เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใคร ที่กำลังอยู่ในสถาณการณ์เดียวกัน อยากเปลี่ยนสายเรียน แต่กลัวปัญหาเรื่องเงินช่วย เพราะอาจจะมีคน ที่ยังไม่รู้เหมือน จขบ (ส่วนคนที่รู้แล้วก็ผ่านไปเนาะ)
เคสของ จขบ คือ อยู่ฟินแลนด์ เกินสามปี แล้วนะคะ เดี๋ยวขอเล่าตรงประเด็น 3 ปีนี้ก่อน เพื่อจะได้เห็นภาพชัดขึ้น
เคยเป็นเหมือนกันมั้ยคะ ตอนไปเรียน แล้วเจอเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน แต่ได้เงินไม่เหมือนกัน บางคนได้ 700-800 บางคนได้ สองร้อยกว่า เมื่อก่อนก็ งง เอ๊ะ ทำไมได้ไม่เท่ากัน มาเข้าใจตอนหลังนี้เองว่า
ที่ได้เงินไม่เท่ากัน เพราะ ต่างคนต่างเคสกัน ระยะเวลาที่อาศัยอยู่ฟินแลนด์ต่างกัน เงินจึงได้ไม่เท่ากัน
เขาจะขยายเวลาให้อีก 2 ปี
แต่ช่วง 2 ปี ที่ขยายมานั้น จะมีเงื่อนไขว่า ต้องเรียนอัมมัตติ หรือเรียนในครอสที่ te สนับสนุนเท่านั้น (ถึงจะได้เงิน)
ตัวอย่างเช่น คนที่เรียน valma ถ้าอยู่ฟินแลนด์ยังไม่เกิน 3 ปี จะได้เงินเดือนละ 700-800 ตามปกติ แต่ถ้าอยู่เกิน สามปี kela ไม่จ่ายเงินปรับตัวแล้วนะคะ ( แต่สามารถขอ opintotuki ได้ประมาณเดือนละสองร้อยกว่า)
ฉะนั้นคนที่เข้าเรียนอัมมัตติ ก่อนอยู่ครบ 3 ปี จะค่อนข้างง่าย เพราะจะได้เงินต่อเนื่องเลย คือยังไง te ก็ขยายเวลาให้อยู่แล้ว สายอาชีพส่วนมาก จะเรียนประมาณ 2 ถึง 2.5 ปี ยังไงก็จบก่อนครบเวลาอยู่แล้ว
ในเคสที่อยู่เกิน 3 ปี ทางเลือกเหมือนจะแคบลง ต้องเรียนอัมมัตติอย่างเดียว ถึงจะได้สิทธิ์ขยายเวลา อีก 2 ปี ( 24 เดือน)
กลับมาเข้าหัวข้อ ที่จะเล่าค่ะ กรณี ของ จขบ คือ กำลังเรียนอัมมัตติอยู่ แต่เรียนไปได้สักพัก( ก็เกือบๆจะจบแล้วล่ะ)
เพิ่งจะมารู้ตัวว่า เราไม่ค่อยชอบทางนี้ รู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางเรา อยากจะเปลี่ยนสายเรียน ทำไงดี ปัญหาคือ ถ้าเปลี่ยนสายเรียน ตอนนี้ แล้วเงินล่ะ เกล่าจะจ่ายอีกถึงวันไหน
คิดอยู่นานเลยค่ะ จะไปต่อ หรือ จะเปลี่ยน เป็นความสับสนทางความคิด หลายๆอย่าง จนที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่า เอาละ เปลี่ยนสายเรียนดีกว่า (เป็นคนมีปัญหาด้านการตัดสินใจค่ะ เฮ้ออ)
เมื่อตัดสินใจได้ ก็ไปปรึกษา กับครู ที่ รร เพื่อขอคำแนะนำ ถือว่าตัวเองนั้นโชคดีมากๆค่ะ จากเหตการณ์นี้ รู้สึก ขอบคุณ และรู้สึก รัก ฟินแลนด์มากขึ้น เพราะอะไร...
เพราะการได้รับโอกาสที่ดี ได้รับการสนับสนุน และความช่วยเหลือ ตามความจำเป็น และที่สำคัญคือ ความเสมอภาค ในการได้รับโอกาส ทางการศึกษา
ถ้าจะเล่าตั้งแต่ต้น เรื่องมันก็ค่อนข้างยาว และ อิรุงตุงนัง พอสมควร ว่าจะไม่เล่าเลย แต่พิมพ์มาเรื่อยๆ มันก็เพลิน จนอดที่จะพูดถึงไม่ได้
เป็นที่รู้กันดีว่า ฟินแลนด์ เป็นประเทศ ที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุด ในลำดับต้นๆของโลก ตัว จขบ เองนั้น ไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในระบบการศึกษา ของฟินแลนด์ มากพอที่จะมาอธิบายได้ว่า ที่เขาว่าดี มันดี ยังไง
แต่จากประสบการณ์เล็กๆ นี้ ทำให้ได้เรียนรู้ ได้เห็นถึง บทบาท ทัศนะคติ และจริยธรรมในการทำงาน ของครูฟินแลนด์ ในมุมที่ (ส่วนตัว) รู้สึกประทับใจ
จากมุมเล็กๆ มุมนี้ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่าง ทำให้พอจะเข้าใจได้ว่า ทำไมฟินแลนด์ จึงมีระบบการศึกษาที่ดีนั่นเอง
กลับมาต่อเรื่องเงินกันค่ะ เมื่อจัดการเรื่องเปลี่ยนสายเรียน กับทาง รร เรียบร้อยแล้ว (เรียนที่ รร เดิม) ก็ไปยื่นเรื่องแจ้ง te ว่าจะเปลี่ยนสายเรียนนะ และยื่นขอเงินสนับสนุน ซึ่งตอนยื่นเรื่องนั้น ไม่ได้รู้เงื่อนไขการจ่ายเงิน ในเคสแบบนี้เลยค่ะ
แต่ก็ทำใจไว้แล้ว เพราะตัวเองใช้สิทธิ์รับเงินไปแล้ว ปีกว่า (ส.ค. นี้จะครบกำหนดการจ่ายเงิน 2 ปี) ครอสใหม่ที่จะไปเรียนนี้ เป็นครอส 2.5 ปี
ขั้นตอนการยื่นขอเงิน ก็เหมือนการยื่นขอครั้งแรกทุกอย่างค่ะ เอกสารที่กรอกก็เหมือนเดิม ( ใช้ฟอร์ม 621 และ 623 เหมือนเดิม) แต่ตรงช่องที่ต้องกรอก เหตุผลว่า ทำไมเราจึงเลือกเรียนสายอาชีพนี้ ตรงช่องนี้สำคัญ ที่ต้องเขียนเพิ่มคือ เหตุผลว่า ทำไมต้องการเปลี่ยนสายเรียน เพราะมันมีผลต่อการพิจารณาจ่ายเงินค่ะ
หลังจากยื่นเอกสารไป te ก็โทรมาสัมภาษณ์ สอบถามเหตุผล การเปลี่ยนสายเรียน ถามหลายอย่างพอสมควร เช่น แผนการหางานทำในอนาคต
มีเอกสารที่ต้องยื่นเพิ่มเติม (จำชื่อภาษาฟินไม่ได้ น่าจะเรียก opintosuorite มั้งคะ) เป็นเอกสารที่ใช้แสดงผลการเรียน ซึ่งใบนี้ ทุกคนที่เรียนอัมมัตติ ต้องยื่น te อยู่แล้ว ทุกๆ หกเดือน แต่ครั้งนี้ te ขอเพิ่มมาอีก เพราะเป็นเคสเปลี่ยนสายเรียนกลางคัน
เดี๋ยวเล่าตรงนี้เพิ่มเติมนิดนึง ตอนที่สมัครเรียนครอสใหม่นั้น ก็ยังไม่ได้ลาออก จากครอสเดิมนะคะ ยังไปเรียนตามปกติ ในเวลาเดียวกันนั้น ก็สมัครเข้าเรียนครอสใหม่ ใน รร เดียวกันนั้นล่ะ
ถึงจะเป็นการเปลี่ยนสายเรียน ใน รร เดียวกัน ก็ต้องสมัครเข้าไปใหม่ และต้องสอบสัมภาษณ์ ไปตามระบบขั้นตอน การคัดเลือกนักเรียน แต่จะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องสอบวัดภาษาอีก
เมื่อรู้ผลว่า สอบเข้าครอสใหม่ได้ ถึงลาออกจากครอสที่เรียนอยู่ แล้วไปแจ้ง te ว่าเปลี่ยนสายเรียน ที่ทำแบบนี้เพราะอะไร เพราะว่าจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินกับ kela ( ในระหว่างพักเรียน รอเรียนที่ใหม่ ถ้าอยู่ระหว่าง 65 วัน ก็ยังได้เงินปกติค่ะ)
นอกจากไม่โดนตัดเงินแล้ว ก็ไม่เสียสิทธิ์ที่เรียนด้วย เพราะหากสอบเข้าสาขาใหม่ไม่ได้ เราก็ยังสามารถ เรียนครอสเดิมได้ตามปกติ ( หากต้องการ) แต่การทำแบบนี้ ควรแจ้งให้ครูประจำชั้น และครูที่ปรึกษารับทราบด้วยค่ะ
พอยื่นเอกสารให้ te ครบ ประมาณ 2-3 วันเองค่ะ จนท โทรมาแจ้งว่า เขาพิจารณาขยายเวลา จ่ายเงินให้อีก 2 ปี ( 24 เดือน) เพราะสายอาชีพใหม่ที่เลือกเรียน เป็นสายที่ te สนับสนุน
พอทราบแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย จากที่คาดว่า te อาจงดจ่าย หรือหากจ่าย คงได้เงินอีกแค่ 8 เดือน แต่กลับได้รับข่าวดีว่า te พิจารณาให้เต็มเวลาเลย
เล่ามาซะยืดยาว เรื่องก็มีแค่นี้เองแหละค่ะ (ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ฮ่าๆ) สรุปสั้นๆว่า ถ้าอยากเปลี่ยนแผน การเรียนใหม่ กลางทาง เราก็ยังได้เงินช่วย อีก 2 ปี เหมือนเดิมค่ะ หากสายที่เรียน ยังอยู่ในเงื่อนไข และการสนับสนุนของ te พร้อมกับการแสดงเหตุผล ที่เพียงพอ สมเหตุสมผล ว่าทำไมถึงต้องการเปลี่ยนสายเรียน แต่สิ่งที่เสียคือ มันเสียเวลาค่ะ
ถ้าไม่อยากเสียเวลา เหมือน จขบ ก็วางแผนกันดีๆ ก่อนไปเรียนนะคะ
ตัวเองนั้นพลาด ที่ไม่ได้วางแผนเรื่องเรียนเลย ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร หรือถนัดอะไร ( เอาจริงๆ ก็ไม่ถนัดอะไรเล้ยสักอย่าง )
จะว่าเสียเวลา มันก็ใช่ แต่มองในมุมบวก ในความเสียเวลาก็มีประสบการณ์ดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เอาน่ะ ไม่มีอะไรสายเกินไป สำหรับการเริ่มต้นใหม่เนอะ :)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
