Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
13 กุมภาพันธ์ 2565
 
All Blogs
 
เนื้อหาในพระไตรปิฏกใช้เป็นหลักในการอ้างอิงได้มากแค่ไหน?

พระไตรปิฎก เป็นคัมภีร์สูงสุดของศาสนาพุทธ ซึ่งเกิดขึ้นจากการสังคายนาหลังพระพุทธเจ้าปรินิพานไปแล้ว 3 เดือน โดยที่ประชุมสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์ 500 รูป และมีพระมหากัสสปะและพระอานนท์ เป็นหลัก รวบรวมคำสอนของพระศาสดาจากความทรงจำ ถกเถียงกันจนเป็นเอกฉันท์ว่าถูกต้อง แล้วจึงสวดขึ้นพร้อมกัน

พระไตรปิฏกมีการสืบทอดต่อๆ กันมาด้วยการท่องจำของพระสงฆ์จากรุ่นสู่รุ่นซึ่งเป็นวัฒนธรรมการสืบทอดคัมภีร์ทางศาสนาของอินเดียในสมัยก่อน และมีการสังคายนาตามมาอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรก ราว 500 ปีหลังพุทธกาล ณ ประเทศศรีลังกา 

ตามความเชื่อของนิกายเถรวาท การสืบทอดข้อความในพระไตรปิฏกนับร้อยๆ ปีนั้น ไม่มีการผิดเพี้ยนเลย เพราะพระสงฆ์จำนวนมากต้องสวดตรงกันทุกตัวอักษรก่อนเท่านั้น ถึงจะยอมรับว่าถูกต้องได้ แถมยังมีการสังคายนาต่อมาอีกหลายครั้ง ซึ่งเป็นการแก้ไขคำให้ถูกต้อง ไม่ได้มีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมใดๆ เลย 

แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความเชื่อของนิกายเถรวาทที่เชื่อตามๆ กันมาอย่างแข็งขันเท่านั้น ศาสนาพุทธนิกายอื่นต่างก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการสังคายนาพระไตรปิฎกในเวอร์ชั่นของตัวเองที่ต่างออกไป ส่วนในทางประวัติศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ก็ยิ่งเห็นไม่ตรงกับชาวพุทธเข้าไปใหญ่ 

นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า พระไตรปิฏกถูกแต่งขึ้นครั้งแรกประมาณ 100 ปีหลังพระพุทธเจ้าปรินิพาน และมีการแก้ไขปรับปรุงและเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่เข้าไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นอีกหลายร้อยปี ก่อนที่จะกลายมาเป็นพระไตรปิฎกฉบับ ที่เรายึดถือกันอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากแต่ละส่วนของพระไตรปิฏกฉบับเถรวาทนั้นมีรูปแบบการใช้ภาษาบาลีที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก เป็นภาษาบาลีคนละยุคสมัย อีกทั้งพระไตรปิฎกยังเต็มไปด้วยการอ้างถึงหลักธรรมที่พบว่าถูกพัฒนาขึ้นในยุคหลังๆ ไม่ใช่ในสมัยพุทธกาล

ในส่วนของพระวินัยนั้น นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าลอกมาจากพุทธประวัติ ซึ่งมีใครสักคนแต่งขึ้น (น่าจะเป็นคนๆ เดียวแต่ไม่ทราบว่าคือใคร) ประมาณ 100 ปีหลังพระพุทธเจ้าปรินิพานเช่นกัน ซึ่งต้นฉบับพุทธประวัติดังกล่าวที่สมบูรณ์ได้สูญหายไปแล้ว แต่ส่วนต่างๆ ของพุทธประวัตินั้น ได้กระจัดกระจายอยู่ในส่วนต่างๆ ของพระไตรปิฏก 

ในส่วนของพระสูตร ก็แต่งขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และมีการ edit ตลอดจนเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ๆ ให้มีความพิสดารเข้าไปภายหลังเป็นจำนวนมาก ในส่วนพระอภิธรรมนั้นยิ่งแล้วใหญ่ เกือบทั้งหมดมีการพูดถึงหลักธรรมที่ยังไม่มีในสมัยพุทธกาล  

ดังนั้นถ้าจะถามว่า พระไตรปิฏกเป็นพุทธพจน์หรือไม่ (คำว่าพุทธพจน์ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคำพูดของพระศาสดาแบบคำต่อคำ แต่หมายถึงเป็นคำพูดของพระศาสดาที่ถูกนำมาเล่าด้วยสำนวนใหม่ก็ได้) ก็ตอบได้เลยว่า พระไตรปิฏกมีส่วนหนึ่งที่เป็นพุทธพจน์จริง แต่ในเวลาเดียวกันก็มีเนื้อหาอีกจำนวนมาก ที่เป็นเรื่องแต่งเติมเสริมขึ้นในภายหลัง โดยเฉพาะเกือบทั้งหมดของพระอภิธรรมนั้นไม่ใช่พุทธพจน์ นี่ยังไม่ได้พูดถึงพวกคัมภีร์และอรรถกถาต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฏก เหล่านั้นก็ไม่ใช่พุทธพจน์อย่างแน่นอน 

โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าเห็นว่า ความเชื่อของนิกายเถรวาทที่ว่า พระไตรปิฏกถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมาโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือผิดเพี้ยนเลยนั้น เป็นอะไรที่ฟังดูย้อนแย้งมาก เพราะถ้ามันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแล้วจะต้องมีการสังคายนาตามมาอีกหลายครั้งไปเพื่ออะไร ตรงกันข้ามข้าพเจ้ากลับเห็นว่า การสังคายนาตลอดจนเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในพระไตรปิฎกที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในประวัติศาสตร์นั้นเป็นเรื่องปกติของคนหมู่มากที่ย่อมมีความคิดเห็น หรือการตีความที่ผิดแผกแตกต่างกันได้ ยิ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมายที่บ่งชี้ด้วยว่า คณะสงฆ์หลังพุทธปรินิพานนั้นมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง พระที่มีอำนาจทางการเมืองมากกว่าก็ย่อมอยากให้เนื้อหาในพระไตรปิฏกเป็นไปในแบบที่ตัวเองตีความ หรือบางทีก็เป็นเพราะแรงศรัทธาที่อยากแต่งเติมอภินิหารเข้าไป เพื่อให้คนหันมานับถือพุทธศาสนาเยอะๆ (บิดเบือนแบบเจตนาดี) ตลอดจนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา คนที่มีอำนาจในแต่ละยุคสมัย มักใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการปกครองคน ผู้ปกครองจึงมักอยากเข้ามามีบทบาทในการกะเกณฑ์เนื้อหาในพระคัมภีร์ทางศาสนา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง จึงหลีกเลี่ยงได้ยากที่เนื้อหาในพระไตรปิฏกจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม

การยอมรับว่า พระไตรปิฏกก็ไม่ต่างจากคัมภีร์ความเชื่ออื่นๆ ที่หนีไม่พ้นการถูกเปลี่ยนแปลงนั้นโดยคนรุ่นหลังที่เป็นปุถุชนนั้น ไม่ได้ทำให้ศาสนาพุทธเสื่อมลง แต่ตรงกันข้าม มันคือการเรียนรู้พุทธศาสนาไปตามความเป็นจริง อันไหนจริงก็ว่าไปตามจริง อันไหนไม่จริงก็คือไม่จริงไม่ต้องไปพยายามดิ้น น่าจะเป็นวิธีการศึกษาศาสนาพึ่งกระทำตามหลักกาลมสูตรมากกว่า 


Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2565 20:32:11 น. 0 comments
Counter : 276 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดีดลูกคิดแล้ว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดีดลูกคิดแล้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.