เล่าเรื่อง กินผัก จริงๆแล้วผมอยากจะเล่าเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เสียมากกว่า เพราะว่าสมัยเด็กๆ ผมคลุกคลีกับประเพณีกินผักมากพอสมควร ซึ่งมักจะเป็นปกติของเด็กตลาดเก่า จริงๆแล้วรายละเอียดต่างๆในพิธีกินผักมีมากจนไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ทั้งหมดทุกแง่มุม และส่วนที่ผมได้สัมผัสเป็นแค่เพียงเสี้ยวเล็กๆ แต่หากใครสงสัยอะไรก็ตั้งกระทู้ถามแล้วกันนะครับ ถึงจะตอบไม่ได้ก็จะพยายามสืบถามจากผู้รู้ให้ครับ อาจจะช้าไปนิดสำหรับกระทู้นี้ ได้แต่หวังว่าอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครบางคนอยากจะไปร่วมงานกินผักปีหน้าบ้างก็ได้ โดยความเห็นส่วนตัวแล้วผมคิดว่า วัตถุประสงค์หลักของงานกินเจน่าจะอยู่ที่ “การไม่เบียดเบียนชีวิต” ส่วนเรื่องพิธีกรรมและปาฏิหาริย์ต่างๆน่าจะเป็นกุศโลบายที่คนโบราณใช้สำหรับดึงดูดคนมาร่วมพิธีเสียมากกว่า การกินผักของชาวตะกั่วป่าจะไม่เหมือนการกินผักโดยทั่วๆไปบางประการ เช่น ไม่เน้นชนิดของผักที่กินได้หรือไม่ได้ ผักที่มีกลิ่นฉุนบางชนิดก็สามารถกินได้ เช่น ผักชีล้อม โหระพา ฯลฯ แต่จะไม่กินเนื้อสัตว์โดยสิ้นเชิง รวมไปถึงหอยนางรมด้วย ที่แปลกกว่าใครเขาก็คือ กิน"นม"ได้ ไม่ว่าจะนมสดหรือนมข้น(หากไปกินผักที่ตะกั่วป่า ไม่ต้องกลัวขาดโปรทีนและแคลเซียม) หากใครไม่แน่ใจว่า อะไรกินได้หรือไม่ ก็ให้เอาปิ่นโตมารับอาหารจากอ๊าม หรือโรงพระ หรือโรงเจไปกินที่บ้าน หรือจะกินในโรงครัวของอ๊ามเลยก็ดี บรรยากาศของการกินผักสำหรับคนวงใน หมายถึงคนที่มีบ้านอยู่ใกล้อ๊าม,เป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิธีกรรมในอ๊าม หรือเป็นม้าทรง (คนทรงเจ้า) จะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อนกินผัก ใครที่มี กิมซิ้น (รูปสลักแทนองค์เจ้าต่างๆ) ก็จะนำกิมซิ้นมาร่วมพิธีที่อ๊าม คล้ายๆเป็นการปลุกเสกประจำปี เพิ่มความขลัง โดยปกติแล้ว กิมซิ้นในอ๊ามจะมีไม่มากนัก แต่ในช่วงกินผักแทบจะไม่มีที่วางเอาเลยทีเดียว เด็กๆหรือผู้มีจิตศรัทธาที่จะช่วยงานอ๊ามก็จะไปช่วยกันเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ธง, เก่ว (หรือเกี้ยว จะมี 2 หลัง เรียกว่า เก่วหนุ่ม และ เก่วเฒ่า ในวันแห่พระ เก่วหนุ่มจะบรรจุด้วยกิมซิ้นพระไว้ภายในหลายองค์ และจะมีการผูกกิมซิ้นของพระต่งตั๋นหวั่นโซ่ยไว้หน้าเก่วหนุ่ม เก่วหนุ่มนี้จะเป็นเก่วที่มีการจุดประทัดใส่ คนที่หามเก่วส่วนมากก็จะเป็นวัยรุ่นหรือหนุ่มๆที่ใจกล้าเป็นคนหาม (น่าจะเป็นกุศโลบายให้คนหนุ่มหรือวัยรุ่น ได้มีเวทีสำหรับการแสดงความกล้าอย่างเปิดเผย และเป็นที่ยอมรับ) ตลอดเวลาที่แห่ เก่วหนุ่มจะต้อง เว หรือ ไกว ตลอดเวลา ส่วนเก่วเฒ่า จะเป็นเก่วที่ประทับของพระประธานในพิธีกินผัก ซึ่งเรียกว่า กิ้วอ๋องไต่เต่ และ ยกอ๋องส่งเต่ ผู้แบกมักจะเป็นคหบดี หรือผู้อาวุโส เก่วนี้จะไม่เว หรือไกว และห้ามจุดประทัดใส่เด็ดขาด เคยมีคนลองดีจุดประทัดใส่ แล้วปรากฏว่าคนคนนั้นประสบเคราะห์ร้ายหลายอย่างเลย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่) โดยเฉพาะเก่วหนุ่มจะมีการนำมาขัดสี ทาสี เขียนลายใหม่เกือบทุกปี เนื่องจากลายเดิมมักจะชำรุดทรุดโทรมด้วยอานุภาพประทัด, แส้, เครื่องมือแสดงอภินิหารต่างๆ, ลับมีด ลับดาบ ทำความสะอาดเกี่ยม (เหล็กแหลมที่ใช้แทงแก้ม) ขวาน ลูกตุ้มหนาม, จัดการเตรียมพิมพ์ฮู่ หรือ ฮู๋ (กระดาษยันต์สีเหลือง) โดยจะมีแม่พิมพ์ไม้สำหรับพิมพ์ แล้วใช้ผงหมึกสีแดงผสมเหล้าขาวทาแม่พิมพ์ แล้วประทับลงบนกระดาษที่เตรียมไว้, เตรียม”ต๋อ” (หรือที่เห็นคล้ายๆผ้ากันเปื้อน แต่มีการปักอักษรจีนบอกชื่อพระ และลวดลายต่างๆ) ไว้สวมให้ม้าทรงตอนพระเข้าประทับ ส่วนคนครัวก็จะเตรียมหม้อชามรามไหต่างๆ ผู้มีจิตศรัทธาก็จะเริ่มนำวัตถุดิบจำพวก ข้าวสาร เต่าอิ๋ว จิ้วเฉ้ง น้ำมัน และวัตถุดิบในการปรุงอาหารต่างๆมาบริจาค เป็นไงครับ ดูโกลาหลดีไม๊ครับ แต่จริงๆแล้วด้วยแรงศรัทธา จะเป็นการช่วยๆกันทำ มีการแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ โดยมีผู้ประสานงานคือ หล่อจู้ และ หูหล่อจู้ (ผู้ช่วยหล่อจู้) ซึ่งได้มาจากการเสนอตัว, เสี่ยงทาย และคัดแลือกจากพระจีนในการกินผักปีก่อนหน้าแล้ว พอถึงตอนบ่ายๆของวันแรม สิบห้าค่ำเดือนเก้า ตามปฏิทินจีน (ดูได้จากปฏิทินที่ห้างร้านต่างๆนิยมแจกในท้องถิ่น เป็นปฏิทินแบบฉีกวันละใบ) วันนี้จะเรียกว่า “วันล้างบ้าน” ซึ่งเป็นพิธีกรรมปัดเป่าสิ่งไม่ดี และความโชคร้ายต่างๆออกจากบ้าน เด็กและผู้ใหญ่ที่มีศรัทธาร่วมพิธีจะไปพร้อมกันที่ศาลเจ้า โดยแต่งชุดขาว และมีผ้าคาดเอวสีเหลือง ผู้ทำพิธีทางพระจะอัญเชิญเจ้าเข้าทรง และออกทำพิธี “โก๊ยเฉ่งอิ๋ว” ตามบ้านต่างๆ ที่ตั้งโต๊ะไหว้เจ้าไว้หน้าบ้าน โดยเครื่องไหว้จะมี เทียน 1 คู่ (นิยมใช้เทียนสีแดง) ธูป ( 3 หรือ 9 ดอก ) ผลไม้ต่างๆ ที่นิยมมักเป็น ส้มเช้ง เนื่องจากชื่อเป็นมงคล กล้วยหอม กล้วยข้าว (กล้วยเล็บมือนาง) แต่ห้ามใช้กล้วยน้ำว้า (ไม่ทราบเหตุผล) ส้มแป้น องุ่น หม่าสี่กู๊ (ละมุด) หย่านัด (สับปะรด) หรือแล้วแต่สะดวก และที่ขาดไม่ได้คือ ป้านน้ำชา พร้อมถ้วยตะไลใส่น้ำชา 3 ใบ ขบวนที่ออกทำพิธีจะประกอบด้วย พระจีน เด็กที่ติดตามพระ (ยอมรับว่าในสมัยเด็กๆ ผมไปตามพระจีนเพราะความสนุกอยากตีกลอง มากกว่า พระจีนที่เข้าทรงจะต้องมี อากีก้อ หรือ กลอง และ ผ่าง อย่างละ 1 ชิ้นติดตามไปตลอดทาง เด็กๆส่วนมากอยากจะตีกลองมากกว่าผ่าง อีกประการคือ เวลาพระจีนแวะบ้านไหนก็จะนำผลไม้ที่บ้านนั้นๆนำมาไหว้ส่วนหนึ่งแจกให้กับเด็กๆที่ติดตาม พระจีนองค์ไหนที่ใจดี ก็จะมีเด็กๆติดตามเป็นพรวนเลย) และ “เฉ่งอิ๋ว” ซึ่งนับได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญทีเดียว หากนึกภาพ เฉ่งอิ๋วไม่ออก ให้ลองนึกภาพทัพพีตักแกงแบบกลมนะครับ แต่ตรงส่วนสำหรับตักจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-8 นิ้ว บรรจุด้วยกระดาษกิ้ม (กระดาษเงินกระดาษทอง) ที่ห่อไว้เป็นกระโจมรูปกรวย หล่อไว้ด้วยน้ำมันมะพร้าว ส่วนด้ามเป็นไม้ยาวประมาณเมตรเศษๆ ในขณะออกทำพิธีต่างๆจะมีการจุดไฟไว้ในเฉ่งอิ๋วด้วย เมื่อไปถึงบ้านที่ตั้งโต๊ะไหว้ พระจีนจะรับน้ำชา และแจกฮู๋ (กระดาษยันต์) ลายที่พิมพ์บนฮู๋จะเป็นอักษรจีนและลวดลายเฉพาะสำหรับพระจีนแต่ละองค์ ฉายอิ้วที่ตามพระจีนไปด้วยจะนำฮู๋นี้ไปติดไว้ที่คานบนของประตูหน้าบ้าน เพื่อไว้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆเข้าบ้าน แล้วพระจีนก็จะให้ลูกศิษย์ที่ติดตาม นำเฉ่งอิ๋วเข้าไปทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายภายในบ้าน โดยพระจีนจะบริกรรมคาถา แล้วลงแส้เป็นสัญญาณให้ลูกศิษย์ที่ไปด้วยอีกคน ใช้เหล้าขาวพ่นใส่เฉ่งอิ๋ว หากบ้านไหนมีตั๋ว (หิ้งสำหรับวางรูปกิมซิ้น) ก็จะทำการโก๊ยเฉ่งอิ๋วที่หน้าตั๋วด้วย ขบวนแห่ก็จะตระเวณทำพิธีนี้จนครบทุกบ้านในละแวกตลาดเก่า ซึ่งหากนับรวมระยะทางที่เดินก็น่าจะได้สักประมาณ 5 กม. หลังจากเสร็จพิธีโก๊ยเฉ่งอิ๋วแล้ว ก็จะเป็นพิธีรับพระ เพื่อมาเป็นประธานในพิธีกินเจต่อไป ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ เนื่องจากในขั้นตอนของพิธีรับพระนั้น ผมไม่ค่อยได้เข้าร่วม เพราะส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในอ๊ามเป็นผู้ดำเนินการ (หากใครมีประสบการณ์เรื่องนี้ หากจะช่วยแนะนำเพิ่มเติมจะเป็นพระคุณครับ) ส่วนมากจะทำพิธีรับพระในเวลาหลังเที่ยงคืนของคืนล้างบ้าน โดยจะมีการทำพิธีเสี่ยงทายเวลาในการรับพระ และยกเสาโกเต๊งไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากเสร็จพิธีรับพระ ก็จะเป็นพิธียกเสาโกเต๊ง ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มพิธีกินเจอย่างเป็นทางการต่อไป ..   Create Date : 14 กรกฎาคม 2548 37 comments Last Update : 14 กรกฎาคม 2548 8:38:52 น. Counter : 1056 Pageviews. Share Tweet

น่าจะมีรูปมาโชว์ด้วยนะคะ เราก็ชอบกินผัก อร่อยดี   โดย: Angel Tanya 14 กรกฎาคม 2548 8:41:43 น.

เนี่ย .... ยังมีพิธีอีก 9 วันนะ บยังไม่ได้เขียนเลย   โดย: Sergio (Sergio Garfield ) 14 กรกฎาคม 2548 8:45:00 น.

ขอบอกว่าประเพณีกินเจนั้นเดิมเป็นการไว้ทุกข์ให้ฮ่องเต้องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ซ่ง(สังเกตุการแต่งชุดขาว หมายถึงการไว้ทุกข์ของคนจีน ไม่เชื่อไปถามดู)ที่ถูกชาวมองโกลไล่ล่าจนท่านต้องตกน้ำตาย เมื่อเขาพบพระศพฮ่องเต้จึงจัดงานศพขึ้นเพอื่มิให้ฝ่ายมองโกลรู้จึงได้จัดเป็นประเพณีกินเจบังหน้า บอกพวกมองโกลว่าเป็นการบูชาดาวเหนือแห่งโรคภัย(ปักเต๋าแชกุน)ดังนั้น กินเจคือการไว้ทุกข์นั่นเอง   โดย: ผู้ที่รู้เรื่องกินเจ IP: 210.86.186.101 23 กันยายน 2548 0:14:11 น.

การกินเจไม่สมควรจะมีประทัดจุด ถ้าใครเคยเห็นหนังจีนเวลาขุนนางผู้ใหญ่หรือฮ่องเต้มาทุกคนจะเงียบสงบ ทุกคนในที่นั่นจะต้องก้มหน้าไม่แหงนมองเลย กิ๊วอ๋องก็เปรียบเหมือนฮ่องเต้พระองค์หนึ่งเหมือนกัน คนภูเก็ตเข้าผิดคิดว่าพระท่านคงชอบเสียงดังกระมัง กระหน่ำจุดใหญ่เชียว นอกจากจะทำให้ของศาลเจ้าเสียหายซึ่งเท่ากับทำบาปแล้ว การจุดประทัดอาจทำให้คนบาดเจ็บเท่ากับเป็นการทำกรรมอีก สรุปกินเจก็คงจะไม่ได่บุญกลับไปหรอกแบบนี้   โดย: คนภูเก็ต IP: 210.86.186.101 23 กันยายน 2548 0:19:15 น.

การกินนมสามารถกินได้เพราะถือว่าเราไปเอานมเขามาไม่ได้ทำให้วัวตาย จึงถือว่ากินได้ครับ แต่สิ่งที่ห้ามได้แก่ผักฉุน5ชนิดอันจะกระตุ้นราคะได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเยว ผักชี ต้นหอม เป็นต้น(หากผิดก็ขออภัยไม่แน่ขัดในข้อมูล)   โดย: เด็กจุ้ยตุ่ย IP: 210.86.186.101 23 กันยายน 2548 0:22:47 น.

ตามมาอ่านด้วย อีก   โดย: ใหญ่ IP: 203.150.200.2 11 พฤศจิกายน 2548 8:27:22 น.

เราว่าการเขียนมานั้นดีมากเลยแหละเราเป็นเด็กอ๊ามเหมืออนกันแต่เราเด็กผู้หญิงที่ทั้งตตระกูลลงพระมีแต่เราคนเดียว   โดย: เด็กภูเก็ตอ๊ามท่าเรือ IP: 61.19.27.214 14 กันยายน 2549 10:30:59 น.

น่าจะมีรูปภาพนะจะได้ถ่ายทอดอะไรใหม่ๆๆบ้างนะคะ   โดย: เด็กอ๊ามบ้านเคียน IP: 61.19.27.214 14 กันยายน 2549 10:34:23 น.

ได้ความรู้มากเลยค่ะ แต่....ผู้เขียนทานเจรึป่าวเอ่ย   โดย: มดน้ำ IP: 125.24.154.195 26 ตุลาคม 2549 15:39:16 น.

ที่จังหวัดกระบี่มีโรงเจคือ( โรงเจม้าจ้อโป๋ ) บ้านทุ่งหมู่ 2 ตำบลเขาคราม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ อย่าลืมแวะไปบ้าง   โดย: ชาวโรงเจ IP: 221.128.91.112 30 ธันวาคม 2549 17:50:30 น.

ก้อตั๋ว รายงานตัวด่วน   โดย: เเ IP: 203.113.71.135 31 ธันวาคม 2549 14:59:24 น.

อ๊ามที่คลองท่อมมาดิ อ๊ามจ้อชูก๋ง จ.กระบี่   โดย: แบงค์ IP: 203.113.71.135 3 กุมภาพันธ์ 2550 21:30:09 น.

การเล่นประทัดของบรรดาผู้ศรัทธาในองค์เจ้าถือเป็นความสมัครใจของผู้หามเก่วเอง โดยไม่มีผู้ใดบังคับมีแต่จะแย่งกันหามเพราะความศรัทธา โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตสักที และโดยเฉพาะการจุดประทัดตามความเชื่อของคนจีนนั้น จะจุดกันในเทศกาลต่างๆอยู่แล้ว   โดย: จุ๊ยตุ่ยทีม IP: 58.10.74.76 23 เมษายน 2550 10:48:12 น.

การจุดประทัดคือการ ต้อนรับขนาดพระบางองค์ยังชอบเล่นประทัดเลย พระจีนท่านเป็นเทพแล้ว ไม่ใช่เป็นคนแบบเราจึงจะไม่ชอบประทัด ท่านชอบเสียงดังๆ ในหนังจีนมันเชื่อถือได้ที่ไหน มันไม่ใช่เกิดตอนสมัย2000-3000ปีที่แล้ว   โดย: pk IP: 203.156.61.96 22 พฤษภาคม 2550 13:37:50 น.

คนละเรื่องกันเลยที่บอกว่ากิ้วอ๋องเหมือนฮ่องเต้ เป็นยังไงศึกษาเอาเอง กินเจ นั้นไม่ใช้ ตีกลอง จุดปะทัด แห่จ้าว ทำพิธี แทงปาก แข่งกันถ่ายรูป แล้วโปรโมทด้วย ททท.แล้ว เพื่อนยอว่าหล๋อย ศึกษากันให้ละเอียดหน่อยเด็กๆ แล้วผู้ใหญ่ก็เลิกโง่งมงายซะทีซิโว้ย ตื่นๆๆๆคนภูเก็ต   โดย: ง่อง IP: 124.157.220.162 17 มิถุนายน 2550 20:56:06 น.

น่าสนใจครับ   โดย: ศักดิ์ดินแดง IP: 58.8.106.239 26 กรกฎาคม 2550 17:42:16 น.

ช่วยส่งรูปพระและกิมซิ้นมาให้ดูด้วยนะครับขอบคุณครับส่งมาที่ sbw540@hotmail.com   โดย: เด็กหระรี IP: 203.144.210.219 2 สิงหาคม 2550 0:52:06 น.

ตอนนี้ทางศาลเจ้า กิมซืออ๋อง บ้านดอน จ.ภูเก็ต ได้บูรณะศาลเจ้าขึ้นใหม่ ตอนนี้สร้างเสร็จแล้วประมาณ 80% ที่ยังขาดทุนทรัพย์คือค่า กระเบื่องมุงหลังคา มังกรบนหลังคาศาลเจ้า มังกรบริเวณเสา และประตูซุ้มเข้าศาลเจ้า หากท่านใคที่มีจิตศรัทธรา สามมารถร่วมทำบุญได้ที่ศาลเจ้า กิมซืออ๋อง หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 089-4736800 คุณเอกพจน์   โดย: ร่วมทำบุญสร้างกุศล IP: 61.19.65.126 9 กันยายน 2550 20:55:31 น.

เอ่อ ผมชอบบทความนี้มากเลยคับ มันถ่ายถอดความรู้สึกของเดกตลาดเก่าได้ดีจริงจริง มันใช่เลยนะฮ่ะทุกอย่างที่เล่ามา ใช่เลย ใช่เลย เอ่อ ผมขออนุญาติคุณต้น มา ณ ที่นี้นะฮ่ะ ที่จะถ่ายทอดบทความนี้ ตีพิม ลงบนกระดาษ เพื่อนำไปแจกที่อ๊ามใต้ นะฮ่ะ ผมว่าเปนการถ่ายทอดที่ดีจริงๆ แล้วผมจะให้เครดิตคุณต้นไว้ในบทความนะฮ่ะ คิดว่าคุณต้นคงไม่ขัดข้อง และขอขอบคุณจากใจจริงฮ่ะ (อ๋อ คาดว่าน่าจะทำนะฮ่ะ ) ขอบคุนมากฮ่ะ ถ่ายทอดได้ดีจริง จริง   โดย: ฉ๋ายอิ๋วหลาดใต้ IP: 124.157.219.143 21 กันยายน 2550 23:58:28 น.

ไอคนที่ว่าคนอื่น งมงายอะนะ เมิงไม่ศรัทธาก็เรื่องเมิง แต่กรูศัทธา เพราะ องค์พระ เข้าฝันพ่อกรูเลย ไปสั่ง กิมซิ๋น มาตั้งหน้า ตั๋ว สาบานไม่ได้โม้   โดย: เด็กท่าเรือ IP: 117.47.108.36 22 กันยายน 2550 16:26:02 น.

กลับบ้านกันเถอะครับพี่น้องฉ่ายอิ้ว หากว่ามีเวลา กลับไปทำถือศีลกินผัก ในสถานที่ที่ท่านนับถือและเลื่อมใส... ปีหนึ่ง จะได้เจอะเจอกันอีกครั้ง ตักตวงความทรงจำกันให้ดี   โดย: กั่วป่าหลาง ฮุ้ยฮ่องซ่านเบ่วฉ่ายอิ้ว IP: 203.130.143.243 26 กันยายน 2550 14:46:22 น.

คิดถึงบรรยากาศกินเจจัง แต่ปีนี้ไม่ได้กลับไปอะเพราะติดสอบ เสียดายจัง ไม่เปงไรค่อยกลับไปพิธีลงเสาคงทันนะ คิดถึงเด็กศาลเจ้าซาม่าทกคน จากฝนเด็กอ่าวลึก กระบี่   โดย: เด็กอ๊ามซาม่า อ่าวลึก กระบี่ IP: 58.136.95.254 30 กันยายน 2550 18:12:52 น.

ผมก็เด็ก ซิ่นใช่ตึ๋ง เหมือนกันครับ แต่ปีนี้ กินที่ กทม. ครับ   โดย: Sergio Garfield IP: 124.120.83.202 13 ตุลาคม 2550 23:02:47 น.

ดีค่ะ เป็นบทความที่ดีเลยทีเดียว^^ ขอบารมีองค์พระทรงคุ้มครองนะคะ   โดย: ม้าทรงอั้งไฮ้ยี้ภูเก็ต IP: 222.123.96.3 1 พฤศจิกายน 2550 16:26:42 น.

กนผักปีนี้สนุกมากๆเลยนะคับมีพวกสายบุรีที่มาร่วมงานกับเราเป็นการดีอย่างยิ่งเลยหวังว่าโอกาศหน้าเราคงได้ร่วมงานกันไหม่นะคับ   โดย: เด็กหลาดใต้ IP: 125.24.132.202 21 พฤศจิกายน 2550 11:12:59 น.

บทความดีมากๆค่ะ ทำให้ผู้อื่นรู้ถึงเทศกาลอันดีงามของพวกเรา ดีจริงๆค่ะ ขอให้พระคุ้มครองนะคะ   โดย: เด็กอ๊ามกะทู้ IP: 222.123.96.90 30 พฤศจิกายน 2550 19:00:51 น.

อืม เด็กหลาดใต้กันเข้ามาอ่านหลายหนแล้ว อืมว่าแต่ว่าใครเป็นใครหว่า เอ่อช่างเหอะ เขียนกระทุ้ได้ดีมากๆ ครับ ว่างๆ อยากเขียนเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยว่างเลย ไว้เจอกันตอนกินผักแล้วกันน่ะ   โดย: เด็กหลาดเก่า IP: 125.24.83.85 20 มกราคม 2551 11:57:53 น.

กินเจทุกปีสนุกมาก อย่างน้อยจิตใจก็รู้สึกดีขึ้นและได้กลับไปพบเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันอีกด้วย   โดย: เด็กอ่ามกูใช่ตึ้ง IP: 125.25.201.213 28 มกราคม 2551 19:31:05 น.

การที่คนเชื้อชาติจีนตายอายุเกินกว่า95ปี จะต้องไว้ทุกข์หรือไม่อย่างใด   โดย: หมูน้ำ IP: 118.172.51.55 18 กุมภาพันธ์ 2551 18:15:41 น.

ใครไม่ศรัทธา อย่ามาเม้น   โดย: nate IP: 117.47.204.144 17 กรกฎาคม 2551 16:04:05 น.

ดีค่ะ อยากให้คิดเพิ่มอีกนิดนึง 9 วันนี้ใช่ไหม ที่ลดช่องว่างระหว่างคนจนคนรวย 9 วันนี้ใช่ไหม ที่ทุกคนเข้าไปในอ๊ามแล้วเท่ากัน ไม่ว่าคุณจะเป็นกรรมกร หรือนายหัว   โดย: 平安 IP: 125.27.160.174 28 กันยายน 2551 16:35:11 น.

การกินผักเป็นการสร้างบุญบารมีไม่เบียดเบียนสัตว์ รักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ ทำด้วยความศรัทธา เป็นการทำความดีที่สืบทอดมาไม่ตำกว่า200ปีของชาวตะกั่วป่าขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาไว้อย่าให้เสื่อม ของเราเป็นของจริง   โดย: เด็กหลาดเก่าย้ายมาย่านยาว IP: 125.24.61.99 19 พฤษภาคม 2552 15:11:46 น.

ใครกินที่ใหนก็เหมือนกันต่อให้ศาลใหนแต่มารในใจยังปราบไม่ได้ก็เท่านั้นแหละนะ   โดย: นอกกฏ ไม่นอกคอกฮะ IP: 118.173.52.135 16 กรกฎาคม 2552 2:22:43 น.

ไครจะกินที่ไหนช่างมันแต่อย่าลืมกินใจตนก่อนนะ...? เข้าวงการแล้วอย่าลืม ตาดู หูฟัง สมองคิดตาม อย่าลืม มา100พ่อ1000แม่สันดานแต่ละคนไม่เหมือนกันเขาจะดีหรือไม่ดีหรือเข้าชั่วคุณไม่รู้หลอกอย่าว่ากันร่างย่อมมีดีอยู่แล้วถ้าไม่ดีพระมาจับทำบ้าอะไรอย่านินทาลับหลังร่างทรงไม่ดีมีอะไรพูดตรงๆไม่ต้องนินทาครับร่างบางร่างเขามียานเข้ารู้แต่คุณไม่รู้หลอกเขาอ่านใจคุณออกก่อนคุณพูดเสียอีกบางร่างทรงเขาลงมานานทำไห้เขาไม่ได้เป็นตัวเขาเอ็งบางที่พูดแรงๆกับท่านบ้างท่านก็ว่าเข้าเป็นคนไม่ดีแต่ท่านลืมนึกว่านั่นไม่ใช่เขานึกว่าพระสอนแล้วกัน   โดย: ม้าที่ล้าและเหนื่อย IP: 118.173.52.135 16 กรกฎาคม 2552 2:43:38 น.

เห็นด้วยครับ กับข้อความข้างบนกินเสร็จบ้านใครบ้านมันไม่ต้องนินทา ไอ้กรรมการตัวดี ไอ้พวกแม่ครัวปากมากไอ้พวกนี้แหละหน้าโดนด่า ไม่รู้อะไรแล้วมาว่าร่างทรงรู้ไม่จริงอย่าพูดดีกว่าเหมือนบางร่างมาเจอกันที่ศาลเจ้าชอบพอกันก็หาว่าร่างไม่อยู่ไนกดเก็นไม่ใช่รู้ว่าพระเขาให้มาเจอกันเป็นคู่กันลองไปถามเขาดูดิถ้าตอบไม่เหมือนกันแถมตังให้10บาทกับทะเล2โยดเลย.....!? สรุป เห็นด้วยกับข้อความพี่บ่าวข้างบนครับ อยู่ศาลใหนบอกด้วยครับอยากรู้จัก   โดย: แจมด้วยคน IP: 118.173.52.135 16 กรกฎาคม 2552 3:00:44 น.

กลับบ้านกินเจกานน๊า ศาลเจ้า ซาม่ากวนอิม อ่าวลึก   โดย: ฝน อ่าวลึก IP: 58.136.74.110 12 ตุลาคม 2552 12:53:22 น.

คือว่า ซาม่ากวนอิมอ่ะ เค้าเป็นใครอ่ะส์ แต่รู้มาว่าเค้ามีพี่สาว 2 คน คือ ตั๋วม่า กับ หยี่ม่า เค้าเป็นพระกวนอิม 3 พี่น้อง อยากรู้ประวัติของเค้า เค้าเป็นเทพทางด้านไหน ฝากคนศาลเจ้า ซาม่ากวนอิม อ่าวลึกช่วยบอกหน่อยน่ะ จะรอคำตอบคำ เพราะผมนับถือเค้ามากกกคัฟฟฟ ปล.ผมอยู่ภูเก็ตคัฟฟฟฟฟ เป็นได้ ถ้ามีรูปเค้า ช่วยเอาลงด้วยคัฟฟฟ ขอบคุณคัฟฟฟฟฟ   โดย: อยากทารบประวัติ IP: 118.173.139.64 14 มีนาคม 2553 20:31:06 น.