|
ความรู้ไวรัสเเละวัคซีนเกี่ยวกับหมา
ความรู้พื้นฐานเรื่องไวรัส และการฉีดวัคซีนในหมา ไวรัสบางตัวนั้นทำให้เกิดโรคได้ เช่นโรคพิษสุนัขบ้า(Rabies),โรคไข้หัดสุนัข(Canine Distemper)เป็นต้น ในปกติไวรัสยังไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้เองในสภาพแวดล้อมปกติ แต่หากว่าไวรัสได้ไปอยู่ในสิ่งมีชีวิตจะสามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างมากมาย จนบางทีทำให้เซลล์ที่ไวรัสอาศัยอยู่แตกได้ ทำให้ไวรัสพวกนั้นแพร่กระจายไปส่วนอื่นๆของร่ายกาย
ในปัจจุบันไวรัสส่วนมาก(ไม่กล้าบอกว่าหมดหรือเปล่า แต่เป็นส่วนใหญ่) จะมีคุณสมบัติที่น่ากลัวคือการที่ตัวมันกลายพันธ์ได้ง่าย,ดื้อยาได้ง่าย ทำให้ปัจจุบันการรักษาไวรัสส่วนใหญ่(ไม่กล้าบอกว่าหมดหรือเปล่า)ยังไม่มียาฆ่าไวรัสโดยตรง การรักษาคือการประคองอาการจนร่างกายสามารถสร้างภูมิค้มกันกำจัดไวรัสออกไปเอง เเละยาส่วนใหญ่จะใช้ป้องกันการเเพร่กระจายของไวรัส ซึ่งกลไกร่างกายหากว่าร่างกายเคยได้รับเชื้อโรค(ไม่ว่าจะเป็นไวรัส,แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค)ไปแล้วครั้งหนึ่งร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันจำโรคตัวนั้นได้ เมื่อได้รับเชื้อโรคพวกนี้อีกครั้ง จะทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไปทำลายทันทีเราเรียกภูมิคุ้มกันชนิดนี้ว่า ภูมิคุ้มกันก่อเอง(Active Immunity)ซึ่งภูมิคุ้มกันก่อเองนั้นในบางเชื้อโรคระยะเวลาในการจำเชื้อโรคแตกต่างกันไป
จากความรู้จุดนี้ทำให้เกิดการสร้างวัคซีน(vaccine)ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ตายเเล้วหรืออ่อนฤทธิ์ลงจนไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ ฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นร่างกายขึ้นมาต่อต้านเชื้อโรคนั้นๆ ทำให้ร่างกายเกิดภูมิคุ้มกันก่อเองของโรคนั้นขึ้นมาและบางโรคจะมีการฉีดซ้ำเพราะว่าระยะเวลาในการจำเชื้อโรคของภูมิคุ้มกอ่เองแตกต่างกันไป
ในบางกรณีหากหมามีภูมิคุ้มกันก่อเองระดับหนึ่ง เมื่อได้รับเชื้อโรคมานั้นจะไม่มีผลกระทบต่อตัวหมาเอง แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคออกได้หมด ทำให้หมาตัวนั้นเป็นพาหะในการนำเชื้อโรคติดอยู่ เมื่อหมาตัวนั้นได้ไปใกล้กับลูกหมาซึ่งมีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าจะเกิดการติดต่อกันทำให้ลูกหมาตัวนั้นเป็นโรคได้ เช่นโรคลำไส้อักแบบพาร์โวไวรัสหรือในกรณีของคนที่เจ้าของหมาเขียนป้ายติดไว้ว่าอย่าให้ลูกหมาเลียมือเป็นต้น
ในกรณีลูกหมากินนมเหลืองจากแม่หมาในนมเหลืองจะมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วทำให้ลูกหมานั้นมีภูมิคุ้มกันบางโรค แต่ภูมิค้มกันเหล่านั้นจะอยู่ในระยะสั้นๆเท่านั้น เปรียบง่ายๆคือภูมิคุ้มกันก่อเองเหมือนนักกีฬาที่ออกกำลังกายจนมีกล้ามเนื้อขึ้นมาแต่ในกรณีนมเหลืองนั้นเหมือนยาโดบเร่งการมีกล้ามเนื้อเมื่อยาหมดฤทธิ์ก็ทำให้กล้ามเนื้อลดลงเพียงแต่ภูมิคุ้มกันจากนมเหลืองไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาโดบ
เพราะฉะนั้นการนำลูกหมามาฉีดวัคซีนก่อนกำหนดนั้นจะไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลยเพราะเชื้อโรคที่อ่อนแรงในวัคซีนนั้นจะถูกกำจัดโดยภูมิคุ้มกันจากนมเหลืง ทำให้ไม่เกิดภูมิคุ้มกันก่อเอง
ในบางกรณีหากโปรแกรมฉีดวัคซีนมี3ครั้งแต่เราฉีด4ครั้งก็จะไม่มีผลกระทบใดๆต่อหมาเพราะในการฉีด3ครั้งแรกตามโปรแกรมที่วิเคราะห์แล้วว่าทำให้หมาสร้างภูมิคุ้มกันได้เพียงพอ เมื่อฉีดครั้งที่4ไปร่างกายจะกำจัดเชื้อโรคอ่อนแรง(วัคซีนครั้งที4)นั้นออกไปตามปกติ การที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันก่อเองได้นั้นต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะฉะนั้นหากว่าพึ่งพาหมาไปฉีดวัคซีนมาเสร็จใหม่ๆยังไม่ควรนำออกไปเที่ยวเพราะร่างกายยังสร้างภูมิคุุุุ้มกันยังไม่เสร็จอาจทำให้เกิดโรคได้ ควรให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันอย่างน้อย2สัปดาห์ แล้วก็เนื่องจากวัคซีนเป็นเชื้อโรคที่อ่อนแรงยังไงมันก็คือเชื้อโรคก่อนนำหมามาฉีดวัคซีนควรให้หมามีร่างกายที่แข็งแรง
ข้อมูลนี้มาจากหนังสือไวรัสวิทยาผมจำไม่ได้เเล้วว่าเอามาจากไหนเดี๋ยวจะหาเเหล่งข้อมูลมาลงให้ครับ หมายเหตันนี้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำวัคซีนจาก //members.lycos.co.uk/dogtor2home/art2.htm โปรแกรมวัคซีน-เรื่องเกี่ยวกับวัคซีน โปรแกรมวัคซีน (ณ. รพส.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2547) สุนัข 1 เดือน ฉีด วัคซีน หลอดลมอักเสบ + ถ่ายพยาธิ 1 เดือน ครึ่ง ฉีด วัคซีน ลำไส้อักเสบ (Parvo virus) หรือ ไข้หัดสุนัข(Distemper) อย่างใดอย่างหนึ่ง 2 เดือน วัคซีน รวม 5 โรค เข็มแรก(ลำไส้,ไข้หัด,ฉี่หนู,ตับอักเสบ,หลอดลม) 2 เดือน ครึ่ง วัคซีนรวม เข็ม 2 3 เดือน พิษสุนัขบ้า เข็ม แรก 3 เดือน ครึ่ง วัคซีนรวมเข็ม 3 6 เดือน พิษสุนัขบ้า เข็ม 2 หลังจากนั้น ฉีดกระตุ้นทุกโรค ปีละ 1 ครั้ง ป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจ กิน เดือนละ 1 ครั้ง เริ่มที่ อายุ 1 เดือน ครึ่ง หรือ ฉีด ทุก 2 เดือน เริ่ม ที่ อายุ 3 เดือน ขึ้นไป แมว 1 เดือน ถ่ายพยาธิ 2 เดือน วัคซีนรวมไข้หัดแมว เข็มแรก 2 เดือน ครึ่ง วัคซีน ลิวคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) เข็มแรก 3 เดือน วัคซีนรวมไข้หัดแมวเข็ม 2 และ พิษสุนัขบ้า 3 เดือน ครึ่ง วัคซีน ลิวคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) เข็มสอง 6 เดือน พิษสุนัขบ้าเข็ม 2 หลังจากนั้น ฉีดกระตุ้นทุกโรค ปีละ 1 ครั้ง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อื่น ๆ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปีละ 1 ครั้ง วัคซีนชนิดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลีนิค แมว - โรคผนังช่องท้องอักเสบ หวัดแมวอีกบางชนิด เกร็ดเล็กๆ อื่นๆ ที่สำคัญ
- สุนัข แมว ที่ไม่ได้มาเริ่มวัคซีนตามเวลาข้างต้น สามารถเข้าโปรแกรม ตามนั้นได้เลยครับ แต่อาจจะฉีดในจำนวนน้อยเข็มกว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคุณหมอนะครับ - โปรแกรมที่ไม่เหมือนอย่างนี้เป๊ะ ไม่ได้ผิดนะครับ อยู่ที่ดุลพินิจของคุณหมอด้วยนะครับ บางที่ อาจจะกระตุ้น วัคซีน รวม แค่ 2 เข็มก็มี แต่ก็ไม่ได้เป็นโรคอะไรหรือ อาจจะเป็น แต่ไม่รุนแรงเท่าตัวที่ไม่ได้ทำวัคซีนเลย ซึ่งแต่ละกรณีก็แตกต่างกันไป ตามสถานะการณ์ครับ บางตัวแข็งแรง ก็ไม่เป็นโรค - สรุปแล้วคือ ปัญหาที่เจอเป็นโรคแล้วเสียชีวิตส่วนใหญ่ คือเจ้าของไม่ได้พาไปทำวัคซีนตามเวลาที่กำหนด เสียมากกว่าครับ - สรุปอีกที คือ "พาเขาไปฉีดบ้างดีกว่าไม่ฉีดเลยครับ" เอาแค่นี้ก่อนครับ - วัคซีนจะทำงาน ป้องกันโรคให้กับ สัตว์เลี้ยงได้ต่อเมื่อ เลย 2 - 4 สัปดาห์ไปแล้วหลังทำวัคซีนแล้ว และสัตว์เลี้ยงต้องสุขภาพสมบูรณ์เท่านั้น ดังนั้นการฉีดเมื่อวันที่ซื้อมาเลี้ยงจึงไม่เป็นผลดี ทำให้สัตว์เลี้ยงมีความเครียดมากขึ้นเสียอีก - การทำวัคซีนที่เร็วกว่าโปรแกรมข้างต้น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรครับ เพราะ ก่อนอายุ ตามโปรแกรมข้างต้นนั้น ลูกสุนัข ยังคงมีภูมิคุ้มกันที่มาแต่กำเนิดจากแม่ คุ้มครองเขาอยู่ การฉีดวัคซีนที่เร็วกว่ากำหนด รังแต่จะไปรบกวน กับภูมิคุ้มกันของแม่จนไม่สามารถป้องกันโรคได้ ทำให้เกิดติดโรคขึ้นได้ - การทำวัคซีนก่อนกำหนดสามารถทำได้ น่าจะเป็นโดยสาเหตุ เช่น แม่สุนัขไม่ได้ทำวัคซีนมาเลย หรือทำวัคซีนไม่ครบ , แม่ตายหลังคลอดไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ ลูกไม่ได้รับนมน้ำเหลือง,มีการระบาดของโรคนั้น ๆในบ้านหรือแถบระแวกที่อยู่นั้น ๆ (กรณีอื่นๆ แล้วแต่คุณหมอวินิจฉัย) เมื่อเป็นตามกรณีข้างต้น ก็ควรที่จะเคร่งครัดการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามโปรแกรมครับ - ยาถ่ายพยาธิ ในสุนัข ถ่ายซ้ำทุก 7-10 วัน ได้ 2-4 ครั้ง ในแมว ครั้งเดียวครับ ถาม แล้วมาฉีดวัคซีนกระตุ้นนี้ สายได้ไหมครับ บางทีไม่ว่าง ตอบ สายได้ ครับ แต่ไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์ครับ ยังพอไหวครับ (อยู่ในช่วงห่างจากคราวก่อน 2-4สัปดาห์) แต่ถ้าแถวบ้านมีการระบาด และสัตว์มีโอกาสสัมผัสเชื้อจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ต้องระวังเป็นพิเศษครับ
ถาม ทำไมต้องห้ามอาบน้ำ 7 วัน ตอบ ตัดปัญหาการป่วยหลังทำวัคซีนครับ เพราะถ้าป่วยหลังทำวัคซีน วัคซีนจะไม่ได้ผลครับ แต่ถ้าสุนัขแข็งแรงก็ไม่มีปัญหาอะไรอาบได้สบาย
ถาม พยาธิหนอนหัวใจแบบฉีดหรือกินมีข้อดีข้อเสียยังไง ตอบ แบบกินเจ้าของไม่ต้องพาสุนัขไปหาหมอ ซื้อมากินได้เลย แต่ต้องกินทุก 1 เดือน แบบฉีด ได้ 2 เดือนครั้ง สามารถถ่ายพยาธิตัวกลมภายในได้ (ขึ้นอยู่กับขนาดยาที่คุณหมอฉีด) และฆ่าพวกเห็บได้ (คุมได้ประมาณ 20-30วัน) แต่ถ้าซื้อยาแบบกินที่เรียกว่า Heart-guard plus ก็สามารถถ่ายพยาธิตัวกลมภายใน (บางตัว) ได้เช่นกัน
ขอให้ท่่านที่่เอาบทความไปไม่ว่าจะเอาไปโพสที่ไหนหรือทำอะไรกรุณาคัดลอกที่มาข้างบนด้วยครับ ไม่ใช่ชื่อblogของผมเเต่ชื่อตัวเว็บของผู้จัดทำ เพื่อเป็นเกียรติเเก่ผู้จัดทำบทความ น้องพจน์(honghong)
Create Date : 18 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 17 ธันวาคม 2549 16:41:56 น. |
|
3 comments
|
Counter : 159 Pageviews. |
|
|
|
โดย: DJ IP: 203.113.32.11 วันที่: 18 ตุลาคม 2549 เวลา:18:58:53 น. |
|
|
|
โดย: honghong (TRM hong ) วันที่: 18 ตุลาคม 2549 เวลา:19:20:13 น. |
|
|
|
โดย: sonya IP: 203.130.159.2 วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:23:55:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|