...ห้องทำงานรก ๆ ร้าง ๆ ที่เจ้าของทิ้งขว้างไม่สนใจ...


Group Blog
 
<<
มีนาคม 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 มีนาคม 2548
 
All Blogs
 
++::++ นิยายแฟนตาซีที่เคยผ่านตา : The Book of Lies ++::++

ห่างหายไปจากคอก เอ๊ย บล็อกส่วนตัวเสียนานค่ะ ด้วยภาระกิจที่เริ่มวุ่นวายมากขึ้น คืนนี้มีโอกาสเลยมาอัพเสียหน่อย เดี๋ยวใยแมงมุมจะเต็มห้องสมุดเสียก่อน

วันนี้เอาวรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซีของนักเขียนชาวออสซี่มาขึ้นหิ้งแนะนำกันค่ะ เล่มนี้หน้าปกสวย Poceille เห็นแล้วคว้าหมับเลยค่ะ ตัวปกเป็นสีแดงแก่ก่ำอมดำดูน่ากลัว ตัวหนังสือดุนนูนสีทองแดงเด่นสะดุดตา หนังสือเรื่องนี้ชื่อว่า...

The Book of Lies


*

เรื่องนี้เขียนโดยคุณ James Moloney นักเขียนชาวออสเตรเลียซึ่งปัจจุบันพำนักอยู่ในเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ค่ะ เล่มที่มีอยู่ในมือนั้นพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Angus&Robertson ขนาดพ็อกเก็ตบุ้คหนา 402 หน้าค่ะ



เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นในคืนวันฝนตกหนักชนิดที่ผู้คนในเมืองฟอลไซด์ต่างพากันสวดมนตร์อ้อนวอนให้พายุนั้นผ่านไปโดยเร็ว แต่ท่ามกลางกระแสลมและฝนที่กระหน่ำลงมานั้น มีเงาร่างของบุรุษสี่คนเร้นกายออกจากชายป่า ทั้งสี่หอบหิ้วสัมภาระชิ้นหนึ่งมาด้วย คณะปฏิบัติการลึกลับนี้มุ่งตรงไปยังบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งเดียวดายอยู่ใกล้กับหน้าผาของน้ำตกใหญ่อันเป็นที่มาของชื่อเมืองนั้น

สองแม่ลูกผู้อาศัยในบ้านหลังนั้นรอรับสัมภาระจากบุรุษปริศนาทั้งสี่ เมื่อเปิดห่อผ้าออกภายในนั้นคือร่างของเด็กชายคนหนึ่งที่นอนสลบไสลไม่ได้สติ สองแม่ลูกช่วยกันพาเด็กชายผู้เปียกปอนนั้นขึ้นไปชั้นบนของบ้านอย่างเงียบกริบ โดยหารู้ไม่ว่ายังมีเด็กหญิงอีกคนในบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดยตลอด

เมื่อเด็กชายถูกจัดให้นอนสบายบนเตียงและสองแม่ลูกผละจากไป เด็กหญิงที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็ย่องเข้าไปหาร่างบนเตียง เธอพยายามปลุกคนที่ยังหลับไหลแต่ไม่มีผล ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น เด็กหญิงละจากเตียงแล้วรีบซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า สอดส่ายสายตามองดูผู้มาเยือน เขาเป็นชายชราผู้มาพร้อมเทียนหนึ่งเล่มและหนังสือเล่มหนาในอ้อมแขน เขาวางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วเดินไปก้มมองร่างบนเตียง ชายชรายกมือขึ้นเหนือใบหน้าของเด็กชายที่ยังไม่รู้สึกตัวและเริ่มพึมพำอะไรบางอย่างที่เด็กหญิงได้ยินไม่ถนัด

ร่างบนเตียงกระสับกระส่ายคล้ายดิ้นรนปฏิเสธ หากชายชรากลับกล่าวว่า "อยู่เฉย ๆ เถอะ มาร์เซล เวทของเธอสู้ฉันไม่ได้หรอก" จากนั้นชายชราก็เริ่มเล่าเรื่องราว

"...ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของผมก่อนที่เธอจะตาย คือเธอต้องการตั้งชื่อลูกชายของเธอตามชื่อคุณอาที่เธอรักมากที่สุดเมื่อครั้งเธอยังเล็ก และหลังจากที่ร่างของเธอถูกฝังลงใต้ดิน พ่อของผมก็ประกาศว่าบุตรชายแรกเกิดของเขามีชื่อว่า โรเบิร์ต..."

ในระหว่างนั้น หนังสือเล่มหนาหนักที่วางอยู่บนโต๊ะก็เปิดกางออกเองโดยอัตโนมัติ อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากหน้าหนังสือ กล่าวตามประโยคของชายชราได้โดยไม่มีผิดเพี้ยน ในขณะที่เด็กชายบนเตียงดิ้นรนอย่างอ่อนแรงและประท้วงขึ้นว่า

"ไม่ มันไม่ใช่ชีวิตของผม!"

ชายชราออกจากห้องไป ทิ้งให้หนังสือเป็นผู้เล่าเรื่องราวเพียงลำพัง เด็กหญิงออกจากที่ซ่อนตัวและพยายามช่วยเด็กชายคนนั้นจากเวทมนตร์ของพ่อมดชรา เธอพยายามปิดหนังสือเพื่อให้มันหยุดเล่าเรื่องหากแต่ทำไม่ได้ เธอจึงปั้นขี้ผึ้งเทียนเป็นก้อนแล้วอุดรูหูของเด็กชายไว้แทน จากนั้นก็กลับเข้าไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าเพื่อดูความเป็นไปต่อจากนี้

หนังสือยังคงเล่าเรื่องราวเรื่อยไป คำพูดทั้งหมดก็ปรากฏเป็นตัวหนังสืออยู่บนหน้ากระดาษเช่นกัน

"...ตอนผมอายุได้สิบสองปี พ่อของผมได้รับบาดเจ็บที่ขาจนแผลเน่าเปื่อย จากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์เขาก็ตายจากไป ผมกลายเป็นเด็กไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีคนดูแล ดังนั้นจึงถูกนำตัวมาไว้ที่บ้านสงเคราะห์เด็กกำพร้าในเมืองฟอลไซด์แห่งนี้..."

เสียงปริศนายุติลง หนังสือปิดตัวเองลงโดยมือที่มองไม่เห็น ในเวลานั้นสองแม่ลูกก็ขึ้นมาบนห้องพักนั้นพอดี

"ต่อจากนี้ไปชื่อของเธอคือโรเบิร์ต เป็นชื่อที่เพราะมากทีเดียว" คนเป็นแม่วางมือลงบนหน้าผากของเด็กชาย ในขณะที่ลูกชายของเธอพูดขึ้นว่า "ไปกันเถอะครับ ลอร์ดอัลเวนคงกำลังรอรับหนังสือนี่อยู่"

สองคนหอบหนังสือเล่มใหญ่ออกจากห้องไป เด็กหญิงรอจนเสียงฝีเท้าเงียบหายไปก่อนที่จะออกจากตู้เสื้อผ้า เธอถอดก้อนขี้ผึ้งเทียนออกจากรูหูของเด็กชายที่ยังคงสลบไสลก่อนหลบกลับไปยังห้องนอนของเธอเอง

เด็กชายรู้สึกตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาพบกับสตรีสูงวัยนางหนึ่งผู้มีนัยน์ตาสีเขียวที่เต็มไปด้วยแววปราณี หล่อนแนะนำตัวเองว่าชื่อมิสซิสทิมมินส์ เป็นเจ้าของบ้านสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งนี้ จากนั้นมิสซิสทิมมินส์ก็เป็นฝ่ายถามเด็กชายกลับว่าเขาชื่ออะไร

"ผมชื่อ..." เด็กชายครุ่นคิด เขาพยายามจะพูดแต่เหมือนว่าชื่อของเขาเป็นคำที่พูดยากที่สุดในโลก แต่ในที่สุดเขาก็พึมพำออกมาได้ว่า "ผมคิดว่า ผมชื่อ... โรเบิร์ต"

****************************************


และนั่นคือบทเปิดเรื่องค่ะ เอาล่ะสิ ทำไมชายชราผู้นั้นต้องบิดเบือนความเป็นจริงด้วย เขาเรียกเด็กชายคนนั้นว่า มาร์เซล แต่เมื่อเด็กชายฟื้นขึ้นกลับคิดว่าตัวเองชื่อ โรเบิร์ต เหมือนอย่างที่ชายชราใช้เวทมนตร์ร่วมกับหนังสือเล่มใหญ่เล่มนั้นสร้างเรื่องขึ้นในระหว่างที่เด็กชายนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงในคืนวันฝนตกหนักนั่น!

เรื่องราวชีวิตของโรเบิร์ต หรือ มาร์เซล ค่อย ๆ คลี่คลายออกด้วยความช่วยเหลือจากเด็กหญิงคนนั้น เธอรู้เพียงชื่อจริงของเด็กชายคนใหม่แห่งบ้านสงเคราะห์เด็กกำพร้า และนั่นก็เพียงพอให้เรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปได้ จากเด็กผู้ชายในห่อผ้า กลายเป็นบุคคลที่ทางราชสำนักในเมืองหลวงต้องการตัว จากเพื่อนเด็กกำพร้าภายใต้การดูแลของมิสซิสทิมมินส์ กลายเป็นผู้ร่วมสายเลือดเดียวกัน

แล้วไหนจะยังมีหนังสือปริศนาเล่มนั้น หนังสือที่จะบันทึกคำพูดทุกคำที่เป็นเรื่องโกหกที่หลุดออกจากปากทุกคนที่กล่าวออกมาให้มันได้ยิน จนกระทั่งเหลือที่ว่างเพียงหน้าสุดท้ายและโคลงบทหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนปกหลังด้านในของหนังสือเล่มนี้...

When Lords and Ladies quest for fame
A Beast will touch the land with flame
Good men will die, their wives will mourn
While children weep for fathers gone

With swords for teeth and skin of steel
With arrowed claw and poisoned heel
The beast will grow and spread its wings
Destroying rogues and making kings

When all my pages fill with lies
Let slip the Beast and see it rise
Till one who understands this verse
Commands the Beast and breaks its curse


อะไรคือ "สัตว์ประหลาด" ที่กล่าวถึงไว้ในโคลง? แล้วใครคือผู้ที่จะยับยั้งเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นได้ด้วยการเข้าใจความหมายของโคลงบทนี้?

****************************************


เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแฟนตาซีผจญภัยที่สนุกมากเรื่องหนึ่งค่ะ เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดี ไม่มีพิษภัย การดำเนินเรื่องช่วงแรกจะค่อนข้างน่าเบื่อสักนิดนะคะเพราะพล็อตเดาง่าย เช่นว่า หากใครห้ามทำอะไรสักอย่าง ก็ต้องมีคนทำไอ้เรื่องนั้นขึ้นมาทันทีทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะถูกห้ามอยู่แหม็บ ๆ มันเลยให้ความรู้สึกว่า "แหม... อะไรมันจะพอดีขนาดนั้น!"

แต่พอเข้าสู่กลางเรื่อง ความลึกลับซับซ้อนของตัวละครและพล็อตเริ่มมากขึ้น ตอนนี้ล่ะค่ะถึงเริ่มสนุก เนื้อเรื่องชวนให้คนอ่านอยากรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของมาร์เซล(หรือโรเบิร์ต)คือใครกันแน่ และเมื่อปมค่อย ๆ คลายออก คนอ่านก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่ได้รับรู้ว่าที่จริงแล้วมาร์เซลมิใช่เด็กกำพร้าธรรมดา แต่เขาเป็น...

ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวอ่านไม่สนุกค่ะ อิอิอิ

ตอนเฉลยปริศนาของหนังสือและ "สัตว์ประหลาด" ที่อยู่ในโคลงนั้นทำได้ดีค่ะ คิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่าจะออกมาในรูปแบบนั้น เสียแต่ตอนจบสุดท้ายทำได้ไม่เคลียร์เท่าไหร่ คล้ายว่าจะเปิดช่องทางไว้ให้มีเล่มต่อ แต่ Poceille ไม่มีข้อมูลค่ะว่าคนเขียนเขียนต่อจริงหรือเปล่า ไว้หากหาข้อมูลได้จะมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังอีกทีนะคะ

หนหน้า สัญญาว่าจะเอานิยายแฟนตาซีของคุณ Terry Brooks มาแนะนำค่ะ



Create Date : 27 มีนาคม 2548
Last Update : 27 มีนาคม 2548 20:27:25 น. 5 comments
Counter : 756 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ น่าอ่านมากค่ะ


โดย: อยู่ไกลบ้าน วันที่: 27 มีนาคม 2548 เวลา:21:42:25 น.  

 
ตอบกระทู้จ้า


คุณอยู่ไกลบ้าน : Poceille ยินดีรับใช้ขะรับกระผม ^____^


โดย: Poceille วันที่: 3 เมษายน 2548 เวลา:21:47:08 น.  

 
น่าอ่านจังเลยค๊า


โดย: yadegari วันที่: 4 เมษายน 2548 เวลา:0:24:05 น.  

 
ขอมาเป็นขาประจำ blog นี้นะคะ ^^


โดย: +*~ S O u LM a T e~*+ วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:3:33:00 น.  

 
ตอบกระทู้ยู้ฮูค่ะ


คุณ yadegari : ขอบคุณที่แวะมาค่า... เรื่องนี้อาจจะหาในเมืองไทยยากหน่อยนะคะ แฮ่...


คุณ +*~SOuLMaTe~*+ : ได้เลยค่ะ ถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับเจ้าของบ้านเลยฮับ ^____^ ขอบคุณที่แวะมาเช่นกันค่ะ


โดย: Poceille ไม่ได้ล็อกอินขะรับกระผม IP: 161.200.255.161 วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:20:10:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poceille
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





.
.
.

Busy Woman
but
Non-productive

.
.
.


Friends' blogs
[Add Poceille's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.