เล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวในต่างประเทศ

เที่ยวพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ Amalienborg แล้วไปต่อถนนคนเดินที่ยาวสุดในโลก









ช่วงเช้าหลังจากเดินชม Copenhagen City Hall แล้ว ไปเที่ยวพระราชวังอมาเลียนบอร์กกันต่อเลยนะคะ



กางแผนที่ดู แล้วก็ตัดสินใจเดินไป Amalienborg Palace หรือพระราชวังฤดูหนาวราชวงศ์เดนมาร์ก แต่ฉันดินผ่าน The Marble Church (Frederik Church) เสียก่อน โบสถ์รูปโดมนี้ทำด้วยหินอ่อน ความสวยงามบนเพดานโดมนี่แทบจะไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะงดงามมาก มีความสูงจากพื้นไปจนถึงยอดโดม 46 เมตร ฉันแหงนมองความงามของเพดานโดมอยู่นานมากจนคอระหงเริ่มจะเมื่อย Smiley จึงหยุดพักนั่งดูความสวยงามภายในโบสถ์อย่างสงบครู่หนึ่งก็โบกมือลาโบสถ์แห่งนี้



The Marble Church หรือ Frederik Church



ลวดลายของเพดานโดม The Marble Church




อนุสาวรีย์ King Frederik V บริเวณจตุรัสอมาเลียนบอร์ก


เดินถัดไปอีกหน่อยก็จะพบทางเข้าพระราชวังอมาเลียนบอร์ก คนเข้าแถวรอยาวเลยค่ะ พอเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่านี่เป็นคิวซื้อตั๋วเข้าชมภายในพระราชวัง แล้วเขาก็จะปล่อยคนเข้าเป็นระยะๆ ครั้งหนึ่งน่าจะไม่น้อยกว่า 50 คน เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในการเข้าแถว ฉันจึงเบนทิศทางไปอีกจุดหนึ่งเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Amalienborg Museum ก่อน บัตร CPH Card เข้าชมฟรี แต่ต้องนำกระเป๋าถือหรือเป้สะพายหลังไปฝากไว้ในล็อกเกอร์ก่อน แล้วก็จ่ายเพิ่มอีก 20 DKK สำหรับผู้ที่ต้องการนำกล้องเข้าไปบันทึกภาพด้านใน



ติดสติ๊กเกอร์เพื่อแสดงว่าสามารถถ่ายรูปในพิพิธภัณฑ์ได้



พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จัดแสดงให้เห็นถึงที่มาของราชวงศ์ก่อนๆ จนถึงสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 2 แห่งเดนมาร์ก (Queen Margrethe II of Denmark) ซึ่งมีพระชนมพรรษาครบ 70 ในวันที่ 16 เมษายน 2553 (สองวันถัดจากวันเข้าชม) พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงได้ดีมาก ทำให้เห็นถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Queen Margrethe II ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการปกครองที่คล้ายคลึงกันของไทยกับเดนมาร์กที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือไม่ ความรู้สึกชื่นชมในราชวงศ์ของเดนมาร์กจึงเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ประหนึ่งว่าได้เดินชมเรื่องราวของราชวงศ์ไทยเราเองด้วย




เรื่องราวประวัติราชวงศ์เดนมาร์ก



ห้องต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์


ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีพระราชดำรัสของ Queen Margrethe 2 ติดไว้เป็นระยะๆ ฉันอ่านแล้วก็รู้สึกชื่นชมเช่นเดียวกับชาวเดนมาร์กซึ่งทราบว่าพระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรเช่นเดียวกับประเทศไทยเราที่รักและเทิดทูนในหลวง



"Being Queen is a profession, a job,
a position, an office that one cannot just leave behind when one comes home from work.
It is there all the time. And for one's whole life.


H.M. Queen Margrethe II


พระราชดำรัสของควีนมาร์เกรเธฯ ทำให้ฉันนึกถึงในหลวง ที่พระองค์ท่านทรงงานอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาพักผ่อน หากได้อ่านเรื่องของพระองค์ท่านที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาได้เคยนำมาบอกกล่าวกันอยู่เนืองๆ จะทราบว่า แม้ในขณะที่เป็นเวลานอนของประชาชนอย่างเรา พระองค์ท่านก็ยังคงทรงงาน มีพระราชดำริที่จะหาหนทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นทุกข์ของคนไทยให้หมดสิ้นไปอยู่ตลอดเวลา


การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ จึงมีค่าและเป็นมากกว่าการเดินดูของเก่าหรือของที่ระลึกของราชวงศ์เดนมาร์ก!!



ประติมากรรมสวยงามที่ตั้งอยู่ประตูทางออก



ตรงทางออกจะมีกระดาษให้เขียนคำอวยพร Queen Margrethe II ในวาระครบ 70 พรรษา



ภาพพระราชวงศ์เดนมาร์กในพิพิธภัณฑ์


ออกจากพิพิธภัณฑ์เลยเที่ยงวันไปเล็กน้อย บริเวณหน้าพระราชวังกำลังเริ่มพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองครักษ์ ตรงจตุรัสอมาเลียนบอร์กจึงเต็มไปด้วยผู้คน ...การเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองครักษ์ที่นี่ออกจะอลังการเล็กน้อย เพราะมีตำรวจหญิงนำเหล่าทหารม้าเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก พิธีที่นี่น่าจะกินเวลาถึงหนึ่งชั่วโมงเลยค่ะ



บริเวณจตุรัสอมาเลียนบอร์กและหน้าพระราชวังขณะพิธีเปลี่ยนเวรยามทหารราชองครักษ์


เสร็จจากดูพิธีเปลี่ยนเวรยามทหารแล้ว ก็ย้อนกลับมาในส่วนของการเข้าชมพระราชวังอมาเลียนบอร์ก แถวที่รอเข้าชมยังไม่สั้นลงเลย ตัดใจเดินไปเข้าแถวต่อท้ายยาวเกือบหนึ่งกิโล ระหว่างคอยก็รู้สึกหิว เพราะเลยเที่ยงวันมาเยอะแล้ว จึงควานหาแอ๊ปเปิ้ลในเป้นำขึ้นมากัดกินฆ่าเวลาและกำจัดความหิว ปรากฏว่าเคี้ยวไปได้ครึ่งลูก แอ๊ปเปิ้ลมันกระโดดหนีค่ะ



อดปล่อยกิ๊กหัวเราะตัวเองไม่ได้ แล้วรีบวิ่งไปคว้ามาห่อกระดาษทิชชู่เก็บใส่เป้ไว้ก่อน แฮ่ะๆ จะเก็บเอาไปทิ้งค่ะ ไม่ใช่เก็บไว้กินต่อ ...แอบเขินหนุ่มๆ ที่ยืนเข้าแถวติดกันจัง




ซ้าย : นักท่องเที่ยวเข้าแถวรอเข้าชมพระราชวัง ขวา : รถขายกาแฟ Coffee to go น่ารักดี


ภายในพระราชวัง เขาห้ามถ่ายรูปนะคะ การเข้าชมอาจจะไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่นัก ต้องเดินตามกันแบบลื่นไหล เพราะเจ้าหน้าที่จะปล่อยเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ทางเดินในแต่ละห้องมีเชือกหรือแผงกั้นไว้ เหลือพื้นที่สำหรับคนเข้าชมเดินดู กว้างสักหนึ่งเมตรกระมัง ไม่มีไกด์ทัวร์ แต่จะมีคำบรรยายวางบนแผงตั้งให้อ่านทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเดนมาร์ก



หลังจากนั้น ฉันก็ใช้วิธีเดิน เดิน เดิน ต่อไปที่พระราชวังโรเซนบอร์ก (Rosenborg Slot) ตอนไปซื้อบัตรก็เหมือนกับที่ Amalienborg Museum ค่ะ ถ้าจะนำกล้องเข้าไปถ่ายรูปก็ต้องจ่ายเพิ่ม 20DKK ...รู้อย่างนี้ เก็บสติ๊กเกอร์ที่ Amalienborg ไว้ไม่แกะออกก็ดีเพราะสติ๊กเกอร์แบบเดียวกันเป๊ะเลยค่ะ เพิ่งจะมาสังเกตจากรูปที่ถ่ายไว้ตรงตัวสติ๊กเกอร์ซึ่งพิมพ์ไว้ว่า Rosenborg Amalienborg Photo Permission ก็น่าจะใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแห่ง




Rosenborg Slot พระราชวังโรเซนบอร์ก


ที่นี่ดูจะมีเจ้าหน้าที่สูงวัยซึ่งเคร่งครัดมาก คอยเดินตรวจตราเข้าออกแต่ละห้องอยู่ตลอดเวลา พอหยิบกล้องตั้งท่าจะถ่ายรูปปุ๊บ เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาถามทันทีว่ามีบัตรอนุญาตรึเปล่า เลยต้องหมุนตัวให้เห็นเสื้อด้านที่ติดสติ๊กเกอร์ไว้ให้เจ้าหน้าที่ดู



...ห้องที่เปิดให้ชมในชั้นล่างนั้น เป็นของที่เก่ามากๆ บางห้องไม่มีการเปิดไฟให้แสงสว่าง (Dark Room) น่าจะเป็นเพราะเกรงว่าแสงจากหลอดไฟอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อวัตถุโบราณทั้งสิ่งของและภาพถ่ายกระมัง




ภายใน Rosenborg Slot



ฉันหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งค่อนข้างนาน เพราะมีภาพถ่ายที่น่าสนใจอยู่หลายภาพ หนึ่งในนั้นเป็นภาพที่แขวนไว้คู่กัน ฉันเพ่งพินิจอยู่นานมาก เพราะไม่มีป้ายบอกไว้ว่าเป็นราชวงศ์องค์ไหน ยุคใด สังเกตดูภาพซ้ายขวาจะเห็นความละม้ายคล้ายคลึงมาก แตกต่างเพียงแค่เครื่องแต่งกายเท่านั้น เป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่านะ ...จนป่านนี้ยังหาคำตอบไม่ได้เลยค่ะ



ราชวงศ์องค์ใด ใครรู้บ้าง



ทางลงไปดู Treasury



จากตึกนี้ถ้าจะเข้าชมในส่วนของคลังสมบัติหรือ Treasury ต้องเดินออกไปด้านนอกปีกขวา จะมีทางลงไปด้านล่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำเครื่องหมายว่าได้เข้าชมส่วนนี้แล้ว


...ที่นี่ดูแล้วตาเหลืองเลยค่ะ เพราะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติที่เป็นทองคำเสียส่วนมาก สีของทองคำอร่ามมากจริงๆ บางส่วนก็จะเป็นเครื่องประดับที่ทำด้วยงาช้าง บางชิ้นมีลวดลายละเอียดยิบจนรู้สึกทึ่งในฝีมือมนุษย์จริงๆ




ปืนผาหน้าไม้ล้วนแต่เป็นทองคำ



ทรัพย์สมบัติอันล้ำค่ำ บางชิ้นเป็นสมบัติในศตวรรษที่ 15



ขวาล่างเป็นไวน์เก่าที่เก็บมาเป็นหลายร้อยปี ขวาบนเป็นของประดับงาช้าง



สวนสาธารณะบริเวณ Rosenborg Slot เริ่มมีสีแดงสวย


หลังจากชมเสร็จเรียบร้อย ฉันมองหาป้ายรถเมล์เพื่อย้อนกลับไปในเมือง ง่ายที่สุดก็คือกลับไปตั้งหลักที่สถานีรถไฟ เพราะอยากจะพักขาและหาอาหารเครื่องดื่มง่ายๆ ใส่ท้องก่อนที่จะเดินเที่ยวต่อ



ผ่าน Ny Carlsberg Glyptotek พิพิธภัณฑ์ที่สร้างโดยผู้ผลิตเบียร์ Carlsberg เสียดายเข้าชมไม่ทัน


พออิ่มท้องคราวนี้ตั้งใจไปเดินแถว Stroget หรือถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในโลก (1.8 กิโลเมตร) ถนนสายนี้แบ่งเป็นสามช่วง โดยช่วงแรกจะตั้งต้นตรง Copenhagen City Hall ถึง Gemmel Trov (ตลาดเก่า) ช่วงที่สองจาก Gemmel Trov ถึง Amergatrov และช่วงสุดท้ายจาก Amergatrov ถึง Kongens Nytrov


แล้วจะเดินไหวไหมเนี่ย!!!



มาตั้งต้นที่ Copenhagen City Hall ในยามเย็นอีกครั้ง



เสาต้นนี้อยู่บนถนนข้าง City Hall จุดเริ่มต้นถนนคนเดิน



ช่วงหนึ่งของ Stroget ถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในโลก



ร้านกาแฟเริ่มร้างผู้คนเพราะหกโมงเย็นแล้ว



The Caritas Well น้ำพุที่เก่าที่สุดในโคเปนฮาเกน บริเวณ Gemmeltorv ช่วงที่สองของ Stroget



นักดนตรีกำลังเล่นเพลงเพื่อแลกกับเงินที่นักท่องเที่ยวจะบริจาคให้


ฉันใช้เวลาบนถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในโลกสั้นมาก แม้จะเดินจนครบสามช่วง แต่เนื่องจากไปเดินเล่นในยามเย็น ร้านค้าหลายแห่งปิดแล้วและส่วนมากก็กำลังทยอยปิด นึกในใจว่าโชคดีที่ตัวเองไม่ใช่นักช้อปปิ้ง จึงไม่นึกเสียดายเท่าไหร่นัก ถ้าคนนิยมช้อปปิ้งแล้วมาเดินในช่วงร้านปิด คงจะหมดอารมณ์เดินต่อแน่ๆ เชียว



ตอนเย็นในแต่ละวัน มักจบลงด้วยความล้าของเท้าคู่เล็ก นึกอยู่ว่าโปรแกรมเที่ยวในวันพรุ่งนี้ก็จะต้องออกแรงเดินเยอะเอาเรื่อง ภาวนาให้เท้าคู่น้อยนี้จะยังมีพลังอันแข็งแกร่งในการเดินต่อด้วยเถอะ Smiley




นี่ฉันลองคำนวณเส้นทางที่เดินในวันนี้ทั้งหมดจาก google map เล่นๆ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งวันจะเดินได้เกือบ 10 กิโลเมตร น่าจะเป็นวันที่เดินมากที่สุดในทริปนี้เลยก็ว่าได้



พรุ่งนี้จะบินเข้าออสโลประเทศนอร์เวย์แต่เช้านะคะ เพราะฉะนั้นคืนนี้จึงรีบแพ็คกระเป๋าและเข้านอนตั้งแต่ยังไม่สี่ทุ่มเลยค่ะ Smiley








 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2554
2 comments
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 0:02:33 น.
Counter : 3107 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ภาพสวยค่ะ บรรยายสั้นๆน่าอ่านดีค่ะ ชอบไอเดียรถกาแฟน่ารักดี เมืองไทยน่าเอาไปทำบ้างนะคะ อิ อิ

 

โดย: apple.007 24 กุมภาพันธ์ 2554 23:03:50 น.  

 

น่าจะเอามาใช้บ้านเราบ้างนะคะ เพราะคอกาแฟตามท้องถนนเยอะมากๆ

 

โดย: แฮปปี้มีนา 25 กุมภาพันธ์ 2554 18:04:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แฮปปี้มีนา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]









ทำงานในองค์กรภาครัฐ ใช้เวลาพักร้อนในแต่ละปีออกไปเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในโลกใบนี้ตามลำพัง ...การออกไปเผชิญโลกภายนอกที่กว้างใหญ่ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษามากมายขอแค่มีใจที่พร้อมจะเปิดรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง ทั้งสุข สนุก ตื่นเต้น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น จะทำให้เรามีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีในหนังสือท่องเที่ยวเล่มไหนสอนไว้


New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
23 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แฮปปี้มีนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.