----หลังจาก ขั้นตอนที่ 1  เรามีสัญญาออปชั่นมาไว้ในพอร์ตแล้ว

========  สู่ขั้นตอนที่ 2  การบริหารพอร์ต

จากวินาทีแรกไปจนหมดอายุของสัญญา เราก็จะต้องเริ่ม ดูกระดานออปชั่น จะเป็นช่วงๆเวลาหรือ ตลอดเวลาหรือ ไม่ต้องดูเลยอย่างไร  ก็ขึ้นกับระบบที่เราคิดเราวางไว้และเราทำไว้กับสัญญาที่มี

        ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น

                  เนื่องจาก การเล่นออปชั่นที่ส่วนใหญ่จะเรียนมาจากตำราฝรั่ง  หรือไทยที่แปลจากฝรั่ง

                 เช้น คนที่เพิ่งเล่นมัก จะชอบมากกว่ากลยุทธอะไรคือ 

                Long Straddle   เนื้อหาเขาบอกไว้ว่า

                   คำอธิบาย คือกลยุทธแบบนี้ จะง่ายต่อการไม่ต้องคิดว่าทิษทาง ดัชนีจะแกว่งขึ้นลง แรงก็ได้  จะกำไรตาม ที่แขนตัววี อยู่บนแกนเอ็กแน่นอน

                 ส่วนการขาดทุนก็เพียงอย่าให้ ดัชนีอยู่ที่ก้นตัววีใต้เส้นแกนเอ็ก เท่านั้น

               ดังนั้นผู้เล่นที่เรียนมาแบบนี้ ก็จะเดินเจ้าสู่กระดานออปชั่น แล้วตั้งราคาซื้อ ทั้ง คอลและพุท ข้างละสัญญา  เมื่อได้แล้วก็ถือว่าปล่อยไปจนหมดอายุไม่ต้องดูแลก็ได้คอยดูแต่ว่า ดัชนีจะขึ้นแรงหรือลงแรงเท่านั้น

              แต่ ความจริงในตลาด ดัชนีมันอาจจะไม่เป็นไปแรงๆๆตามคิด ตอนใก้ลหมดอายุ ในช่วงกลางๆๆอาจจะแก่วงแรงดี

              ดังนั้น ถ้าเราเฝ้าดูบริหารบ้างก็น่าจะเกิด ประโยชน์สูงสุดกว่า เมื่อช่วงไหน กราฟเดย์ บอกว่ามาถึงสูงสุดหรือต่ำสุดของรอบตลาดตอนนั้นแล้ว

             หรือ ความจริงการกำไร  นั้นเกิดจาก ดัชนีต้องไปแรงข้างใดข้างหนึ่ง  แต่อีกข้าง ถ้าเจาะลงไปในพอร์ตจริงๆๆ อีกข้างที่ผิดทางจะต้องขาดทุน ดังนั้น ถ้าการแกว่งเกิด ขึ้นทั้งสองทางในระหว่างงวด

              การปิดข้างที่ทำกำไรได้ไปก่อน แล้วปล่อยให้ดัชนีสวิงกลับมากำไรอีกข้างหรือขาดทุนน้อยจนไม่ขาดทุน ยอดกำไรด้วยการบริหารแบบนี้ ย่อมจะให้ผลสูงกว่าการปล่อย ให้มีขาดทุนข้างหนึ่งแน่

              จากการเล่นจริงได้เห็นแบบนี้ จึงเกิด ประสพการณ์สอนว่า  ขั้นที่2  เมื่อมี สัญญาในพอร์ตแล้วต้องบริหารด้วยให้เกิด กำไรสูงสุด

                ประสพการณ์ อีกข้อ  คือในตำรา มิได้บอกว่า  ให้ซื้อทั้งสองข้างในวันเดียวกัน และ ข้างหนึ่งที่ซื้อจะต้องเป็นถูกทางของวันนั้น และผิดทางของดัชนีวันนั้นด้วย

                ราคาข้างใดข้างหนึ่งจะมากกว่าปกติ อีกข้างจะน้อยกว่าปกติ

                ถ้าเราใช้สมองเพิ่มว่า จริงแล้วทิศทางตลาดควรไปทางไหน เราก็พยายามหาสัญญาทางทิศทางที่ถูกต้องก่อน  แล้วบริหารถือไประยะหนึ่ง จนทิศทางจะกลับทิศ จึง เปิด อีกด่านหนึ่งเพื่อ ล๊อคกำไรไว้

               ประสพการณืนี้ได้จากการที่ มีสัญญาในงวดที่ไม่มีคนเล่น  เขตที่ไม่มีคนเล่น ( ITM ลึกๆๆ ราคาเยอะคนไม่อยากได้ใช้ทุนมาก) เมื่อกำไรแล้วปิดสถานะไม่ได้

              จึงต้องมาอ่านวิธีล๊อคสัญญา //ล๊อคสถานะ// ล๊อคกำไร// ( Hedging =ปลูกเห็ด ศัพท์ บัญญัตด้วยผู้เล่นออปชั่นรุ่นแรกๆๆ) มีสองวิธี อธิบายไว้เสียเลย

              เปิดสถานะ งวดเดียวกันหรืองวดอื่น ด้วย Short ของคอลออปชั่นหรือพุทออปชั่นเดียวกับที่มีสัญญา  เช่น

              มี Long Call มาก็ล๊อคด้วย Short Call

( ได้เงิน แต่ต้องวางมาร์จิ้นไว้ )

             2 เปิดสถานะงวดเดียวกันหรืองวดอื่นด้วย Long ของคอลหรือพุท ตรงข้ามกับที่มี เช่น

              มี Long Call ก็เปิด ล๊อดด้วย Long Put

( เสียเงินเพิ่มขึ้นซื้อสัญญา )

              ข้อสองนี่เองที่เมื่อเขียน  กราฟออปชั่นแล้วมาตรงกับ   กลยุทธ Long Straddle (เมื่อเลขสไตร์ไพร์ตรงกัน หรือ Long Strangle (เมื่อเลขสไตร์ไพร์ไม่ตรงกัน)

            และประสพการณ์ข้อ 2 นี่เองทำให้เห็นกราฟ กลยุทธ  ออปชั่นที่ไม่ขาดทุนก็มีด้วย

          ผมเลยตั้งชื่อกลยุทธนี้ว่า " สัญญาอมตะ "

        บทสรุป การบริหารพอร์ต จึงเกิด เป็นตำรา ที่เกิด จากประสพการณ์ล้วนๆๆว่าเล่นแบบเราเพื่อให้เกิด กำไรสูงสุด เราต้องประยุกต์ตำราฝรั่งอีกที

 อ่านบทนี้แล้ว ถ้าใครคิดว่าไม่เข้าใจให้ถาม การอธิบายด้วยภาพหรือท่านไปทดลองเล่นเองก่อนจะเชื่อ ได้ว่าทำได้จริงไหม เป็นไปได้ไหม

        ใครมีประสพการณ์แบบนี้แล้วก็บอก มาด้วย ยืนยันให้สมาชิกที่เพิ่งเริ่มได้มั่นใจ ว่าออปชั่น ใช้สมองและสนุก คุ้มค่าเหนื่อย

Create Date : 29 เมษายน 2555
Last Update : 29 เมษายน 2555 6:39:14 น.		12 comments
Counter : 2063 Pageviews.
Share Tweet