Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
20 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
กิจกรรมดึงใจหลาน เมื่อพบพานปู่ย่าตายาย

เป็นพ่อแม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นปู่ย่าตายายก็ไม่ง่ายไปกว่ากัน หลายท่านมีหลานวัยน่ารักน่าชัง พูดเก่งชวนคุยพาให้ผู้สูงอายุเพลิดเพลินใจ แต่กลับไม่สามารถพบหน้ากันได้บ่อย ๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งทีมงาน Life & Family ขอรวบรวมสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ปู่ย่าตายาย และหลานต้องห่างไกลกัน ดังนี้



1. สภาพร่างกายที่ไม่อำนวย ผู้สูงวัยหลายท่านมีหลานวัยกำลังน่ารักแต่ตนเองกลับต้องนอนดูอยู่เฉย ๆ ไม่สามารถเข้าไปอุ้มชู เลี้ยงดูได้ดั่งใจ เพราะป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ซึ่งหากเกิดปัญหาเช่นนี้ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายมากทีเดียว

2. การหย่าร้าง ทั้งพ่อแม่เด็กหย่าร้างกัน และพาลูกไปอยู่กับตัวเอง ไม่ได้พามาให้ญาติพี่น้องอีกฝ่ายได้พบหน้า หรือการหย่าร้างของผู้เป็นปู่ย่าตายายเอง ทำให้ความสัมพันธ์เหินห่างกันไป

3. ความไม่เข้าใจกันระหว่างปู่ย่าตายายกับพ่อแม่ของเด็ก กรณีนี้มาจากความเชื่อในการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน ปู่ย่าตายายเคยเลี้ยงลูก ซึ่งก็คือคนรุ่นพ่อแม่มาด้วยวิธีหนึ่ง เมื่อมีหลานก็อยากจะนำภูมิปัญญา หรือความคุ้นเคยในอดีตกลับมาใช้กับหลานด้วย ขณะที่พ่อแม่ในปัจจุบันก็รับฟังจากกุมารแพทย์ และอ่านจากตำรับตำราต่าง ๆ มากกว่า จึงทำให้เกิดความขัดแย้งในแนวทางการเลี้ยงดูได้ง่าย เมื่อเกิดความขัดแย้งกัน โอกาสที่พ่อแม่จะพาหลาน ๆ มาพบปู่ย่าตายายก็มักจะลดน้อยลงตามไปด้วย

4. ผู้สูงวัยตามไม่ทันเทคโนโลยี มีหลายครอบครัวที่ผู้้สูงวัยกับหลาน ๆ เข้ากันไม่ได้ เพราะอุปกรณ์ไฮเทค ขณะที่เด็กสามารถใช้ทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ Gadget ต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว แต่คุณตาคุณยายกลับไม่สามารถเข้าถึง หรือเข้าใจในความไฮเทคต่าง ๆ เหล่านี้เลย เมื่อคนสองวัยมีความสนใจต่างกัน ความไม่เข้าใจกันก็มักจะตามมา ซึ่งความไม่เข้าใจกันนี้เอง ทำให้คนสองวัยต้องเหินห่างกันไปในที่สุด

5. พักอาศัยห่างไกลกัน ปัจจุบันพบเห็นได้มากขึ้น เมื่อพ่อแม่ลูกต้องย้ายเข้าไปอยูคอนโดมีเนียมใจกลางเมืองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ส่วนปู่ย่าตายายอยู่บ้านชานเมืองไกลออกไป จะได้พบกันก็แค่วันเสาร์-อาทิตย์ หรือบางเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้พบเสียด้วย เพราะหลาน ๆ ต้องไปเรียนกวดวิชา หรือบางครอบครัวที่ย้ายมาทำงานในเมืองใหญ่ ส่วนปู่ย่าตายายอยู่ต่างจังหวัด โอกาสได้พบหน้าหลาน ๆ จึงไม่บ่อยเท่าที่ต้องการ

อย่างไรก็ดี ในความเป็นครอบครัว จะมีแค่พ่อแม่ลูก แล้วมองข้ามความสำคัญของปู่ย่าตายายก็ใช่ที่ เพราะหลาน ๆ นั้นไม่เพียงเป็น "ยาใจ" ชั้นดีของผู้สูงวัย แต่ตัวของหลานก็จะได้รับสิ่งดี ๆ กลับคืนมาจากการได้พบกับปู่ย่าตายายเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

- ความสนุกสนาน ส่วนหนึ่งเพราะผู้สูงอายุหลายท่านเกษียนจากงานประจำกันแล้ว และมีเวลามากพอที่จะทุ่มเทให้กับหลาน ๆ ทั้งวัน นอกจากนั้น ปู่ย่าตายายหลายท่านยังสะสมกลเม็ดเคล็ดลับในการเลี้ยงดูเด็ก ๆ เอาไว้อย่างมากมาย ทั้งเพลงเก่า ๆ ที่ร้องกี่ครั้งก็ยังมีพลัง การละเล่นในอดีตที่ใช้ของใกล้ตัว หาได้ง่ายเป็นหลัก เช่น เกมตักเม็ดมะขาม ฝึกการใช้ข้อมือให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี หรือบางโอกาสแค่มีชอล์กกับพื้นเรียบ ๆ ก็ยังเปลี่ยนเป็นเกมสนุก ๆ ให้หลานเล่นได้

- ได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจในอดีต สิ่งละอันพันละน้อยที่เป็นเรื่องราวในอดีต คนที่ยุ่งอยู่กับงานประจำอย่างพ่อแม่อาจหลงลืม หรือละเลยที่จะถ่ายทอด แต่ผู้สูงอายุไม่ใช่ หลายท่านยังมีภาพในอดีตแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ การได้ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นให้กับหลาน ๆ ไม่ต่างจากการส่งต่อสมบัติอันมีค่าที่หาไม่ได้จากที่อื่น


สิ่งดี ๆ ที่กล่าวมาด้านบนนี้ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านไม่ต้องการให้ลูกของตน "พลาด" ไปอย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น การไม่ได้พาลูก ๆ ไปพบปู่ย่าตายายตามสมควรยังทำให้โอกาสในการสร้างความสนิทสนม และการสร้างความรักความผูกพันระหว่างคนสองรุ่นต้องลดน้อยลงไปอีกด้วย ดังนั้น หากเสาร์อาทิตย์นี้ ครอบครัวใดกำลังจะพาลูกไปเยี่ยมปู่ย่าตายายที่ไม่ค่อยได้พบหน้ากันบ่อย ๆ เรามีกิจกรรมดี ๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ และผู้สูงวัยสำหรับใช้ดึงใจหลานที่น่ารักให้เข้ามาใกล้ชิด มาคลอเคลีย นั่งตัก ปู่ย่าตายายกันเร็ว ๆ ยกตัวอย่างเช่น

- การเล่านิทานไทยที่ปู่ย่าตายายฟังมาแต่ในอดีต เช่น โสนน้อยเรือนงาม สังข์ทอง แก้วหน้าม้า พระอภัยมณี ฯลฯ ปัจจุบันนิทานเหล่านี้หาอ่านได้ยากมากขึ้น ดังนั้น หากเด็ก ๆ ได้ฟังและเกิดความสนใจ เขาก็จะกระเถิบเข้าไปใกล้ชิดปู่ย่าตายายมากยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ

- ทำขนม ทำอาหาร ยกตัวอย่างเช่น หลายบ้านยังมีเตาขนมครกอยู่ ลองมาปัดฝุ่น และใช้ทำขนมครกอร่อย ๆ รับประทานร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดี

- กรณีที่บ้านของปู่ย่าตายายอยู่ในชนบท ยังพอมีธรรมชาติหลงเหลืออยู่ ก็สามารถชวนหลาน ๆ ไปเดินเล่น ดูปลา ดูต้นไม้ ชมธรรมชาติรอบ ๆ ตัวที่หลานไม่ค่อยได้สัมผัสในเมืองกรุงได้เช่นกัน

- สอนให้รู้จักการละเล่นที่มีมาแต่โบราณ แต่หลาน ๆ ในยุคนี้ไม่รู้จักเสียแล้ว เช่น หมากรุกไทย หมากเก็บ เกมตักเม็ดมะขาม

- สอนท่องบทกลอนดี ๆ (ที่เด็กปัจจุบันไม่ค่อยได้เรียนกันแล้ว)

- วาดภาพระบายสี

- ร้องเพลงไทยโบราณดี ๆ ที่หาฟังได้ยาก หรือเพลงสอนใจที่คนในยุคก่อน ๆ ฟังกันจนชินหู เช่น เพลงดาวลูกไก่ ขณะกล่อมหลานนอนกลางวัน

- ฯลฯ

ก่อนจากกัน เคยมีบางท่านให้ความเห็นกับทีมงานว่า คำว่าครอบครัวไม่น่าจะรวมผู้สูงอายุ หรือก็คือปู่ย่าตายายเข้ามาด้วย น่าจะมีแค่พ่อแม่ลูกก็เพียงพอ แต่ในความเป็นจริง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ท่านที่เป็นพ่อเป็นแม่ และมีลูก ๆ ก็มีโอกาสเป็น "ปู่ย่าตายาย" กันได้ทั้งนั้น อย่ารอให้วันนั้นมาถึงแล้วค่อยเข้าใจหัวอกของคนเป็นปู่ย่าตายายกันเลยค่ะ...ถ้ามีเวลาและโอกาส พาหลาน ๆ ไปเยี่ยมท่านเสียแต่วันนี้จะดีกว่า

ที่มา ผู้จัดการ online


Create Date : 20 กรกฎาคม 2554
Last Update : 20 กรกฎาคม 2554 19:25:31 น. 0 comments
Counter : 1776 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MR.ITANRICH
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ผมเป็นคนไทยที่รักประเทศไทย
Friends' blogs
[Add MR.ITANRICH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.