กันยายน 2553

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
 
 
23 กันยายน 2553
Day1 @Bangkok-shanghai-Wuxi

สนามบิน-อู๋ซี

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2553

ภารกิจ : ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปอู๋ซี


มารอเช็คอินขึ้นเครื่องบิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่สามทุ่ม กลัวไม่ได้ไปจัด แต่กว่าจะเปิดให้เช็คอินก็ห้าทุ่ม

ห้าทุ่มครึ่ง เริ่มเคลื่อนไปด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อออกนอกประเทศ
ต้องกรอกใบ ตม. ตรงขาออกให้เจ้าหน้าที่ด้วย

-ปล- ตอนที่มาสนามบิน ได้เจอขบวนดาราเกาหลีที่มาร่วมคอนเสริต์สัมพันธ์เกาหลี-ไทย
ตอนแรกตื่นเต้นเพราะนึกว่าจะได้เจอสาวตาน้ำตาล Brown eyes girls แต่ก็อด เพราะเค้ากลับไปก่อนแล้ว
ก็เลยได้เจอแต่นักร้องที่ไม่รู้จักอ่ะ

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2553

เที่ยงคืนสิบห้า-เดินไปรอที่หน้าเกท..อีหก

นั่งเล่นอินเตอร์เน็ตจากรหัสที่ขอมาจากประชาสัมพันธ์สนามบินได้ทีละ สิบห้านาที ซึ่งจะสามารถขอรหัสได้หลังจากที่ได้เข้ามาในส่วนที่รอของผู้โดยสารขาออกแล้วเท่านั้นนะ โดยแสดงพาสปอร์ตให้ดูด้วยนะเออ

 *ขอหน่อยเหอะ* ที่จริง สนามบินในประเทศไทยก็ค่อนข้างอินเตอร์กันพอสมควร แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องอินเตอร์เน็ตทำไมถึงยังไม่ใจกว้างสู้ ญี่ปุ่น หรือ เกาหลี ที่พอเข้าสนามบินปุ๊บ ก็เล่นเน็ตได้เร็วปั๊บ ยิ่งที่เกาหลีนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เร็ว แรง แบบว่ายังไม่ทันจะจิ้มปุ่มส่ง ..แม่เจ้า ไฟล์เป็นกิ๊กก็ส่งผ่านมือถือไปหาอีกคนหนึ่งแล้ว (อันนี้เว่อร์ไปหน่อย 5555 แต่จริง!!!)


กลับมาที่ชีวิตเราต่อดีกว่าเนอะ

 
ตีหนึ่งสิบ- รอเข้าแถวขึ้นเครื่อง MU548 ตื่นเต้น ๆ ๆ ๆ จะได้ไปจีนเองแล้วค่ะ

ตีหนึ่งห้าสิบสี่- เย้ ๆ ๆ เครื่องบินบินขึ้นแล้วค่ะ
ขึ้นมาได้สักพักพนักงานก็บริการอาหารว่างคือ บรรดา ขนมต่าง ๆ
เราไม่ได้กินค่ะ เก็บอย่างเดียว เพราะง่วงแก่แล้วอ่ะ  ฝันดีนะคะ

จีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง...ปรับนาฬิกาก่อนนอนดีกว่า..อารมณ์เห่อไปไหน 5555+

แท้แน๊......

เจ็ดโมงเช้า- เครื่องลงที่ Pudong International Airport (PVG) แล้ว ดีใจจัง
เดินออกจากเครื่องบินไปตามทางที่เค้าวางไว้จนมาโผล่ตรวจคนเข้าเมือง

คนเข้าแถวรอประทับตราผ่านคนเข้าเมืองเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แปดโมง- ตรวจวีซ่าเสร็จก็ลงบันไดมารับกระเป๋า


หลังจากเดินออกมาจากส่วนผู้โดยสารขาออกแล้ว ก็เลี้ยวซ้าย ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 2 มองหาป้าย Long Distance Bus Terminal
เดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ จนสุดทางเดินตึกแล้วก็ลงลิฟต์ไปชั้นล่าง ไม่อยากจะบอกว่า เดินไกลมากกกก กระเป๋าใหญ่ขอให้ระวังตัวไว้หน่อยนะคะ 5555+


นอกจากนั้นก็จะต้องดูดี ๆ เพราะยิ่งใกล้ถึงเป้าหมาย ป้ายบอกทางจะเริ่มงง ๆ หน่อย

ถึงแล้วค่ะ ห้องขายตั๋วรถทัวร์ไปต่างจังหวัด

ห้องขายตั๋วจะอยู่นอกตัวตึกออกไป มีช่องเดียว ด้านหน้ามีป้ายบอกสถานที่ที่รถจะไป และราคาบอก...แต่เป็นภาษาจีนจ้า

ไม่เป็นปัญหานะ เราจะไปอู๋ซี ก็แค่พูดว่า "อู๋ซี" แล้วก็ชูนิ้ว สามนิ้ว...แล้วก็หยิบเงินให้เค้า ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ

ราคาตั๋วไปอู๋ซีคือ 100 หยวนต่อคน 

ราคารถทัวร์สีท่าน่าจะพึ่งขึ้นราคาหมดเลย เพราะว่าเอาปากกาเขียนทับราคาเดิม 5555+

งั้นเราเข้าไปพักในห้องพักกันดีกว่า (waiting room)

ทางเข้าเป็นประตูเล็ก ๆ อยู่ขวามือเรา ติดกับห้องขายตั๋วนั้นแหระ
เดินตามลูกศรเข้าไปเรื่อย ๆ จะเห็นห้องแยกเป็น ห้องด้านหน้า คั่นด้วยทางเดิน แล้วก็เป็นห้องด้านหลัง

มีของขายด้วย เน้นของกินง่ายเร็วเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ที่นี่ทุกอย่างตรงเวลามาก พอรถมาปุ๊บก็เรียกขึ้นรถ ใครมีกระเป๋าก็ลากกระเป๋ากันไปยัดใต้ท้องรถ ดูแลของตัวเองกันเองดี ๆ ด้วยนะคะทุกคน เหอะ ๆ



ที่นี่พนักงานจะไม่มาแตะกระเป๋าเรากันสักคน เป็นหน้าที่ของเราล้วน ๆ

 จากนั้นก็นั่งตามอัธยาศัย และหลับเจ้าค่ะ เพราะมองวิวก็ไม่ค่อยเห็น ฝนมันตกอ่ะนอนเก็บแรงไว้ไปเที่ยวตอนถึงที่โน้นเลยดีกว่าเนอะ ฝันดีค่ะ ^^

 

มาถึงอู๋ซีแล้วจ้า....

 

ที่จริง จากสถานีขนส่ง เราสามารถเดินไปโรงแรมได้เลย แต่เนื่องจากกระเป๋าใหญ่

และไม่ชินทาง เลยคิดว่าใช้บริการแท็กซี่ดีกว่า ซึ่งก็ไม่แพงเท่าไหร่ ถ้าจำไม่ผิดไม่เกิน 10 หยวนเลยด้วยซ้ำ ประมาณว่า เข็มไมล์ยังไม่กระดิกเลยเจ้าค่ะ Smiley

โรงแรมที่เราไปพักคือ

Hotel Name: CTS Grand Hotel – Wuxi

 酒店名称:格林豪泰(无锡火车站店)(原中旅大酒店)

Hotel Address: No.88 Chezhan Road, Wuxi, Jiangsu Province

酒店地址:无锡市车站路88号 Room Type: Deluxe Room B

 Total Price: RMB201.00(Pay at the hotel upon check-out)

 ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าป้ายหน้าโรงแรมจะเป็นชื่อ Green Three Hotel 5555 เพราะตอนแรกเราก็แปลกใจคือกัน เป็นการจองโรงแรมผ่านทาง //www.elong.net  ค่ะ

หลังจากเช็คอินโรงแรม พักผ่อนสักแป๊บ ก็ออกมารอรถบัสไปอุทยานแห่งชาติสามก๊กกันเลย ^^

CCTV Wuxi Film Base

มายืนตากฝนรอรถเมล์สาย 82 ที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานีรถไฟ กว่าจะมานานมากค่ะ นานจนเกือบจะเรียกแท็กซี่ไปแทนแล้ว

ยิ่งกว่านั้น ต้องเหนื่อยลุ้นว่าจะเลยป้ายไหม แต่สุดท้าย ไม่เลยค่ะ เพราะอยู่ป้ายสุดท้ายเลย 5555


น่าเสียดายที่ตอนที่เรามาถึงฝนตกปรอย ๆ ถึงหนักมากกกกกกก

ทำให้เราต้องพลาดการแสดงสดหลาย ๆ อย่างทั้งบนบกและในน้ำ

เห็นท่าต้องหาทางไปอีกรอบ 5555


 

แต่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ก็เลยจัดการเดินทางรอบ ๆ อุทยานสามก๊กด้วยรถขนส่งคันเล็ก

รถคันนี้ พาเที่ยวชมแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น แต่แค่นี้ก็กินเวลาเกือบชั่วโมงแล้ว

ระหว่างทาง รถจะไปแวะวัด ตลาด และสถานที่ต่าง ๆ เราสามารถบอกเค้าให้หยุดก็ได้ หรือจะไปเรื่อย ๆ ก็ได้ แต่ให้ดูแลเรื่องวัดกันนิดหนึ่ง เพราะมีวัดก็ต้องมีบริจาค 5555 แต่เค้าเอาทีเยอะไปหน่อย ดีนะที่วันนั้นติดเงินไปใบเดียว เลยให้เค้าไป 100 หยวน จากที่เรียกมา 1000 หยวน

ใช่ คุณอ่านไม่ผิดหรอก วัดที่นี้เค้าเอามากจริง ๆ เราไม่ทันเล่ห์เลี่ยมเค้าสักนิดเลยะ 5555

จากแผนที่ด้านล่าง จะเห็นได้ว่า ถึงเราจะขับรถเที่ยวเอง ก็คงไม่ทั่วหรอกใช่ไหมSmileySmileySmileySmileySmileySmiley

สนราคาที่จ่ายค่ารถก็คือ 300 หยวนต่อ 1 คันค่ะ เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีนะ เพราะจะมีการเรียกดูใบเสร็จในทุก ๆ ด่านเลยทีเดียว Smiley

หลังจากเที่ยวแบบทุลักทุเลกันเสร็จเราก็เดินทางโดยรถเมล์สายเดิม 82 ก็แหม มีสายเดียวที่อยู่ตรงนั้นนี่นา 5555 เพื่อเข้าเมือง

ระหว่างการตัดสินใจว่าจะไปไหนกันดี ก็จะมีชาวจีนมาเชื้อเชิญให้นั่งรถเค้า (รถเก๋งเก่า ๆ จอดเรียงราย) ประมาณว่าเป็นแท็กซี่ป้ายดำ ก็ต้องระวังกันให้ดี เราก็เคยโดนหลอกมาแล้วนี่นา เหอะ ๆ SmileySmiley

ก่อนที่จะเปลี่ยนสายรถเมล์ ก็หาอะไรรองท้องกับร้านอาหารแถวนั้นหน่อยดีกว่า SmileySmiley

ร้านนี้ดีหน่อยที่มีรายการอาหารแสดงไว้เป็นรูป ให้จิ้มเอาเลย หน้าตาออกมาเหมือนที่สั่งเด๊ะ แต่อะไรเป็นอะไร รสชาตแบบไหน ไว้อีกเรื่องหนึ่ง 5555

น้ำเต้าหู๊...เต้าหู้ล้วน ๆ สัมผัสได้ถึงกลิ่นเมล็ดถั่วเหลืองเลยทีเดียว SmileySmiley

และแล้วเราก็มาถึงสถานที่ต่อไป

พระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ

พระพุทธรูปปางห้ามญาติสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ที่เขาหลิงซาน พระใหญ่หลิงซานต้าฝอ มีความสูง 88 เมตร ยืนอยู่บนเนินเขาหลิงซาน บนยอดเขาซึ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 4 ของเมืองจีนพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ พระพุทธรูปปางห้ามญาติสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ที่เขาหลิงซาน พระใหญ่หลิงซานต้าฝอ มีความสูง 88 เมตร ยืนอยู่บนเนินเขาหลิงซาน บนยอดเขาซึ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 4 ของเมืองจีน

ดอกบัวค่อย ๆ บานออกแล้วจะมีเด็กอยู่ในดอกบัว สวยงามมากอ่ะ

สถานที่ใหญ๋มาก ใหญ่เว่อร์ จนไม่รู้จะเดินไปทางไหน 5555

จนสักพัก จะมีการบอกปากต่อปากว่าให้เดินไปอีกตึกหนึ่ง เพื่อไปชมการแสดงแสงสีในห้อง สวยมาก ๆ ขอบอก




Create Date : 23 กันยายน 2553
Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 8:03:32 น.
Counter : 884 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาอ่านจร้าขออนุญาตฝากเว็บไว้ในอ้อมกอดน้อยๆด้วยนะครับ|เข้าชมเว็บ บิ๊กอายขอบคุณค่ะ
โดย: bigeye (tewtor ) วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:14:24:20 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เด็กนิมมาน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]