ก า ร ส มั ค ร วิ ซ่ า..ตีนกาเพิ่มเส้นที่ 2

จะว่าไปแล้ว การสอบ IELTS มันก็ไม่ได้ยากมากมายเท่าไหร่ (ถ้าเราเตรียมตัวมาดี. . .) ยิ่งสอบแบบ General ด้วยแล้ว มันจะค่อนข้างง่ายกว่า Acadamic นิดหน่อย ตรงที่การอ่าน กับ การเขียน แต่ในทักษะการฟัง(เทปม้วนเดียวกัน) กับ การพูดนั้น เหมือนกัน

- การอ่านแบบ General มันจะมีหลายส่วน ซึ่งส่วนแรก ๆ จะเป็นพวกการอ่านป้ายประกาศทั่วไป ว่าเราเข้าใจไหมว่าป้ายนั้น ๆ ต้องการบ่งบอกอะไรเรา ส่วนต่อมาจะเป็นบทความให้อ่านยาว ๆ แล้วจับใจความ หรือบางทีก็เติมคำที่ขาดหาย... สรุปว่า Part นี้ไม่น่าเป็นห่วง

แต่การอ่านของ Acadamic นั้นจะประมาณว่า บทความวิชาการค่อนข้างยาวและศัพท์ จะค่อนข้างยาก เนื่องจากบุคคลที่จะสอบแบบ Acadamic ส่วนมากจะใช้ในการเรียนต่อ ซึ่งยังงัยก็ต้องทำวิทยานิพนธ์ จึงไม่แปลกที่จะต้องมีทักษะที่ค่อนข้างสูงกว่า General

- การเขียนนั้น General จะมีการเขียน 2 อย่าง ในเวลา 1 ชั่วโมง นั่นคือ เขียนจดหมาย ประมาณ 150 คำ และเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่ให้มา ประมาณ 250 คำ

แต่การเขียนของ Acadamic จะแบ่งเป็น 2 อย่างเช่นกัน คือ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกราฟ 150 คำ และ เรียงความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่ให้มา 250 คำ ภายในเวลา 1 ชั่วโมง

ซึ่งความดีความชอบ ในการเตรียมตัวสอบ IELTS ครั้งแรกในชีวิตนี้ ต้องยกให้พี่สาวคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS - Acadamic ได้มอบสื่อการเรียนและข้อสอบเก่า ๆ ไว้ให้ . . และคอยสอบถามสารทุกข์ สุขดิบ ประมาณว่าหัวอกเดียวกัน(แต่คนละ size นะค๊า . .) แต่พี่เค้าจะสอบยากส์ กว่า เพราะเราสอบแค่ General แต่ถ้าเราไม่ได้ลองฝึกทำแบบข้อสอบเก่า ๆ มีหวังเข้าไปสอบ คงเอ๋อ เป็นแน่แท้ เพราะจำได้แม่นเลยว่า ชุดแรกที่ลองทำ ได้คะแนน น่าสมเพชมั่กมาก... ถึงขั้นจิตตก ตีนกาขึ้นเส้นอีกเส้นทันที.. . .

แต่พอลองทำไปสัก 2-3 ชุด มันเหมือนว่าจับแนวได้ . . คะแนนเริ่มอยู่ในเกณฑ์ เป็นที่น่าพอใจ (แต่ฝึกทำแค่ Part ฟัง กับ อ่าน ) เพราะ การเขียน... เราก็ใช้อ่านบทความเอาแล้วจับแนวทางเอง พร้อมกับดูคำศัพท์ผ่าน ๆ เพราะขืนเขียนไปแล้วตรวจเองก็คงแปลกดี มิน้อย พอ ๆ กับเรื่องการพูด จะให้ไปฝึกพูดคนเดียว เด๋วแม่จะหาว่าลูกสาว อ่านหนังสือมากไปจนบ๊อง !!! พูดคนเดียว ถามเอง ตอบเอง ก็ได้... สรุปว่า ก็เตรียมตัวสอบ ประมาณ 2 สัปดาห์ แบบชิว ๆ (เพราะเครียดไป สมองจะไม่ปลอดโปร่ง แถมก็ไม่มีอะไรดีขึ้น)

แต่สงสัย เราจะชิวมากเกินไป เพราะ คืนก่อนสอบยังไปตามล่า หาเนื้อจิ้มจุ่ม ในตำนานของห้องก้นครัว ---> โพนคำยาง กินกับเพื่อน ๆ อย่างเมามันส์ กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไป เที่ยงคืนก่า...จนเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้สอบกลับมาตื่นเต้น และเครียดแทน !!!!

และแล้ววันสอบก็มาถึง.. . .ก็ยังคง concept ชิวไม่เลิก เพราะ ระหว่างทางที่ไป เราก็ฟังเพลงบรรเลงของ Depapepe ไปตลอด พอไปถึงสถานที่สอบก็จะเห็นบรรดาผู้ปกครองที่มาให้กำลังใจลูก ๆ หรือ กลุ่มเพื่อนที่เรียนพิเศษด้วยกันมา จับกลุ่มกัน บ้างก็ยังอ่านหนังสือจนวินาทีสุดท้าย บ้างก็ทบทวนนู้นนี่...บ้างก็พูดคุย ในขณะที่เรา ไม่ค่อยชอบสถานการณ์การสอบแบบนี้(มันตึงเครียดชอบกล) หลังจากดูเวลา สอบสัมภาษณ์เสร็จ ก็เลยลงไปนั่งกินกาแฟ ที่ล็อบบี้ของโรงแรมและก็ยังคงฟังเพลงไปเรื่อย ๆ . . ๆ .

ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ . .แต่จริง ๆ แล้วที่ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ และกินกาแฟนั้นก็เพราะคอยดับความตื่นเต้น . . . .ที่จริง ตื่นเต้นโครต ๆ ๆ ๆ ๆ ...

ในช่วงเช้า จะมีการสอบ 3 ทักษะ เริ่มจาก ฟัง . . อ่าน . . และ เขียน . . .ซึ่งพอสอบช่วงเช้าเสร็จ อารมณ์ดีมาก ๆ เพราะทำได้...แต่ได้เท่าไหร่ไม่รู้ อิอิ

ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการสอบ part สุดท้ายนั่นคือ การพูด ตัวต่อตัว ซึ่งจะรันเวลาตาม ตัวอักษรแรกของนามสกุล ใครขึ้นต้น ตัว A ก็จะคนแรก ๆ ประมาณ พักเที่ยงเสร็จแล้วต้องรีบไปสอบพูดต่อ ของเราโชคดี หรือ ร้ายไม่รู้ ขึ้นต้นตัว K. แทบเป็นคนสุดท้าย ประมาณว่ามีเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงไปเดินเล่นที่ธนิยะ และกินอาหารญีปุ่นบุพเพ่ !!! ก่อนไปสัมภาษณ์ แต่ part นี้ผิดคาดสุด ๆ สงสัยฤทธิ์ปลาแซวมอล บวกกับทาโกะ ที่กินไป ทำให้เรานึกศัพท์ภาษาEnglish ไม่ออก !!! กรรมเลยตู รู้งี้กินสลัด เสต็ก พลาสต้า. . ดีก่า เผื่อว่ากินอาหารประจำชาติและจะพูดคร่อง (เกี่ยวมั้ย?) เฮ้ย..ย.. แต่ไงก็ พูดไปแบบ บรา ๆ . .ๆ โน บรา . .ๆ ๆ เยส ๆๆ ใส่บรา ๆ ๆ โอววว ..จนครบเวลา พอออกจากห้องสอบ เท่านั่นแหละ. . .จากที่อารมณ์ดีในช่วงเช้าว่าผ่านแน่ ๆ กลับกลายเป็นจิตตกเป็นที่สุด เดือดร้อนถึงเพื่อน ๆ ที่ต้องนัดรวมพลกัน โดยมิได้นัดหมาย ในคืนจันทร์เต็มดวง และเพื่อน ๆ เหล่านี้ก็เป็นเทพทั้งน้าน !! ณ นั่งเล่น ที่เอกมัย . . .(ปล. นั่งเล่น ในที่นี้ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาน ของผู้อ่านนะฮ๊า... "แม่ ฝ้ายไปนั่งเล่นที่เอกมัยเฉย ๆ นะ..อิอิ")

แต่จะบอกว่าช่วงเวลา 2 อาทิตย์ กว่าผล IELTS จะออกนั้น เป็นช่วงเวลาที่จิตตกเป็นที่สุด ยิ่งกว่าวัยทอง หรือ ช้างตกมัน คนรอบข้างต่างพากันหน่ายหนี . .เอกสารต่าง ๆ ก็ไม่ทำ เนื่องจากไม่มีอารมณ์ แต่ก็ยังเข้าไปอ่านข้อมูลที่

//www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H5601343/H5601343

ตลอดเวลา จนบางคนเค้าส่งเอกสารไปออสแล้ว...!!
ในขณะที่เรายังคงจิตตกเรื่อง คะแนน IELTS และยังไม่ได้เตรียมเอกสาร อะไรเล๊ย. . . . .

เหตุการณ์จะเป็นเช่นไร . .

โปรดติดตาม . . . .

Create Date : 02 สิงหาคม 2550		1 comments
Last Update : 16 สิงหาคม 2550 14:40:30 น.
Counter : 526 Pageviews.
Share Tweet