|
เป็นตอนต่อจาก ครั้งที่แล้ว ที่ Genieee ได้มีโอกาสไปเรียนคอร์สแต่งหน้า
กับครูหมู ... อาจารย์อาจารย์ธวัลภัสร์ ทัศน์ปัญพล
วันนี้จะมาเล่าเรื่อง ขั้นตอนการบำรุงผิวพรรณค่ะ
ขั้นตอนการบำรุงผิว
การบำรุงผิวรอบดวงตา
ควรบำรุงก่อน เพราะเป็นบริเวณของผิวที่แห้งกว่าส่วนอื่น
วิธีเลือก texture ของครีม เลือกจากความต้องการการบำรุงที่มากขึ้นค่ะ
เริ่มจากเนื้อ gel , cream -> eye balm
ถ้าใช้แล้วมีเม็ดไขมันบริเวณเปลือกตา แสดงว่า
texture ที่ใช้ค่อนข้างหนาเกินไปค่ะ
ให้เปลี่ยนมาใช้เนื้อที่บางลงค่ะ วิธีใช้
ใช้นิ้วนาง หรือ นิ้วกลางก็ได้ค่ะ
มีหลายทฤษฎี ทฤษฎีที่บอกว่านิ้วนางดี เพราะว่าเป็นนิ้วที่มีแรงน้อยที่สุด
ส่วนทฤษฎีที่ว่านิ้วกลางดี เพราะเป็นนิ้วที่มี balance ดีที่สุด
ครูหมูบอกว่า ใช้นิ้วไหนก็ได้ค่ะ เลือกเอาตามที่ถนัด
เริ่มจากแตะ eye cream จากบริเวณหางตา วนมาใต้ตา
แล้ววกขึ้นไปที่เปลือกตา
ไม่ควรจะชิดเปลือกตามากเกินไป
กดแตะไปเรื่อยๆ จนเนื้อ cream ซึมลงไปค่ะ
ขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า
มี 2 step
1.serum หรือ essence
ไม่มีความจำเป็นในการใช้มากนัก นอกจากเรามีปัญหาบางอย่าง
ที่คุณสมบัติของ moisturizer ไม่ครอบคลุม
ควรทาก่อนลง moisturizer เพราะมีคุณค่าอาหารมากกว่า
2. moisturizer
แบ่งเป็น
1) moisterizing : ให้ความชุ่มชื้นกับผิว
2) anti aging : ต่อต้านริ้วรอย
เลือกใช้ที่เหมาะสม ตามอายุและปัญหาของผิวพรรณแต่ละคน
มิฉะนั้น จะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุค่ะ
Lip Balm
สามารถทาได้เท่าที่ต้องการ
เพื่อความชุ่มชื่นของริมฝีปาก และ ช่วยให้ lipstick ติดทนนาน
ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อที่แพง
ครูหมูแนะนำ Vasaline ของที่อเมริกา หรือ อังกฤษ
ซึ่งขายราคาถูก หาง่ายตามท้องตลาด (ที่นู้น แหะๆ)
เนื้อครีมจะไม่เหมือนของเมืองไทย
ซึ่งเหมาะกับการทาข้อศอก หรือ ส้นเท้ามากกว่า
Special Care
mask
มี 2 แบบ
1. หลอด / กระปุก
เน้นทำความสะอาด
เหมาะกับผิวมัน หรือ คนที่เป็นสิวบ่อย
เพราะโคลน ช่วยดูดน้ำมัน และ ล้างไขมัน
2. หน้ากาก (sheath mask)
ช่วยบำรุงเวลาเร่งรีบ
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว มักจะเข้มข้นกว่าครีมบำรุง 8-10x
ใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
Sunscreen
ควรเลือกที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB
ทีนี้เราก็ต้องมารู้จัก ค่าต่างๆดังนี้ค่ะ
SPF (Sun Protection Factor)
ป้องกันคลื่นรังสี UVB ซึ่งเป็นคลื่นแสงสั้น มีผลทำให้เกิดอาการแสบร้อนที่ผิวหนัง
หน่วยของ SPF จะมีหน่วยเป็นจำนวนเท่า
ที่ผิวเราสามารถทนความร้อนได้โดยที่ไม่ไหม้
ซึ่งโดยปกติ ผิวเราสามารถทนความร้อนได้ โดยที่ไม่ไหม้ได้นาน 20 นาที
เพราะฉะนั้น ถ้า SPF 15 = 20 min x 15 = 300 นาที
หมายความว่า SPF 15 สามารถกันแดดได้ 300 นาที
recommend SPF 15-30 ค่ะ
PA ( Protection of UVA)
ซึ่งตัวชื่อ ก็บอกแล้ว ว่าป้องกัน UVA
หน่วยของ PA คือ + ซึ่งจะมีตั้งแต่ + , ++, +++
ยิ่งจำนวน + มาก การป้องกันรังสี UVA ก็จะมากตามนั้น
recommend PA + ค่ะ
วิธีเลือก ครีมกันแดด
1. ไม่มีกลื่นฉุน
2. ใช้แล้วไม่ทำให้หน้าขาวลอย
3. ไม่ทำให้เหนียวเนอะหนะ
ครูหมู บอกว่า ไม่ควรใช้ SPF สูงๆ เพราะพวกนี้เป็นสารเคมี จะทำให้ผิวแพ้ง่าย
แต่โดยส่วนตัว เคยใช้ SPF 15, 30, 50, 89 มาแล้ว รู้สึกได้เลยถึงการปกป้องผิว
ไม่แน่ใจว่าแดดปัจจุบัน มันแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือ เป็นเพราะ เป็นคนที่ผิวไวต่อแดดมาก
SPF 50 PA+++กับ SPF 89 จะรู้สึกแตกต่างชัดเจน
ว่า SPF 89 ให้ผลปกป้องมากกว่าค่ะ
อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ
แต่ตามทฤษฎีขนาดของแพทย์ผิวหนังที่อเมริกา
ก็ recommend ตามที่บอกไปค่ะ
หลังจากที่ทาครีมกันแดด ให้นำฝ่ามือ 2 ข้าง ลูบบริเวณหน้าให้ทั่ว
เพื่อเกลี่ยครีมส่วนเกินออกมา
ลูบจนหน้าหายมัน หรือ ใช้กระดาษทิชชูคลี่ออก แล้ววางทาบบริเวณใบหน้า
ซับเบาๆ เพื่อให้น้ำมันส่วนเกินออก
คราวนี้ ใบหน้าเราก็พร้อมที่จะแต่งแล้วค่ะ ......
ขอบคุณกรอบสวยๆ จากคุณ pk12th แห่ง bloggangค่ะ
| |