บริษัทรับกำจัดนกงานเข้าแน่นอนโดยเฉพาะนกพิราบ

หลังจากหาข้อมูลของบริษัทกำจัดนกแล้วผมได้ได้อ่านบทความเกี่ยวกับสัตว์และโรคร้ายที่มากับสัตว์โดยเฉพาะนกพิราบจึงอยากเอามาแบ่งปันให้สมาชิกบล้อกได้อ่านกันซึ่งถือว่าสำคัญกับชีวิตเรามากเพราะบ้านเรือนที่อยู่อยู่อาศัยของบางท่านอาจมีนกจำพวกนี้อาศัยอยู่ และสร้างมลพิษทางกลิ่นและเสียงโรคร้ายก็จะตามมาอ่านกันเลย

บริษัทกำจัดนก

ภัยจากโรคร้ายของมูลนกพิราบที่กระทบกับมนุษย์

จากคำบอกเล่าของหลายคนเกี่ยวกับมูลนกพิราบหรือนกกระจอกที่มีเชื้อโรคนั้นมีส่วนใช่อยู่บ้างแต่ไม่ค่อยมีใครได้พูดถึงเชื้อโรคนั้นๆอย่างเฉพาะเจาะจงลงไปว่าเป็นเชื้ออะไรหลายคนบอกว่าเชื้อไวรัสจากมูลนกพิราบมีมากและไม่ควรเลี้ยงหรืออยู่ใกล้นกพิราบข้อมูลเหล่านี้เป็นจริงบางประการแต่หารู้ไม่ว่าไม่เพียงแต่เชื้อไวรัสยังมีเชื้ออื่นๆที่ควรระวังพอๆกันไม่เพียงแต่มูลนกพิราบเท่านั้นที่มีเชื้อ แต่ยังพบในมูลนกหลายๆชนิดเนื่องจากมูลนกจะมีครีอาตินิน (creatinine) เป็นส่วนประกอบ เชื้อราจึงใช้สารเหล่านี้เป็นแหล่งธาตุไนโตรเจน.เติบโตและขยายพันธุ์

เชื้อรา คริปโตคอคคัสนีโอเฟอร์มานส์ (Cryptococcusneofermanns) เป็นเชื้อราที่พบมากในมูลนกตระกูลนกพิราบและนกอื่นๆมูลนกหลายชนิดเป็นแหล่งเพาะเชื้อราได้ดีในสภาวะชื้นและแสงแดดส่องไม่ถึงจากการสำรวจจะพบว่าเชื้อราชนิดนี้สามารถเติบโตได้ดีในแหล่งที่มีอุณหภูมิระหว่าง25-30องศาและหากอุณหภูมิสูงกว่านั้นหรือความชื้นน้อยกว่าก็จะตรวจพบเชื้อราได้น้อยลงสถานที่ๆตรวจพบเชื้อนี้มากก็จะเป็นสถานที่ๆมีกำบังแดดส่องไม่ถึง มีความชื้นมีมูลนกเป็นแหล่งอาหารของเชื้อรา ขอบหน้าต่างไม้กวาดที่ใช้กวาดพื้นก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อราได้ดีเช่นกันอาการของผู้ที่ได้รับเชื้อคนสามารถได้รับเชื้อคริปโตคอคคัสนี้ได้โดยการหายใจเอาสเปอร์หรือตัวเชื้อราเข้าไปในปอดโดยทั่วไปเชื้อราและสปอร์ของมันจะมีน้ำหนักเบาและถูกพัดพาให้กระจายในอากาศได้โดยง่ายบุคคลใดที่อยู่ใกล้โรงเรือนเลี้ยงนกหรืออยู่ใกล้กรงนกที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดก็อาจหายใจเอาเชื้อราหรือสปอร์ของเชื้อราเข้าไปและมีอาการติดเชื้อภายในระบบหายใจได้เชื้อนี้จะเกิดที่ปอดก่อนเป็นอันดับแรกและลามไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายโดยผ่านทางกระแสเลือดที่ถูกฟอกไหลผ่านปอดการเกิดโรคนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆและเรื้อรังคนที่ได้รับเชื้อนี้เข้าไปจะมีอาการปวดศีรษะเป็นพักๆและอาการปวดจะเพิ่มขึ้นมีอาการหน้ามืด วิงเวียน มีอาการปวดขมับ เบ้าตาบางครั้งอาจถึงอาเจียน คนที่เป็นโรคนี้ที่ปอด จะมีอาการไอเอและมีเสมหะปนเลือดมีไข้ต่ำ น้ำหนักลดอาจมีอาการของหลอดลมอักเสบร่วมด้วยในบางคนอาจจะไม่มีอาการอยู่เลย เชื้ออาจจะฟักตัวบนร่างกายคนเราเป็นเวลาหลายปีจนเมื่อร่างกายอ่อนแอจะแสดงอาการออกมา ในกรณีของคนที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ เชื้อนี้จะเจริญเติบโตได้ดีเพราะภูมิต้านทานต่ำ มีอาการรุนแรงกว่าคนปรกติและรักษาได้ยากกว่าการรักษาจะใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลาระยะหนึ่ง และรักษาตามอาการอื่นๆ

จากการวิจัยยังพบว่าเชื้อนี้มีในมูลนกอื่นๆ อีก เช่น นกกา นาดุเหว่า นกเอี้ยง แต่พบปริมาณน้อยมากและยังพบในนม ที่ได้จากวัว ที่เต้านมอักเสบ จากเชื้อนี้ด้วย เมื่อได้ศึกษาข้อมูลนี้แล้วทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ไม่ควรเลี้ยงสัตว์กระทั่งนก และสัตว์อื่นๆ ด้วย คงเทียบเคียงกัน ให้เข้าถึงความจริงได้ว่าการเลี้ยงสัตว์ นอกจากจะทำให้ เสียความเป็นสัตว์ คือ ทำให้สัตว์ขาดอิสระเสรีภาพภราดรภาพ และ ขาดศักยภาพ ของความเป็นสัตว์ ตามธรรมชาติแล้วยังอาจจะก่อให้เกิดโรคภัย ต่อคนได้ด้วย

นกพิราบชอบทำรังอาศัยอยู่ตามซอกหลืบของอาคารที่ใกล้แหล่งอาหาร นกพิราบจึงมีอยู่ทั่วไปตามวัด อาคารเรียนอาคารที่อยู่อาศัยของคน นกพิราบมีส่วนทำลายสภาพแวดล้อมเนื่องจากนกพิราบชอบทำรังอาศัยตามอาคาร และแพร่ขยายพันธุ์ได้เร็วทำให้อาคารบางแห่งมีนกพิราบอาศัยอยู่จำนวนมาก ทำความสกปรกแก่อาคารจากการถ่ายมูลหากชุมชนใดมีนกพิราบมากเกินไปจะเกิดปัญหากับชุมชนนั้นได้เนื่องจากคนสามารถติดเชื้อจาก-ได้จากการสัมผัส-ป่วยโดยตรงและโดยทางอ้อมจากการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจาก-ที่เป็นโรค เช่น อุจจาระ น้ำมูกน้ำตา น้ำลายของ-ที่ป่วย

การที่หวังจะให้โรคที่มากับนกหมดหายไปคงเป็นเรื่องยากเนื่องจากสาเหตุที่เชื้อจะเข้ามาอีกในไทย คือ

1.เกิดจากนกอพยพ

2.เส้นทางที่นกลงไปหาพื้นที่ที่อบอุ่นกว่า

3.สถานที่บริเวณที่เกิดโรคระบาด

เมื่อดูจากสภาพภูมิศาสตร์ระยะเวลา และเส้นทางอพยพ เหมือนกับสหรัฐอเมริกา ทำให้ใจได้เกือบ 100% คือเมื่อเรียงตามลำดับของประเทศที่เกิดโรค ตั้งแต่จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม ประเทศไทยอินโดนีเซีย และปากีสถาน ในแง่ของระบาดวิทยาสรุปว่าควรจะมีเชื้อติดอยู่ในนกที่บินอพยพจากบริเวณหนาวของไซบีเรียลงมาเพื่อหาอาหารกินในบริเวณอบอุ่นแล้วนำไปติดในฟาร์มไก่ซึ่งวงจรชีวิตของนกจะออกไข่ที่ไซบีเรียเมื่อโตแล้วจะบินลงมาเพื่อมาหากินและผสมพันธุ์ในแถบนี้เพราะอากาศอบอุ่นและเมื่ออากาศที่ไซบีเรียเริ่มอบอุ่น บ้านเราเริ่มร้อน มันก็จะบินกลับไป จะเป็นอย่างนี้ทุกปีเป็นระบบนิเวศวิทยา โดยแหล่งน้ำใหญ่ของไทยที่นกพวกนี้บินมาทุกปีคือ"บึงบรเพ็ด" ซึ่งเป็นแหล่งน้ำใหญ่และอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ในบ้านเรามีนกตระกูลเดียวกันจำนวนมากที่มีโอกาสติดต่อได้ง่าย และควบคุมได้ยากสิ่งที่จะช่วยได้คือธรรมชาติ ฤดูกาลที่อุ่นขึ้นความร้อนจากพระอาทิตย์จะช่วยทำลายไวรัสชนิดนี้ได้

แต่ที่สำคัญคือประชาชนยังไม่รู้เพราะคนไม่เข้าใจว่าเป็นมหันตภัยร้ายแรงขนาดไหน หลังจากควบคุมได้แล้วในปีหน้าก็มีโอกาสจะเกิดได้อีกอย่างแน่นอน แต่มีวิธีการป้องกันคือต้องคิดวัคซีนที่ป้องกันให้ได้ แต่ก็ไม่ง่ายและตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนโดยเฉพาะในประเทศไทยไม่มีวัคซีนเลย เพราะเราไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อนขนาดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ยังเหลือเพียงทามิฟลู (Tamiflu)เลยที่เหลือเชื้อดื้อยาไปแล้วดังนั้นวิธีป้องกันคือ มาตรการสกัดตั้งแต่ต้น คือ การระแวดระวังถ้าเป็นไปได้ในบริเวณที่นกลงมาพัก

สำหรับบ้านเรือนอาคารสถานที่ราชการ โรงงาน สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล และอื่น ๆสามารถป้องกัน-พาหะนำโรค ซึ่งแม้นกดังกล่าว ยังไม่ตายเพียงแค่ป่วยหรือติดเชื้อเล็กน้อย โดยเฉพาะจากไข้หวัดนก มันก็เป็นพาหะนำโรคดังกล่าวสู่คนโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น นกกระจอก นกพิราบ อีกา-ปีกชนิดอื่นๆ



ที่มาของบทความ: //www.acceptenvironment.com




Create Date : 06 มีนาคม 2556
Last Update : 6 มีนาคม 2556 12:59:29 น.
Counter : 1485 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

pyopyo2524
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



มีนาคม 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31