สิ่งดี ๆ ที่ สังขละบุรี
วันนี้จะรีบมาอัพก่อนที่จะลืม ส่วนไอ้ที่คิดว่าจะอัพ..ก็ดองเค็มไว้ก่อนดีกว่า 5 5 5 เมื่อบอสไม่อยู่ นู๋ๆ ก็ขอร่าเริ่งแป๊บนึง ทำงานไป..เขียนบล็อกไป จะสำเร็จสักอย่างไหมนะ เอ้าลองดู เมื่อความรู้สึกว่าอยากจะเที่ยว..ที่ไหนก็ได้ ใจอยากจะไปหาอยู่ที่หนาวๆ เพราะไอ้ที่อยู่ๆ มันร้อนๆ รุ่มๆ มะรุมมะตุ้มเหลือเกิน อยากไปนู้น .. นี่ ... นั่น .. เชียงคาน เอย ภูทับเบิก เอย.. ม่อนแจ่ม เอย สรุปสุดท้าย เลือกไปที่สังขละบุรี เพราะเป็นอีกหนึ่งที่ ที่ไม่เคยไป และคงไม่ไกลมาก แค่นั้นแล.... ว่าแล้วก็แบกเป้ เอาขึ้นน้องกีวี่ พร้อมด้วยผู้ร่วมทางอีก 1 ชีวิต เอาล่ะ เราจะขับรถไปเที่ยวกันสองคนละนะ... ฮุยเลฮุย !!! ขอเล่าเล็กๆ ว่าพอคิดว่าจะไปสังขละบุรี ก็หาดูๆข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เพราะไม่ได้มีเวลามากเท่าไหร่นัก ก็แอบไปดูบล็อกของปู่ nongmalakor ตามลิงค์นี้เลย สังขละ จ.กาญจนบุรี
แล้วก็แอบถามปู่ผ่านทางไลน์คร่าวๆ ปู่บอกว่าปู่นอนแพ.. ก็เลยบอกแม่พิมพ์ ไปว่าเพื่อนเค้าไปนอนแพ สรุปแม่พิมพ์ ก็จัดการจองแพไว้เรียบร้อย 1 คืน กับแพลุงบุญ แล้วพอวันที่เจอกัน แม่พิมพ์เองก็ได้ปริ้นรายละเอียดว่าไปทางไหนยังไง เราก็เอ๊ะ ไมคุ้นๆ อ้าว...นี่ มันบล็อกปู่เรานี่... ก็ยังบอกกะแม่พิมพ์เลยว่า...เนี่ยล่ะ ที่โยคุยกะปู่ว่าปู่นอนแพ ก็คนนี้ล่ะ บังเอิ๊ญ บังเอิญ นะ แถมแม่พิมพ์บอกว่า ดูแล้วยังรุ่นๆเลย ประมาณว่าไม่น่าเรียกปู่ แถมชี้รูปให้ดูอีกว่า เนี่ยคนเนี้ยไม่ใช่หรอ...ก็ได้แต่ขำ ว่าใช่ที่ไหนล่ะ นั่นน่าจะเป็นคนขับเรือ.. 5 5 5 อ่าว แป่วววววว กลัวไม่เชื่อว่ารู้จักจริงๆนะเออ ยังบอกเลยนี่ไง มีชื่อโยในบล็อกปู่ด้วย แต่ก็ฮากันไป... ปอลิง แม่พิมพ์แอบมาบอกปู่ว่า ปู่น่ารัก และแลดูรักแฟนมากเลย..แอบอิจฉาชิมิ เอ้า...มาเริ่มเรื่องเราดีกว่า สมองเริ่มฝ่อ เพราะไม่ได้เขียนนาน ไอ้นั่นทำไง ไอ้นี่ทำไงแว๊... ห้วย... ไปแบบลงรูปอย่างเดียวละกันหุหุ ทริปนี้ เราไปกันตั้งแต่วันที่ 10 - 12 พ.ย. 2555 เริ่มขับรถออกจากกรุงเทพ กี่โมงจำไม่ได้ 5 5 5 ปลาทองสุดๆ และจะหาข้อมูลอะไรจากบล็อคของเกศินี คงจะไม่ได้แน่ๆ เอาน่าถือว่าเป็นยาระบายก็แล้วกัน
เรารู้แต่ว่าเราจะแวะทุกที่...อี้..ทุกปั้ม 5 5 5 ส่วนที่แวะเที่ยวน่ะ ไม่ได้แวะสักที่ เพราะมัวแต่แวะปั้มนั่นแล ขนาดว่าปวดฉีจนแทบจะไม่ไหว หาปั้มไม่ได้ คิดจะเข้าข้างทางหลาย ๆ ที แต่กลัวหญ้าตำ...แว๊ก !!
ด้วยทางที่ไม่คุ้น...น้องกีวี่ พลัง 1200 ค่อยๆ ไต่ ค่อย ๆ ไป สุดท้ายมาถึงแล้ว...สังขละบุรี ไปจอดรถที่ ซองกาเรีย รีสอร์ท แล้วก็มานั่งเรือที่จะไปที่แพลุงบุญ
นี่คือแม่พิมพ์ของชาติ...ใครเจอก็สวัสดีด้วยล่ะกันนะ ฮี่ๆๆๆๆ
ภาพสะพานมอญ ตอนอยู่บนเรือ งามเน๊อะ
อีกภาพของสะพานมอญ ระหว่างลอดใต้สะพาน
แพของเรา ที่จะนอนกันล่ะ ...ตื่นเต้าๆๆ เอ๊ย ตื่นเต้น
มุมจากบนแพมองออกมา เห็นสะพาญมอญใกล้ๆนี่ล่ะ
ภายในแพ ด้านหน้าเป็นที่โล่งๆ ให้นั่งนอนเล่นๆ มีทีวีเครื่องนึง
มีเครื่องครัวเล็กๆน้อยๆ สามารถซื้อของมาทำกินได้เลยล่ะ มาหลายๆ คนก็คงจะสนุกดีนะ
นี่ในห้องนอน ถือว่าโอเคมากสำหรับสองคน ราคา 600 บาท
เปเป้ น้อยๆ ของเกโย กะบลูฯแทค วางแม่ะ ไว้งั้นล่ะ
น้ำเยอะดีไหม.... อย่าคิดไปไกล เอาแค่ตรงสะพานมอญนี่นะเออ
รูปคู่..อ้วนๆ สักหน่อยน่ะ
งานนี้มีพี่หมีกะน้องลิงมาด้วยนะ แต่อิแม่มันไม่ค่อยจะหยิบมาถ่ายด้วยเท่าไหร่หรอก...กลัวแย่งซีน
นี่คือไกด์น้อยๆ ของเรา...."น้องกร" วันแรกที่เจอนี่ กวนประสาทมาก แต่สุภาพ นิสัยดี เลยรักน้องเค้าไปเต็มๆ
นั่งเรือไปดูเมืองบาดาลกันดีกว่า ตอนประมาณ 4 โมงครึ่งได้ น้องคนที่ไปรับเรามาทีแรกนั่นล่ะ ก็มารับไปดู ค่าเรือ 250 บาท เพราะไงเราก็พักที่นี่อยู่แล้วด้วย เห็นบางคนว่า จะต้องรอเป็นกลุ่มๆ ไป หารกัน
ย้อนๆ แต่ชอบนะ
ถึงหอระฆังแล้ว น้ำเปี่ยมขนาด...ถ้าน้ำลดนี่คงจะเห็นว่ามันสูงมากจริงๆล่ะ
อีกสักใบ
แล้วก็มาถึงโบสถ์ ถ้ามาตอนน้ำลดนี่..ก็สามารถเดินได้เลยก็มี ลองเสิร์ชดู อยู่เหมือนกัน
แวะไหว้พระบนแพสักหน่อย
อีกใบก่อนจะกลับ
ชิวๆ ปากห้อย เจอแดดส่อง ผิวสองสี 5 5 5 (ปกติไม่ได้สองสีเลยอ่ะนะ)
นึกไม่ออกว่าน้ำไม่มี นะสูงขนาดไหน
ก่อนกลับ
กลับมาเจ้าน้องกร ก็โดดน้ำโชว์ หลายรอบมาก แต่จับไม่ค่อยจะได้ หันไปคุยกะเพื่อนๆ แล้วก็โดดมาดื้อๆ
ส่วนแม่พิมพ์ ก็เพลิดเพลินกับแพส่วนตัว
เริ่มเย็นมากแล้ว วิวยิ่งดีนะ ว่าป่าว น้ำใสมากๆ แต่ก็ไม่กล้าลง ว่ายน้ำไม่เป็น
แพที่อยู่ติดๆ กัน เป็นกลุ่มวัยรุ่น หลายคนอยู่ แพนี้มี 3 ห้องนอนแน่ะ นอนได้เต็มที่ 12 คนเลย กำลังลากไปกลางน้ำ ส่วนอิฉัน กลัวค่ะ วังเวงเกิน นอนแบบนี้ดีกว่า
มีมุมอยู่แค่นี้ล่ะ เพราะไม่รู้จะไปไหนยังไง ฮ่าๆ แต่ก็ยังสวยนะเออ
เราก็สั่งอาหารอีกที่นึง แล้วทางแพของลุงบุญนี้จะไปรับกับข้าวมาส่งให้เราถึงที่ ก็เลยสั่ง แกงส้ม ยำสาวมอญ ผัดผักรวม ไก่เค็ม กินไปดูปัญญาชนก้นครัวไป แม่ะ ได้อารมณ์อีกแบบ เออนะ เดี๋ยวนี้ชักจะติดละครไปละ พอมืด แถวนี้ก้อมื๊ดดด มืดด แอบน่ากลัว จากสะพานที่คนเดินเยอะๆ ก็ไม่มี ไฟส่อง ก็มองแทบไม่เห็นทางแล้วมั้ง มองในน้ำก็มืด ตัวจิ้งหรีดก็บินวนรอบหลอดไฟ คงจะบูชายันตัวเองรึไงก็ไม่รู้ ชนกะหลังคาตลอดเวลา ไม่รู้จะสงสารดี หรือจะสมน้ำหน้าดี เพราะชีคงจะซาดิสม์แน่ๆ ถึงชนแล้วมันขนาดนี้ กินอิ่มแล้วก็นวดให้ครู ชอบค่ะ เกศินี ชอบใช้กำลัง เมามันมาก ทั้งนวด ทั้งเหยียบ 5 5 5 คนถูกนวดก็ซีด..โอย ตลอดเวลา ส่วนคนนวดให้ก็กัดปากแทบเลือดทะลัก ด้วยความเมามัน เพราะลำพังใช้กำลังมืออย่างเดียวมันไม่พอ ต้องใช้ปากช่วย....นั่น..อย่าคิดลึก คืนนี้เริ่มไม่เป็นสุข ท้องวนๆเวียนๆ นอนๆอยู่รู้สึกจะอาเจียน แต่ก็หลับลง แต่พอนานๆ เข้าชักไม่ไหว ... ตีสี่ลุกขึ้นมานั่งกึ่งนอน สุดท้ายต้องปลุกแม่พิมพ์ แล้วก็อาเจียน + ถ่ายท้อง อีก เยี่ยมไปเลย เดี้ยงซะงั้น หมดแรงข้าวต้มเลย ยังไม่ได้นอนพักต่อ ออกมาดูหมอกลง แต่ถ่ายรูปมาแล้วไม่ค่อยจะเห็นเท่าไหร่นัก อากาศเย็นๆ กำลังสบาย เลยมานั่งทอดอารมณ์อยู่หน้าแพ สักพักนึง
เสร็จแล้วก็ไปอาเจียนอีกรอบ ละค่อยไปนอนต่อด้วยความหมดแรง ทีนี้แผนที่จะไปใส่บาตรก็คงจะไม่ได้ไป ... นั่นป่ะไร ไม่เป็นไรเอาเท่าที่ไหว เช้านี้ แม่พิมพ์บอกว่าเห็นแม่ชีสีชมพูเดินมาเป็นกลุ่ม แต่คว้ากล้องไม่ทัน ได้แค่เท่านี้
ส่วนเกศินี หลับ ๆ ตื่นๆ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงน้องกรมาเรียก เพราะเรานัดกันไว้แล้ว แต่ลุกไม่ไหว สะกิดบอกแม่พิมพ์ว่าให้ไปบอกน้องหน่อยว่าไม่ไหว ก็ดันแกล้งน้องอยู่นาน ปล่อยให้น้องมันเรียกสักระยะ เพราะด้วยความที่อยากเอาคืน เมื่อวานกวน..ดีนัก พอฟื้นได้ประมาณ 10 โมง ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทาง ขับรถไปวัดวังก์วิเวการาม
แวะไหว้พระสักหน่อย
สวยงามดีจัง
ยิ้มสู้กล้อง...เพราะจริงๆ อิดโรยพอควรเลยล่ะ แต่ซุปตาร์อย่างเรา เห็นกล้องแล้วต้องยิ้มให้หน้าบาน (ไม่ยิ้มก็บาน)
บริเวณรอบๆ
งาม
แวะกินข้าวก่อน เพราะออกไปหมด และยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง วิวในร้านสมชายกาแฟสด (ถูกป่าวนะลืม)
ยังรู้สึกเหนื่อยๆ แย่ๆ เล็กๆ แต่สู้ตายฮ๊าบบบ
เมื่อกล้องมา หน้าก็บาน เหมือนเดิม ฮี่ๆๆ
แล้วก็ออกเดินทางต่อ
แวะถ่ายสะพานมอญ แบบไกลๆ
และน้องกีวี่น้อยๆ กลืนกับธรรมชาติเลยปะ ฮ่าๆๆ
แวะด่านเจดีย์สามองค์สักหน่อย ไหว้พระสยามเทวาธิราช
แม่พิมพ์ยืนตัวกลมเป็นโดเรม่อนเลย... กับเจดีย์สามองค์
เก็กหน้ากลมๆ ข่อยมาถึงละเน้อ
ถ่ายกะป้ายไว้ แต่ไม่ได้เข้าไปหรอก ฮี่ๆๆๆ เนียนๆ
หนึ่งโปรเจคเสมอ กับหลักกิโลฯ ที่เกโยมักจะถ่าย แต่เลข69 นี่ช่างไม่งามเอาซะเลยเหอะ
ฟ้าแจ่มๆ
แอบถ่ายกะป้าย แต่ก็ไม่ได้เข้าไป เรามาแวะเซเว่น หาของกินเท่านั้น
วันนี้ต้องแวะพักในตัวเมืองกาญจน์ แต่ไม่ได้หาที่พักไว้เลย กะว่าจะลองส่องๆดูไปเรื่อยๆตามรายทาง แต่แล้วก็มาถึงก็เกือบเย็นช่วงแค่ 5 - 6โมงเย็น ทำไมมันมืดไวจังหนอ พอเข้าตัวเมืองได้ก็ดูมาเรื่อยๆ ในที่สุดก็มาแวะถามที่ป้อมตำรวจ เค้าแนะนำว่าให้ไปที่ คุณย่ารีสอร์ท ปลอดภัยแน่นอน และไม่ไกลจากที่เราอยู่ด้วย ก็เลยจัดไป....เพราะมันมืดมาก เหมือนกับ 5 ทุ่มได้ เลยรีบ ๆ ไปหาที่พักดีกว่า สองสาวอย่างเราถึงหน้าตาจะเป็นอาวุธ แต่เค้าก็แอบหวั่นนะเออ อันนี้ได้มาถ่ายตอนกลางวัน
คืนละ 800 บาท ใครจะมาก็โทรมาจองกันก่อนก็ดี คุณปู่คุณย่า น่ารักมากๆ เป็นกันเองและดูแลเป็นอย่างดี
ติดกับริมแม่น้ำแคว ตอนกลางคืนที่ไปถึงนี่มีแต่แพเทค ทั้งนั้น เปิดเพลงกันกระหน่ำ บ่อยสุดก็คงจะเป็น กังนัมสไตล์ ทอปฮิตติดชาร์จอันดับหนึ่งเลยล่ะ
แล้วคืนนี้เกโยก็หลับอย่างไว เพราะเพลียมากมาย ขนาดว่าไม่ลุกไปอาบน้ำเลย แต่เช้ามานี่ดีขึ้นเป็นกองทีเดียว ก่อนจะร่ำลาคุณปู่คุณย่า ที่น่ารัก กะว่าจะไปเที่ยวที่้ถ้ำเสือซะหน่อย แต่ฝนตกหนัก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยอดค่ะ หนักขนาดระหว่างทางต้องแวะฟลายนาว เพราะน่ากลัวจริงๆ กะรอให้ฝนซาละค่อยไปต่อดีกว่า เค้าไม่ได้อยากจะแวะเลยนะ 5 5 5 แล้วก็เสียตังจนได้ ชิ ชิ สุดท้าย แวะกินข้าว ซื้อขนมของฝากเล็กๆ แล้วตรงดิ่งกลับกทม. เพราะฝนตกตลอด และแล้วก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัย ขอบคุณปู่มะละกอ สำหรับข้อมูล ขอบคุณน้องกีวี่ ที่พาเราไปถึงจุดหมาย ขอบคุณพี่หมีและน้องลิง ที่ไม่ค่อยได้ออกมาถ่ายรูปกันเลย โทษทีที่หาที่ชาร์จแบตกล้องไม่เจอ เลยถ่ายแบบเซฟๆนั่นแล ขอบคุณเวลา ที่ทำให้เราได้มากัน ขอบคุณสะพานมอญ ที่ให้นั่งมองเพลินๆ และทำให้สุขใจ ขอบคุณสายน้ำใส ขอบคุณผู้คนมากมายที่อยู่ที่นั่น ณ จุดนั้น ขอบคุณแม่พิมพ์ ที่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง และใช้ชีวิตบนรถซะมากกว่า แต่ก็สุขใจ ที่ได้ไปกับแม่พิมพ์นะ เพราะจุดมุ่งหมายมันไม่ได้อยู่แค่ที่ปลายทางที่ไปถึง แต่มันอยู่ที่ระหว่างทาง เราเผชิญอะไรกันบ้าง นั่นล่ะคือการผจญภัยของเรา ขอบคุณที่ดูแลกันตลอด ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือสิ่งดี ๆ ที่สังขละบุรี แล้วเราจะได้เจอกันอีก สวัสดี
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2555 |
|
20 comments |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2555 15:31:51 น. |
Counter : 5310 Pageviews. |
|
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ แบบว่าผมตามมาจากในเฟสบุ๊คส์ครับ
มาขอตามที่ยวสังขละบุรีด้วยคนครับ ที่สังขฃะบุรีผมเคยไปเที่ยวมาครั้งเดียวเอง แต๋ก็ได้แค่แวะเที่ยวยังไม่เคยนอนพักค้างคืนในแพแบบนี้เลยครับ เห็นภาพบรรยากาศแล้วก็น่าประทับใจมาก ๆ เลยครับ
จขบ. ถ่ายภาพได้สวยมาก ๆ เลยครับ ดูแล้วผมชอบเกือบทุกภาพเลยนะครับ
อิอิ