559 10:45:34 น. |
Counter : 966 Pageviews. |
|
|
|