แอบปลื้มมานาน ดีไซเนอร์สำหรับผู้หญิงอย่างแท้จริง Coco Chanel และผู้อยู่เบื้องหลังในปัจจุบัน Karl Lagerfeld
วันนี้วันสุดท้ายของงานแฟชั่นวีคที่มิลาน อิตาลี ค่ะ โบกมือบ๊ายบายสำหรับปีนี้ และหลังจากนี้เขาจะไปจัดงานต่อกันส่งท้ายฤดูกาลที่ Paris ฝรั่งเศส ปารีสแฟชั่นวีค ผู้เขียนเลยขอปิดฉากด้วยการ นำแบรนด์อมตะที่ทุกคนรู้จักกัน Chanel มาส่งท้ายนะคะ ก่อนอื่น ทักทายกันตามประสาสำหรับผู้ที่มาเยือนเป็นครั้งแรก หากท่านต้องการอ่านภาคย้อนหลัง สามารถคลิกได้ตามลิงค์ดังนี้ค่ะคลิกที่นี่ ภาคหนึ่ง งาน Vogue Fashion Night Out Milan, Italy คลิกที่นี่ ภาคสอง รู้จักกับแบรนด์ Gucci และเรื่องราวสอนใจ คลิกที่นี่ ภาคสาม รู้จักกับแบรนด์ Prada และแบรนด์ในเครือญาติ Miu Miu คลิกที่นี่ ภาคสี่ แบรนด์ดังจากสองหนุ่มเมืองมิลาน Dolce&Gabbana และแบรนด์ในเครือ D&G คลิกที่นี่ ภาคห้า ดีไซเนอร์อัจฉริยะ Giorgio Armani และแบรนด์ในเครือ Armani เริ่มกันที่ประวัติของดีไซเนอร์ผู้ให้กำเนิดกันก่อนนะคะ Coco Chanel จริงๆ แล้วชื่อเดิมของเธอคือ Gabrielle Bonheur Chanel (กาเบรียล บอนเนอร์ ชาเนล) เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม คศ.1883 ในประเทศฝรั่งเศส ครอบครัวมีฐานะค่อนข้างยากจน พี่น้องรวมกัน 5 คน เมื่อเธออายุได้ 12 ปี คุณแม่ก็เสียชีวิตด้วยวัณโรค คุณพ่อตัดสินใจละทิ้งครอบครัวไป ทำให้เธอและพี่น้องทั้งหมดถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์คาธอลิก ที่นั่นเองพวกแม่ชีได้สอนให้เธอได้เรียนรู้การเย็บบัก ถักร้อย เธอจึงเริ่มชอบและพัฒนาฝีมือขึ้นมา บางซัมเมอร์ญาติๆ ก็มารับตัวเธอไปพักผ่อนด้วยกัน และสอนเธอให้เย็บเสื้อผ้าดีดูหรูหรากว่าคนทั่วไป กาเบรียลคิดอยู่ตลอดเวลาถึงชีวิตที่หรูหรา สวยงาม เธอลำบากมาตลอดชีวิต อันนี้ต้องเข้าใจนะคะ เมื่อครบอายุ 18 ปี เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปเผชิญโลกภายนอก สถานที่ที่อลังการมีแต่ผู้หญิงสวยๆ สมัยนั้นคือ เวทีโชว์ Moulins (มูแลง) เธอใฝ่ฝันและทำทุกอย่างที่จะเข้าไปเป็นนักแสดง ร้องเพลง เต้นรำ ในที่สุดเธอก็เป็นหนึ่งในนักร้อง นักแสดง เป็นที่รู้จักกันในนาม Coco ซึ่งมาจากชื่อเพลงที่เธอชอบร้องโชว์ แต่ฝืมือการร้องเพลงของเธอนั้นไม่ถึงขั้น บางครั้งก็ได้งาน บางครั้งก็ไม่ได้งาน เรียกว่าสู้คนอื่นไม่ได้เท่าไหร่ ตกระหกระเหินในการทำงานอย่างมาก แต่ต่อมาเธอได้รู้จักกับทายาทเศรษฐีหนุ่มที่เป็นขาประจำ ชื่อ Étienne Balsan (เอเตียง บัลซาน) หนุ่มคนนี้หลงรักเธออย่างมากเลยค่ะ เอาของขวัญแพงๆ หรูหรามาให้มากมาย เพชรพลอย สร้อยแหวน ฯลฯ เรียกว่าทำให้สถานะการเงินของเธอเปลี่ยนไปอย่างเฉียบพลัน กลายเป็นสาวไฮไซขึ้นมาทันที ขณะเดียวกันเธอก็ยังแอบเย็บปักถักร้อย ทำหมวกสวยๆ เสื้อผ้าเก๋ๆ เป็นงานอดิเรก แต่ความสัมพันธ์ก็จบลงในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามชะตาชีวิตของเธอได้เจอกับคนรวยๆ เสมอ ในที่สุดเธอก็มาเจอะกับหนุ่มสังคมชื่อดังชาวอังกฤษ Arthur Edward Capel หรือ BOY (ชื่อเล่นของหนุ่มคนนี้) ความสัมพันธ์นั้นเป็นไปแบบลับๆ ค่ะ เพราะชายหนุ่มมีคู่หมั้นอยู่แล้ว สาว Coco จึงอยู่ในสถานะกล้ำกลืน เขาคนนี้เป็นคนให้เงินลงทุนในการเปิดร้านขายเสื้อผ้า ทำเริ่มทำกิจการในวงการแฟชั่น คนเริ่มกล่าวขานกันเรื่อยๆ เพราะการออกแบบของเธอนั้นไม่ซ้ำใคร ไม่เป็นแบบในยุคนั้น ดีไซน์สำหรับสาวสมัยใหม่ ใส่สบาย ไม่ซ้ำใคร กระโปรงไม่บานเทอะทะ เรียกว่าสร้างชื่อให้กับเธอมากมายทีเดียว ต่อมาในปี คศ. 1919 เธอได้จดทะเบียนเปิดร้านทำและขายเสื้อผ้าอย่างเป็นทางการ Maison de Couture ที่อยู่คือ 31 rue Cambon ปารีส มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากหน้าหลายตาเข้ามาแวะเวียน และเป็นลูกค้าประจำ สถานะของ Coco Chanel กลายเป็นช่างเสื้อสำหรับสังคมไฮไซขึ้นมาทันที มีเรื่องราวแปลผันคือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอตัดสินใจปิดร้านลง เพราะไม่อยากเสี่ยงความเสียหาย และย้ายมาอยู่ที่ โรงแรม Hôtel Ritz Paris ที่นั่นเธอใช้เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งที่ทำงาน และยังคงทำต่อไปในเรื่องการทำเสื้อผ้า เธออยู่ที่โรงแรม Ritz หลายปีเลยล่ะค่ะ มีเรื่องเล่ากันหนาหูว่าเธอมีความสัมพันธ์ลับๆ กับฝ่ายทหารนาซี เยอรมันหลายคน ทำให้เป็นที่ชิงชังสำหรับชาวฝรั่งเศสมาก สินค้าของเธอเริ่มไม่เป็นที่ยอมรับ แต่กลับไปโด่งดังในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาในช่วงนั้น ตลอดเวลาในการทำงานนั้น Coco Chanel เป็นผู้หญิงที่มีข่าวมากมายกับชายหนุ่ม ร่ำรวย มีชื่อเสียงทางสังคมหลายคน พวกเขามาหลงรักเธอกัน และเธอก็ชอบในความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืน หนุ่มๆ ทั้งหลาย เช่น Duke of Westminster หนึ่งในราชวงศ์อังกฤษ หรือ Igor Stravinsky นักแต่งเพลงชื่อดังสมัยนั้น ฯลฯ เรียกว่าเรื่องราวความรักของเธอนั้น เป็นอะไรที่น่าพิศวงให้กับเราๆ ท่านๆ อย่างมาก พูดง่ายๆ ว่าเธอชอบมีแฟนเยอะ แต่ไม่อยากแต่งงานกับใคร อืมมมมม......... (เรื่องนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ดิฉันไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่ในเรื่อง Life Style ของเธอ แต่อดชื่นชมไม่ได้ในความอัจฉริยะ ความสามารถในตัวเธอในเรื่องการดีไซน์เสื้อผ้า) ในปี คศ. 1921 น้ำหอมชื่อดัง No.5 ได้ถูกผลิตขึ้นจากกลิ่นดอกไม้ 128 ชนิด น้ำหอมนี้ Marilyn Monroe ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า เธอใช้ทาวันละหยดทุกคืนก่อนเข้านอน เรียกว่าเป็นที่ฮือฮากันไม่น้อยในสมัยนั้น และสร้างชื่อให้กับ Coco Chanel มากมายทีเดียว ในปี คศ. 1945 เธอตัดสินใจวางมือเรื่องการดีไซน์ ย้ายไปพำนักอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี คศ. 1954 เธอย้ายกลับมาฝรั่งเศส คืนสู่วงการแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่บอกว่า เมื่อเห็นการดีไซน์ของ Christian Dior แล้ว เธอทนไม่ไหว (เพราะดีไซน์ไม่สวยงามสำหรับคุณสาวๆ) เลยต้องกลับมาจัดการสร้างสิ่งดีๆ เสื้อผ้าสวยๆ ให้วงการแฟชั่น เล่นเอาคุณ Christian Dior หน้าหงายไปเลยค่ะ เจอคำพูดของ Coco Chanel แบบนี้ ในปี คศ. 1971 Coco Chanel เสียชีวิตลงที่โรงแรม Ritz ปารีส ฝรั่งเศส วันที่ 10 มกราคม คศ.1971 เธอยังทำงาน ออกแบบเสื้อผ้าอยู่จนวินาทีสุดท้าย เมื่อเธอเสียชีวิตผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการเป็นนักลงทุนฝรั่งเศส Jacques Wetheimer แต่เธอไม่ค่อยให้ความสำคัญในการพัฒนาแบรนด์เท่าไหร่ ผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าจริงๆ คือลูกชายชื่อ Alain Wertheimer เขาคนนี้ล่ะค่ะ ที่ทำให้ Chanel มาเป็นแบรนด์โด่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้จ้างนักออกแบบใหม่ เปลี่ยนโครงการขาย การตลาด ยกระดับชื่อแบรนด์ให้สูงขึ้น และนำดีไซเนอร์คนดังเข้ามาทำงานคือ Karl Lagerfeld ผลงานของเธอเป็นที่ยอมรับกันอย่างหลากหลาย ทั้งในยุโรปและทั่วโลก คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินแบรนด์นี้นะคะ Chanel อยากพามาแนะนำดีไซเนอร์หลักคนสำคัญของแบรนด์ Chanel ในปัจจุบัน เขาคือ Karl Lagerfeld Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) เป็นชาวเยอรมัน เกิดในเมือง Hamburg ในปี คศ. 1953 เธอย้ายมาอยู่เมืองปารีส ฝรั่งเศส และเริ่มทำงานในวงการแฟชั่น เป็นผู้ช่วย ฝึกหัดในร้านบูติก เริ่มพัฒนาในเรื่องการออกแบบเครื่องแต่งกายสตรี หมวก เครื่องประดับ ฯลฯ เคยทำงานให้กับดีไซเนอร์ชื่อดังเช่น Balmain และ Patou ในอดีต ปี คศ. 1955 ชนะได้อันดับที่ 2 ในเรื่องการออกแบบเครื่องแต่งกาย ซึ่งงานนี้ผู้ชนะอันดับ 1 คือ Yves Saint Laurent (อีฟ แซง โรลอง) เธอทำงานในด้านแฟชั่นเรื่อยมาจนเป็นที่ยอมรับมากขึ้น และในที่สุดก็ได้มาเป็น ดีไซเนอร์หลักของ Chanel ในปี คศ. 1983 นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์อิตาเลียน Fendi อีกด้วย ในปี คศ. 2006 เธอเปิดตัวแบรนด์ใช้ชื่อตัวเอง Karl Lagerfeld แต่ยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังเป็นดีไซเนอร์คนหลักให้กับ Chanel และ Fendi จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นผลงานการออกแบบต่างๆ ของ Chanel ที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ ก็มาจากคนๆ นี้ค่ะ Karl Lagerfeld มาดูภาพกันนะคะ (ภาพด้านบน) ร้าน Chanel ในกรุงปารีส Rue Cambon ประเทศฝรั่งเศส ภาพนี้ผู้เขียนถ่ายไว้จากปีที่แล้วค่ะ เมื่อตอนมีโอกาสได้ไปเที่ยว เมื่อเดินผ่านหน้าร้านก็ขอถ่ายเป็นที่ระลึกเสียหน่อย ไม่ได้เข้าไปหรอกค่ะ หน้าร้านแบบเรียบๆ แต่ดูหรู ยังคงมีสไตล์แบบต้นฉบับไว้จริงๆ (ภาพด้านบน) ป้ายโฆษณาในมิลาน อิตาลีค่ะ เก่าหน่อย ถ่ายไว้เมื่อปี 2007 ตอนนี้ไม่มีแล้ว เผอิญได้ไปเจอในกรุเก่ายังเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์เลยขอมาลงให้ดูกันหน่อยนะคะ (ภาพด้านบน) หนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติของ Gabrielle Bonheur Chanel หรือ เป็นที่รูจักกันในนาม Coco Chanel เล่มนี้ใหญ่ค่ะ เป็นภาษาอังกฤษ มีเรื่องให้เล่ายาวเหยียดมาก เอามาเขียนไม่หมด เดี๋ยวได้เป็นหนังสืออีกแล้วนึงกันเลยทีเดียว อิอิอิ เอาเป็นว่าผู้เขียนอ่านแล้วสนุก ได้อะไรดีๆ ข้อคิดเยอะ ไม่ทราบว่ามีเป็นภาษาไทยหรือยัง อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ ถ้าใครทราบช่วยแจ้งมาด้วยค่ะ ขอบคุณมาก (ภาพด้านบน) น้ำหอม No.5 จาก Chanel ชื่อเสียงนี่เป็นที่กล่าวขานกันมานาน ตั้งแต่รุ่นคุณแม่ยังสาว มาถึงรุ่นพวกเราก็ยังดังไม่เลิกนะคะ ใครที่คิดอยากหาน้ำหอมขวดใหม่ กลิ่นงามๆ ไม่มากไม่น้อย มีความหอมหวานเย้ายวนใจ ขวดนี้รับรองไม่ผิดหวังค่ะ มีโอกาสเป็นเจ้าของกับเขาด้วยคน ผู้เขียนไม่ค่อยได้ใช้บ่อยหรอกนะคะ แต่ปลื้มเก็บไว้ใช้ถ้าต้องออกงานสังคมบ้าง ลวดลายขวดเป็นแบบเรียบ คลาสสิค ดูเป็นอมตะเหนือกาลเวลาจริงๆ ค่ะ (ภาพด้านบน) Karl Lagerfeld ผมขาว ยาว สวมแว่นกันแดดสีดำประจำ นี่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเขาล่ะค่ะ ไม่เคยมีโอกาสเจอตัวจริง แต่ได้ข่าวว่าเธอมามิลานบ้าง เรื่องทำงานดีไซน์ให้แบรนด์อิตาเลียน Fendi รูปนี้ถ่ายจากในนิตยสารแฟชั่น อาจไม่ชัดเจนเท่าต้นฉบับนะคะ (ภาพด้านบน) แฟชั่นโชว์จากฤดูกาลที่แล้ว Fall/Winter 2010 จาก Chanel และ Fendi หมายเหตุ - แจ้งกันอีกครั้งค่ะว่า ภาพนางแบบจากแฟชั่นโชว์ผู้เขียนไม่สามารถไปเอามาจาก Official Web Site ได้ เพราะจะผิดกฎกติกาเรื่องก้อปปี้ไรท์ จึงต้องถ่ายจากนิตยสารของผู้เขียนเอง กล้องและผู้ถ่ายคือผู้เขียน ดังนั้นสามารถนำมาลงให้ดูกันในบล็อกได้ อาจไม่ชัดเจนเหมือนต้นฉบับ ผู้อ่านคงไม่ว่ากันนะคะ บล็อกนี้ขอปิดฉากเรื่องแฟชั่นสำหรับปีนี้ไว้ก่อนค่ะ งานมิลานแฟชั่นวีคจบวันนี้แล้ว (วันอังคารที่ 28 กันยายน) ส่งท้ายกันด้วยแบรนด์ฝรั่งเศส Chanel เพราะหลังจากนี้เขาจะไปจัดต่อกัน งานปารีสแฟชั่นวีคที่ฝรั่งเศส ผู้เขียนไม่สันทัดค่ะ เพราะไม่มีข้อมูลวงในของเวทีแฟชั่นฝรั่งเศสเท่าไหร่ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ สาวชาวอิตาเลี่ยนทางนี้ที่คอยให้ข้อมูลวงในเรื่องงานแฟชั่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงได้มีข้อมูลเด็ดๆ มาฝากกันนะคะ หมายเหตุ ถ้ามีชาวบล็อกแกงค์ที่อยู่ฝรั่งเศสอยากเขียนบล็อกงานปารีสแฟชั่นวีค จะขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆ ค่ะ มีใครรึป่าววววววว (กำลังตะโกนข้ามแดนจากมิลาน ไปปารีส คริคริคริคริ) เพราะอยากอ่านนะคะ เราคุณผู้หญิงด้วยกัน อ่านก็สนุกดี ถือเป็นความรู้ ได้ทั้งสาระบันเทิง จะยินดีอย่างยิ่งค่ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทาย แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ
Create Date : 28 กันยายน 2553
Last Update : 30 กันยายน 2553 17:19:17 น.
35 comments
Counter : 17904 Pageviews.
โดย: aArMel วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:19:17:09 น.
โดย: Suessapple วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:19:37:19 น.
โดย: Suessapple วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:19:46:07 น.
โดย: iamorange วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:20:19:56 น.
โดย: apple.007 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:20:25:59 น.
โดย: Suessapple วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:20:32:31 น.
โดย: anigia วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:20:41:21 น.
โดย: Tristy วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:22:00:32 น.
โดย: Suessapple วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:0:34:36 น.
โดย: pumorg วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:2:34:52 น.
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:3:15:06 น.
โดย: anigia วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:3:28:33 น.
โดย: diamondsky วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:3:43:57 น.
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:4:26:12 น.
โดย: Tristy วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:7:44:11 น.
โดย: โตเหมี่ยว วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:8:14:01 น.
โดย: pinkypunch วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:8:58:54 น.
โดย: radiergummi วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:10:26:57 น.
โดย: MeMoM วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:10:42:08 น.
โดย: settembre วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:16:21:12 น.
โดย: Thairabian วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:16:51:24 น.
โดย: Panino วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:17:34:15 น.
โดย: sawkitty วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:17:47:49 น.
โดย: anigia วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:21:52:14 น.
โดย: anigia วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:3:23:48 น.
โดย: JewNid วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:9:00:52 น.
โดย: iamorange วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:12:07:58 น.
Location :
Milan Italy
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [? ]
สวัสดีค่ะชาวบล็อกแกงค์ทั้งหลาย ขอแนะนำตัวนิดนึงค่ะ ชื่อ "เอิง" เป็นผู้หญิงธรรมดา สบายๆ อารมณ์ดี ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตที่ประเทศอิตาลี บล็อคนี้เขียนเพื่อต้องการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตสนุกๆ ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ช้อปปิ้ง ทำอาหาร ฯลฯ ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว Bloggang ขอบคุณที่แวะมาทักทาย คอมเมนต์กันได้นะคะ Instagram: diamondsky11*All Rights Reserved* สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย พรบ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 *ขอบคุณมากค่ะ* สำหรับกำลังใจจากพี่ๆ น้องๆ ชาวบล็อกแกงค์ Bloggang Popular Award #6 และ #8 กับรางวัล Best Klaibaan Blog