|
เดินเล่น ช้อปปิ้งกันต่อในมิลาน พร้อมเรื่องราวอุทาหรณ์สอนใจจากครอบครัว Gucci
ภาคแรกของเรื่องแฟชั่น ดิฉันพาพี่น้องชาวบล็อกแกงค์ไปเดินเล่นกันในงาน Vogue Fashion Night Out เมืองมิลาน เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา อ่านกันก่อนได้ที่นี่ค่ะ คลิกที่นี่ ภาคหนึ่ง งาน Vogue Fashion Night Out Milan, Italy
Gucci แบรนด์ดังต้นกำเนิดจากอิตาลี
วันนี้ต่อกันภาคสองค่ะ เกริ่นเรื่องครอบครัว Gucci ไปนิดหน่อย บล็อกนี้จะได้คุยกันเต็มๆ เริ่มที่ประวัติของตระกูล ผู้นำรุ่นแรกคือ กุชโช่ กุชชี่ Guccio Gucci เริ่มก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นในปี 1921 จากเมืองฟรอเรนซ์ อิตาลี สินค้ารุ่นแรกๆ คือ กระเป๋า เน้นคุณภาพ ดีไซน์ ขายเฉพาะแต่ในประเทศ ต่อมาตระกูลรุ่นที่สองคือลูกชาย ชื่อ อัลโด Aldoและ โรดอลโฟ Rodolfo รับช่วงต่อ เริ่มพัฒนาโดยขยายสาขาไปในต่างประเทศ ช่วงปี 1960 เริ่มเป็นที่ยอมรับอย่างมากในนิวยอร์ค โตเกียว ฮ่องกง ฯลฯ ความโด่งดังมาพร้อมกับรายได้มหาศาล ทำให้สถานะของตระกูลนี้ร่ำรวยระดับแถวหน้าของอิตาลี แต่ปัญหาคือ อัลโดกับโรดอลโฟซึ่งเป็นพี่น้องกันเริ่มทะเลาะกันบ่อยมาก มีหลายครั้งที่มีการขว้างของใส่กันตอนประชุมบอร์ดของบริษัท ขึ้นเสียงและถึงขนาดชกต่อยกันก็บ่อยครั้ง เป็นข่าวซุบซิบทางหน้าหนังสือพิมพ์ไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องเลวร้ายถึงขนาดแย่งผลประโยชน์กันในบริษัท รายได้ และผลกำไร กลายเป็นเรื่องใหญ่ค่ะงานนี้เพราะมีผลกระทบในเรื่องการบริหารส่วนรวมด้วย ในช่วงปี 1960-1970 ยี่ห้อ Gucci กำลังเป็นที่นิยม ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลก แต่พอมาถึงช่วง 1980 แบรนด์เริ่มเสื่อมถอย กลายเป็นแบรนด์ถูกๆ ในร้านดิวตี้ฟรีที่สนามบิน และยิ่งแย่ไปกว่านั้น เปาโล Paolo ลูกชายของอัลโดถูกตัดชื่อออกจากบริษัทเพราะดันไปเสนอเรื่องขยายแบรนด์สินค้าราคาถูก ใช้ชื่อ Gucci Plus (แต่ไม่ผ่าน โดนพ่ออัลโดไล่ออกซะก่อน) ต่อมาลูกชายเปาโล แค้นพ่อตัวเอง ไปให้ความกับศาลเรื่องพ่ออัลโดโกงภาษี ท้ายสุดอัลโดโดนตัดสินจำคุกโทษฐานปลอมแปลงเอกสารเรื่องภาษีบริษัท (ซวยจริงๆ ค่ะ มีลูกทรพีอย่างนี้) อยู่เรือนจำไปหลายปี ส่วนคู่แค้นน้องชายของอัลโดคือโรดอลโฟ ต่อมาเสียชีวิต ลูกชายของโรดอลโฟชื่อ เมาริซิโอ้ Maurizio รับช่วงต่อ คราวนี้ก็เหลือ เมาริซิโอ้ (รุ่นที่สามของตระกูล) รับช่วงต่อ เมาริซิโอ้เดินทางไปนิวยอร์คบ่อยเพื่อเจรจาการค้า ปัญหาคือเขาไม่เก่งพอในด้านบริหาร พอรับงานมาก็ทำไม่ไหว ตามเรื่องธุรกิจไม่ทัน คนจะเป็น CEO ต้องมีวิสัยทรรศ คิดการไกล และฉลาดเป็นกรด ซึ่งไม่ใช่ตัวตนของเมาริซิโอ้เลย บริษัท Gucci เริ่มแย่หนัก หนี้เพิ่มขึ้นจนถึงขึ้นใกล้ล้มละลาย สถานภาพบริษัทสาหัสจริงๆ พวกบอร์ดก็เลยบังคับให้ เมาริซิโอ้ ซึ่งเป็นตัวแทนจาก Gucci คนเดียวที่เหลืออยู่ขายหุ้นเสีย แล้วก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำบริษัท ไม่งั้นไปไม่รอด เมาริซิโอ้ กุชชี่คนสุดท้ายก็ต้องออก ตอนนี้ไม่เหลือคนตระกูลนี้แล้วค่ะ ยังไม่จบนะคะ เมาริซิโอ้มีภรรยาชื่อ แพทริเซีย เรจจานี่ Patrizia Reggiani เธอเป็นสาวไฮไซ หรูเริ่ดสุดชีวิต เป็นที่เม้าท์กันว่าเธออยู่เบื้องหลังการตัดสินใจหลายๆ อย่างของสามี เป็นพวกจอมบงการ แต่ต่อมาเมาริซิโอ้ขอหย่าภรรยาเพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว สุดท้ายก็หย่ากัน เมื่อเมาริซิโอ้ก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำกุชชี่แล้ว ทำให้สถานะทางสังคมของอดีตภรรยา และรายได้ลดต่ำลง (ในประเทศอิตาลีเมื่อสามีหย่าภรรยา ต้องมีการเสียค่าเลี้ยงดูตามเงินรายได้ เมื่อรายได้ลดลง ก็ต้องเสียค่าเลี้ยงดูลดลงไปด้วย) งานนี้แพทริเซียเสียชื่อ เสียรายได้ตามไปด้วย เมาริซิโอ้ ถูกยิงเสียชีวิตในปี 1995 และมีการสืบสวนสอบสวนจนในที่สุดก็ตามถึงผู้วานจ้าง ไม่ใช่ใครที่ไหน อดีตภรรยาแพทริเซียนั่นเอง ปัจจุบันเธออยู่ในเรือนจำเมืองมิลาน ตอนนี้ก็ยังอยู่ค่ะ และจะต้องอยู่อีกหลายปี เธอเคยพยายามฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอ แต่ได้ถูกช่วยเหลือไว้ก่อน
ปัจจุบันบริษัทฝรั่งเศสชื่อ Pinault-Printemps-Redoute (PPR) เข้ามาซื้อหุ้นที่เหลือ เป็นเจ้าของเต็มตัว จ้าง CEO ใหม่ ดีไซเนอร์ใหม่ แต่งตั้งการบริหารกอบกู้ชื่อแบรนด์ให้ดังมาเหมือนเก่า ซึ่งทำได้ดีมากๆ จ้าง Tom Ford มาเป็นดีไซเนอร์อยู่ช่วงหนึ่ง ทำให้แบรนด์กลับมาดังระเบิดเถิดเทิง ปัจจุบันครีเอทีฟดีไซเนอร์ชื่อ Frida Giannini เป็นคนดูแลเรื่องแฟชั่นทั้งหมด พวกเสื้อผ้า สินค้าต่างๆ ที่เราเห็นๆ กันในปัจจุบันอยู่ภายใต้การออกแบบของคุณฟรีด้านี่แหละค่ะ มีการออกแบบแสดงแฟชั่นโชว์ Gucci ทุกปีในมิลาน ปีนี้คือวันที่ 22-28 กันยายน (Spring 2011) ตอนนี้ดราม่าทุกอย่างจบแล้วค่ะ (เพราะไม่เหลือคนตระกูลกุชชี่ในบริษัท) มาเป็นบริษัทธุรกิจเต็มรูปแบบ แต่ยังคงมีดีไซน์ที่เริ่ดหรู และสินค้าคุณภาพดีมาฝากเราทั้งหลายกัน
อยากให้เรื่องราวนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้กับพี่ๆ น้องๆ ชาวบล็อกแกงค์ไม่มากไม่น้อย จงภูมิใจไว้เถอะค่ะ แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคนร่ำรวย มีสตางค์ แต่ถ้าเรารักครอบครัว เป็นผู้ให้และรู้จักเสียสละ ชีวิตเรานั้นก็มีความสุขกว่าตระกูลนี้เยอะ เงินไม่ได้เป็นคำตอบให้กับทุกสิ่งนะคะ แม้มีเงินก็ดี มีมากก็ไม่เห็นเป็นไร แต่รู้จักใช้รู้จักเก็บ รักพี่น้องไม่แก่งแย่งชิงดีหวังผลประโยชน์ เราก็มีความสุขในแบบของเราได้
มาดูภาพกันต่อนะคะ บรรยากาศรอบๆ ในเมืองมิลาน อิตาลี
(ภาพด้านบน) ลานดูโอโม ที่ตั้งของโบสถ์ดูโอโม รอบๆ เต็มไปด้วยถนนคนเดิน สถานที่ช้อปปิ้งสำคัญทั้งหลาย
(ภาพด้านบน) ร้านค้าใหญ่ของเมืองนี้ La Rinascente มีสินค้าจากแบรนด์ดังๆ มากมาย ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับลานดูโมโอ
(ภาพด้านบน) บรรยากาศถนนคนเดินช้อปปิ้ง ช่วงซัมเมอร์เซลล์ ร้านต่างๆ ลดราคากันกระหน่ำ ช้อปสนุกค่ะ
(ภาพด้านบน) ถนนช้อปปิ้งชื่อดัง Corso Vittorio Emmanuele ใครแวะมาเมืองมิลานก็ต้องผ่านมาทางนี้นะคะ
(ภาพด้านบน) แบรนด์ดังอีกชื่อหนึ่ง Versace จากมิลาน อิตาลี สไตล์สาวเปรี้ยว (จี๊ดๆๆๆ)
(ภาพด้านบน) แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องรองเท้า Sergio Rossi เน้นแนวคุณผู้หญิงสมัยใหม่ และสไตล์ออกงานกลางคืน สวยเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครเลยค่ะ
(ภาพด้านบน) ถนนช้อปปิ้ง Via Montenapoleone มีเฉพาะแบรนด์ของดีไซเนอร์ดังๆ ตอนนี้กำลังเตรียมงานแฟชั่นวีคที่จะมาถึงกันอยู่ คึกคัก คักคึก น่าสนใจมากๆ ค่ะ
(ภาพด้านบน) แบรนด์เน้นสไตล์ภูมิฐาน ผู้ใหญ่ชอบ Salvatore Ferragamo พวกกระเป๋า รองเท้า ดูดี คลาสสิกมากๆ
(ภาพด้านบน) โชว์รูมหน้าร้าน Prada แบรนด์ดังต้นกำเนิดจากเมืองมิลาน อิตาลี
(ภาพด้านบน) ตัวอาคารของมหาวิทลัยเมืองมิลาน State University of Milano
(ภาพด้านบน) สวนสวยในเมืองมิลาน Giardini della Guastalla
(ภาพด้านบน) ศาลยุติธรรมตั้งอยู่ในตัวเมือง Palace of Justice, Via San Barnaba
(ภาพด้านบน) บริเวณที่ตั้งสวนพักผ่อนหย่อนใจอีกที่หนึ่งในตัวเมือง Rotonda di Via Besana มีอาคารด้านใน ใช้เป็นสถานที่โชว์ศิลปะต่างๆ
(ภาพด้านบน) อนุสรณ์สถานที่ระลึกในช่วงสงครามกลางเมือง Porta Vittoria, Piazza V Giornate
(ภาพด้านบน) ปราสาท Castello Sforzesco ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโบสถ์ดูโอโม อยู่ในตัวเมืองเช่นกัน
(ภาพด้านบน) โบสถ์ดูโอโม สถานที่สำคัญ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ ใครผ่านไปมาก็ต้องมาแวะถ่ายรูปกันก่อนนะคะ
(ภาพด้านบน) บรรยากาศภายในอาคารแกเลอเรีย เป็นที่ตั้งร้านค้าสำคัญๆ มีร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญอีกที่หนึ่ง
(ภาพด้านบน) ประตูด้านหน้าของแกเลอเรีย มีรายละเอียดแกะสลักที่สวยงาม ขนาดใหญ่ และเป็นจุดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอีกที่หนึ่ง
(ภาพด้านบน) เจ้าของบล็อก(เอิง) ขอแว้บมาแสดงหน้านิดดดดนึงค่ะ แว่นกันแดดอันนี้ใช้มาหลายปีดีดัก เกือบๆ 5 ปีเห็นจะได้ ของ Gucci ตอนซื้อเสียดายตังค์(มากๆๆ) แต่ด้วยความอยากก็เลยแพ้ภัยตัวเอง ปรากฏว่าใช้ดีมาก ทำหล่นหลายครั้ง สภาพยังดีทุกอย่าง คุ้มค่าจริงๆ ตอนนี้ไม่เสียดายแล้วค่ะ ใส่ไว้ในกระเป๋าตลอดเป็นแว่นตาคู่กาย ดีไซน์เก๋(อันนี้ชมเอง) ขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมานะคะ
ตอนนี้มิลานอากาศกำลังดี ไม่ร้อน ไม่หนาว เตรียมต้อนรับงานแฟชั่นวีคที่จะถึงนี้ 22-28 กันยายน บรรยากาศกำลังคึกคักที่เดียวค่ะ พวกดีไซเนอร์ทั้งหลายกำลังตระเตรียมงานกันสุดชีวิต คอยติดตามข่าวกันว่าปีนี้แฟชั่นแบบไหนจะมาแรง ยู้ฮู้
ปล. วันนี้ท่านแสดงความรักให้กับพี่น้องของท่านรึยังเอ่ย กอดซักนิด ทำอาหารให้ทานซักหน่อย ฯลฯ ผู้เขียนหวังว่าท่านคงให้เรื่องราวของครอบครัว Gucci เป็นอุทาหรณ์สอนใจ ใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะคะ รักกันไว้เถิด ชีวิตนี้สั้นนักค่ะ ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาทักทาย แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ
Create Date : 12 กันยายน 2553 |
Last Update : 30 กันยายน 2553 17:18:41 น. |
|
42 comments
|
Counter : 6207 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พี่อันดา (ทบทวน ) วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:17:23:40 น. |
|
|
|
โดย: beuysliv วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:17:33:03 น. |
|
|
|
โดย: settembre วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:17:41:31 น. |
|
|
|
โดย: apple.007 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:18:53:56 น. |
|
|
|
โดย: LadyChicky วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:11:31 น. |
|
|
|
โดย: pim(พิม) วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:19:23:09 น. |
|
|
|
โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:20:57:04 น. |
|
|
|
โดย: เมต (SingleMate ) วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:21:32:06 น. |
|
|
|
โดย: jeab114 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:21:35:01 น. |
|
|
|
โดย: kanyong1 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:23:10:04 น. |
|
|
|
โดย: Oathpp วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:23:23:28 น. |
|
|
|
โดย: LadyChicky วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:23:58:16 น. |
|
|
|
โดย: ก้อนหิน (cator ) วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:0:14:48 น. |
|
|
|
โดย: Vizenza วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:7:47:12 น. |
|
|
|
โดย: pinkypunch วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:30:52 น. |
|
|
|
โดย: pikzy วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:57:56 น. |
|
|
|
โดย: the mynas วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:36:42 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:13:10:02 น. |
|
|
|
โดย: แม่ยูอะ วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:13:39:07 น. |
|
|
|
โดย: kung nz วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:14:30:13 น. |
|
|
|
โดย: ชมชล วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:16:56:35 น. |
|
|
|
โดย: anigia วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:1:58:05 น. |
|
|
|
โดย: ostojska วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:4:03:28 น. |
|
|
|
โดย: Tristy วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:7:48:54 น. |
|
|
|
โดย: dolores วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:11:21:28 น. |
|
|
|
โดย: Sugar lip วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:11:55:47 น. |
|
|
|
โดย: หน่อย (โตเหมี่ยว ) วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:13:15:11 น. |
|
|
|
โดย: ชามินต์ (ชามินต์ ) วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:15:06:58 น. |
|
|
|
โดย: MollyJinx วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:15:16:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Milan Italy
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]
|
สวัสดีค่ะชาวบล็อกแกงค์ทั้งหลาย ขอแนะนำตัวนิดนึงค่ะ ชื่อ "เอิง" เป็นผู้หญิงธรรมดา สบายๆ อารมณ์ดี ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตที่ประเทศอิตาลี บล็อคนี้เขียนเพื่อต้องการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตสนุกๆ ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ช้อปปิ้ง ทำอาหาร ฯลฯ ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว Bloggang ขอบคุณที่แวะมาทักทาย คอมเมนต์กันได้นะคะ
Instagram: diamondsky11
*All Rights Reserved* สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย พรบ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539
*ขอบคุณมากค่ะ* สำหรับกำลังใจจากพี่ๆ น้องๆ ชาวบล็อกแกงค์ Bloggang Popular Award #6 และ #8 กับรางวัล Best Klaibaan Blog
|
|
|
|
|
|
|
สินค้าดัง ๆ ทั้งนั้นเลย ท่าทางน่าจะแพงน่าดูนะคะ