ขอนอมน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ตรัสรู้เองชอบพระองค์นั้น
|
|||
คันฉ่องและโคมฉายหัวใจเศรษฐี (๔)-ใกล้เกลืออย่ากินด่าง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เท่าที่อาตมาทราบมา อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ มีธรรมเนียมอยู่อย่างหนึ่ง คือประธานาธิบดีทุกคนของสหรัฐอเมริกา เมื่อก้าวลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะว่าหมดวาระแล้ว ทุกคนจะกลับไปยังบ้านเกิดของตัวเอง เพื่อสร้างห้องสมุดแห่งความทรงจำไว้ที่บ้านเกิด นัยว่าเพื่อรวบรวมทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเป็นประธานาธิบดี หรือที่ได้มาในขณะเป็นประธานาธิบดี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะของที่ระลึก ของมีค่าทั้งหมด ของแขกบ้านแขกเมือง ไปเก็บไว้ในห้องสมุดที่เขาสร้างขึ้นมา นี่คือสุดยอดวัฒนธรรมของการรู้จักเปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม ที่ประเทศมหาอำนาจของโลกได้สร้างแบบแผนอันควรเจริญรอยตามเอาไว้ให้แก่ชาวโลก หลายปีก่อน (พ.ศ.๒๕๔๙) อาตมภาพได้รับอาราธนาให้ไปปฏิบัติศาสนกิจและเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (ฮาร์วาร์ด เป็นมหาวิทยาลัยที่นายแพทย์จอห์น ฮาร์วาร์ด บริจาคเงินทุนก่อตั้ง และมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีเงินทุนพัฒนามหาวิทยาลัยมากที่สุดในโลก ซึ่งเงินทุนที่ว่านี้ล้วนเกิดจากการบริจาคของศิษย์เก่าที่ย้อนกลับมาเห็นคุณค่าของมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น) และมหาวิทยาลัยเอ็มไอที ที่นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เสร็จแล้วยังได้แวะไปเยี่ยมห้องสมุด จอห์น เอฟ เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีที่อเมริกันชนรักและชื่นชมมากที่สุดคนหนึ่ง ไปเห็นกับตาแล้วก็ชื่นใจมาก กล่าวกันว่า ตอนนี้ บิล คลินตัน และ จอร์จ ดับเบิลยู บูช อดีตประธานาธิบดีทั้งสองท่าน ก็กำลังสร้างห้องสมุดสาธารณะของตัวเองอยู่เหมือนกัน นี่คือวัตรปฏิบัติของผู้นำแห่งประเทศมหาอำนาจที่มีคนสำคัญๆ มากที่สุดในโลก การที่เขาเป็นประเทศมหาอำนาจก็เพราะเขาเรียนรู้ที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดีๆ ให้แก่คนรุ่นหลัง นั่นก็คือ การเปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม เปลี่ยนมหาวาณิชเป็นมหาเศรษฐี ที่อเมริกาคนชั้นนำของเขามีวัฒนธรรมอย่างนี้ ประเทศนี้จึงมีกองทุนหรือมูลนิธิเพื่อการกุศลมากที่สุดในโลก จริงอยู่ ถึงแม้อเมริกาไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เขาก็สร้างสรรค์ความเจริญได้ในทุกด้าน เพราะอะไร เพราะว่าเขามีคนที่มีจิตสำนึกสาธารณะสูงมาก เขาคิดถึงคนรุ่นหลังเสมอ จอห์น เอฟ เคนเนดี เคยกล่าวว่า อย่าถามว่าประเทศ (อเมริกา) จะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามว่า ท่านจะให้อะไรแก่ประเทศ (อเมริกา) นี่คือทัศนคติที่สอนให้คนอเมริการู้จักเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คนชั้นนำเหล่านี้นั้น เขาถือว่าเมื่อตนเป็นที่พึ่งของตนได้แล้ว เขาก็เรียนรู้ที่จะให้คนอื่นได้พึ่งบ้าง กล่าวสั้นๆ ว่า ตนเป็นที่พึ่งของตน จากนั้นจึง ให้คนอื่นเขาได้พึ่ง ฝรั่งรู้จักเปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม เปลี่ยนโลกิยทรัพย์ให้เป็นอริยทรัพย์ นี่เขาทำตัวอย่างให้เราดู แต่รู้ไหมว่าต้นแบบดีๆ อย่างนี้มาจากไหน ที่ฝรั่งทำๆ กันอยู่ทุกวันนี้ ต้นแบบก็มาจากพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่น่าชื่นใจมาก เมื่อรู้ว่าต้นแบบมาจากพระพุทธศาสนา และมาจากไหน มาจากพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเอง |
Thus Spoke Eitthakorna
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ พุทโธ พุทโธ "ใจทั้งปวง จงสงบเย็นเป็นสุขเถิด การกระทำทั้งปวงของเรา จงยังใจทั้งหลายให้สงบเย็นเป็นสุขเถิด ใจที่สงบเย็นเป็นสุขแล้ว ประเสริฐจริงหนอ ใจทั้งปวง จงมีดวงตาเห็นธรรมเถิด..." Group Blog
All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |