จาก โรม เราก็ไป Florence กัน จากโรม เราก็ขึ้นรถไฟไป Florenceกัน ซื้อตั๋วรถไฟที่ อิตาลี่ไม่ยากเพราะว่า เค้ามีตู้ให้ซื้อได้ ไม่ต้องไปต่อคิว ตู้ก็ดี นอกจากจะมีภาษาอังกฤษแล้ว มันยังรับทั้งเงินสด และบัตรเครดิตด้วย ราคาตั๋วรถไฟราคาเต็ม จาก โรม ไป Florence มีตั้งแต่ 15 EU ต่อคน สำหรับรถ RE (Regional Express) สามชั่วโมง 30 EU ต่อคน สำหรับรถ EU star แค่ ชั่วโมงครึ่ง ว่าแล้ว สองคนพี่น้อง ก็เลือก 15 EU ต่อคนกันดีกว่า จ่ายเงินได้ตั๋วมาปุ๊บ ก็ไปที่ชานชลา ไปขึ้นรถไฟ แล้วกระเหรี่ยงก็ ทำเรื่องเอ๋อๆบนรถไฟอีกจนได้ ขนาดมาอยู่เยอรมันตั้งปีแล้ว เพราะว่าที่เยอรมันเนี่ย รถไฟระหว่างเมือง ไม่ต้อง stamp วันที่ ที่ชานชลา ขึ้นบนรถไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วเอง แต่ว่าที่อิตาลี่ เราต้อง stamp ตั๋วก่อนขึ้น รถไฟทุกครั้ง แต่หนูไม่รู้ พอขึ้นไป คุณลุงคนตรวจตั๋วก็มา เราก็ยื่นตั๋วให้ด้วยความมั่นใจ แกเอาตั๋วมาดู พลิกซ้าย พลิกขวา แล้วก็พ่นภาษาอิตาลี่มาเป็นชุด เราก็ทำหน้าเอ๋อๆตอบว่า พูดบ่ได้ ว่าแล้วแกก็บอกว่า คราวหน้า ถ้าไม่ stamp ตั๋วก่อนขึ้นจะโดนปรับคนละ 40 EU แล้วแกก็เซนต์ชื่อบนตั๋วเรา อืม ที่ stamp ตั๋วมันเป็น กล่องเล็กๆ สีเหลืองๆ มีอยู่ทุกชาลชลา เอาตั๋วเสียบเข้าไปก็ มันจะปั๋มวันที่กะเวลามาให้ เพราะตั๋วรถไฟที่นี่ พอออกมาแล้วจะ valid ประมาณ สองเดือน ทำให้เค้าต้องมีระบบนี้กันคนใช้ตั๋วเวียน มาถึง florence เราก็ลากกระเป๋าไปตามหา youth hostel กันสองคน เดินผ่าน Duomo อันเลื่องชื่อของ Florence เมื่อประมาณสองปีก่อน ที่มีหนังสือ ญี่ปุ่น ที่ดังๆที่เมืองไทย สองเล่ม ที่เล่มนึงเป็นเรื่องของผู้หญิง แล้วอีกเล่มเป็นของผู้ชาย เค้าก็พูดถึง Duomo ที่ Florence กะ ที่ Milano เนี่ยแหละ เราจำชื่อหนังสือไม่ได้แล้ว สำหรับเรา Duomo จะสวยกว่านี้เยอะ ถ้ารอบๆ จะมีพื้นที่ว่างๆให้ เห็น ได้ชัดๆ แต่ว่า เมืองมันโตเข้ามาติด วิหาร จนเหลือแค่ ถนนเล็กๆคั่นระหว่าง Duomo กับตึกข้างๆ แล้วด้านหน้ามี ที่ว่างเล็กๆ ถ้าเป็นลานกว้างๆ มันน่าจะอลังการ กว่านี้อีกเยอะ พอเก็บกระเป๋าใน hostel ได้ เราก็เดินไปดูสะพาน Ponte Vecchio อันเลื่องชื่อของ เมืองกัน อีกมุมของสะพาน แล้วเราก็เดินกันต่อ ขึ้นไปที่ Piazzale Michelangelo ที่เค้าบอกว่าจะเห็นวิวเมืองได้สวยที่สุด แล้วก็จะสวยตอนเวลาพระอาทิตย์ตก + มี รูปปั้นเดวิสของปลอมด้วย เดินไปก็โดนน้องสาวตัวดีบ่นไปตลอดทาง เพราะว่า เราเป็นพวกโรคจิต ชอบปีน ชอบเดิน คือถ้าเห็นหอไหนเค้าให้ปีนขึ้นไปดูได้ เราจะปีน มาถึงแล้วนินาจะให้นอนเฉยๆรึยังไง แต่เธอก็เดินกะเราทุกที นักดนตรีที่บนลานนั้น เดวิสตัวเขียว เราไม่ได้อยู่กันบนนั้นจนพระอาทิตย์ตก เพราะว่า กลัวว่า พอมืดแล้วตอนเดินกลับจะลำบาก ก็เลยเดินลงมาก่อน แล้วเราก็เดินผ่าน รูปปั้น เดวิส จำลองอีกรูปที่อยู่ในเมือง สรุปแล้วรูปปั้น เดวิส สามตัวในเมือง เราได้ดูกัน ถึงสองตัว ส่วน รูปปั้นของจริง ที่อยู่ใน Uffizi นั้น นอกจากจะต้องเสียตังแล้ว ยังต้อง ต่อแถวยาว นักท่องเที่ยวงบน้อยจึงได้แต่บอกว่า รูปปั้นผู้ชายโป๊ มันก็คงเหมือนๆกันหมดแหละเนอะ ไม่ต้องจ่ายเงินไปดูอีกตัวหรอก ข้ออ้างของคนงบน้อยคะ วันรุ่งขึ้น เรานั่งรถไฟไป ปิซ่า ไปดู หอเอนที่ใครๆเค้าพูดถึงกัน ค่ารถไฟ คนละ 5 EU หน่อยๆ ใช้เวลา ประมาณหนึ่งชั่วโมง จาก Florence วิหารข้างหน้า หอเอนคะ ลองผลักดู มันจะล้มไหม ที่นี่เป็นหอเดียวที่เราไม่ได้เสียตังปีนขึ้นไป เพราะว่ามันต้องรอคิว เค้าให้ขึ้นได้แค่ทีละ ไม่กี่คน แล้วก็แพง(อีกแล้วครับท่าน) แล้วเราก็กลับมาเดินเล่นกันในเมือง ก่อนจะออกเดินทางไป Venice คะ   Create Date : 06 พฤศจิกายน 2548 8 comments Last Update : 6 พฤศจิกายน 2548 23:46:54 น. Counter : 2001 Pageviews. Share Tweet

อู้ววว ดูโอโม แห่ง ฟลอเรนซ์ หนังสือ 2 เล่มนั้น(จำชื่อไม่ได้แล้วเหมือนกัน) ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก   โดย: เซียวเปียกลี้ 9 พฤศจิกายน 2548 20:36:40 น.

อ้อ มาเป็นคนที่ 99 แฮะ ฉลอง century break ให้ล่วงหน้าละกัน   โดย: เซียวเปียกลี้ 9 พฤศจิกายน 2548 20:38:01 น.

แหะๆ ตามลิ้งค์มาอะ.. อยากไปเที่ยวบ้างจัง ...อ้ากส์..ต้องกลับไปอ่านหนังสือแล้ว...   โดย: wetdog IP: 142.162.42.116 11 พฤศจิกายน 2548 20:33:37 น.

วันหลังขอภาพสวยๆอีกนะค่ะ   โดย: เมย์ IP: 125.24.165.202 8 กุมภาพันธ์ 2550 12:42:32 น.

หนังสือชื่อ blu & Rosso จ้า กำลังจะไปเที่ยวทั้ง 2 ที่ เหมือนกัน (แถมเวนิสอีกที่) เลยมาขอข้อมูลหน่อย อยากให้ถึงเร็วๆ หุหุ   โดย: ผ่านมา IP: 194.171.12.207 17 มีนาคม 2550 2:51:17 น.

สวยจังเลย   โดย: ด๋อย IP: 58.8.160.212 10 กันยายน 2550 17:51:36 น.

โดย: สมโชค IP: 222.123.161.202 23 กุมภาพันธ์ 2551 20:17:10 น.

กำลังแพลนไปกันยา ไม่รู้จาสำเร็จอ่ะเปล่า   โดย: เดือน IP: 125.24.223.3 18 มิถุนายน 2551 21:53:38 น.