ถ้าตอนเป็นเด็กถูกปล่อยให้ร้องไห้นานๆ จะส่งผลอะไรต่อสมอง ??

จากการศึกษาและการวิจัยด้านประสาทวิทยาค้นพบว่าพ่อแม่และการเลี้ยงดูลูกมีส่วนสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นการตอบสนองต่อสมองของลูก ซึ่งมีผลต่อสมองในการทำงานระยะยาวต่อไปในชีวิตของลูก ดังนั้นพ่อแม่จึงมีอิทธิพลโดยตรงในการที่จะพัฒนาสมองส่วนของอารมณ์ เนื่องจากสมองส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญ และพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วมากในช่วงที่ลูกยังอยู่ในวัยเด็ก The Science of Parenting เขียนโดย Ms. Margot Sunderland, Director of Education and Training, Center for Child Mental Health, London กล่าวว่า สมองของเด็กวัยแรกเกิดจะทำการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว และกว่า 90% ของสมองจะเจริญเติบโตในช่วง 5 ปีแรกของชีวิต และช่วงเวลานี้เองสมองของลูกก็จะได้รับอิทธิพลจากการเลี้ยงดู จากสิ่งแวดล้อมและจากประสบการณ์ด้านอารมณ์ของพ่อแม่โดยตรง

จากฉบับที่แล้วคุณพ่อคุณแม่คงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า สมองของลูกมีหน้าที่และมีวิวัฒนาการในการเรียนรู้ และเติบโตมาได้อย่างไร สมองของลูกนั้นจะเติบโตได้ในทุกช่วงเวลา ซึ่งสามารถที่จะเป็นตัวกำหนดอารมณ์ด้านต่างๆ ของลูกออกมาเบื้องต้นได้ ทั้งนี้ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นหลัก การเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ไม่ว่าจะในรูปแบบใด ต่างก็มีผลกับสมองด้านอารมณ์ของลูกโดยตรง คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่าเวลาที่ลูกร้องไห้ ลูกจะมีอารมณ์และสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป และจากการร้องไห้ของลูกนี้สามารถบอกได้ถึงความต้องการที่ลูกต้องการจากพ่อแม่ได้เป็นอย่างดี ในเด็กทารกสมองจะยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ และไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ของตัวเองได้ ดังนั้นทารกจึงบอกความต้องการของตัวเองโดยการร้องไห้ออกมา และการร้องไห้นี้ก็เพื่อบอกว่าเขากำลัง ไม่สบายตัว กำลังเครียด กำลังหงุดหงิด ฯลฯ และจากสาเหตุการร้องไห้นี้ก็เพื่อต้องการบอกให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าเขาต้องการความอบอุ่น หรือกำลังต้องการความช่วยเหลือ และการดูแลจากพ่อแม่ค่ะ


เด็กทารกกับการร้องไห้






การร้องไห้ของเด็กทารกเกิดจากหลายสาเหตุ เด็กทารกร้องไห้เมื่อหิว ร้องไห้เมื่อเหนื่อย หรือการถูกกระตุ้นมากเกินไปจากผู้ใหญ่รอบข้าง เด็กทารกอาจจะรู้สึกตกใจกลัวแสงสว่างที่มากเกินไป หนาวหรือร้อนมากเกินไป Amygdala ในสมองส่วนล่างซึ่งทำหน้าที่ในการป้องกันตัวของมนุษย์ ได้ถูกใช้ทันทีที่มนุษย์เกิดมา เราลองจินตนาการโลกกว้างใบนี้ของเด็กแรกเกิดดูกันว่า เด็กทารกรู้สึกตกใจร้องไห้เมื่อแม่ถอดเสื้อผ้าให้ และเมื่อผิวได้สัมผัสกับน้ำครั้งแรกตอนอาบน้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งแปลกใหม่ ลูกจึงตกใจกลัว และการกลัวนี้จะหายไปจนกว่าจะเกิดความเคยชินเมื่อเวลาผ่านไป คุณแม่มือใหม่อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อเรียนรู้ว่าลูกร้องไห้ เพราะสาเหตุใด เมื่อแม่และลูกได้รู้จักกันมากขึ้น แม่ก็จะรู้ว่าลูกน้อยชอบหรือไม่ชอบอะไร ร้องแบบไหนหมายถึงหิว ร้องแบบไหนหมายถึงง่วงนอน แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่พ่อแม่มือใหม่ก็ไม่ทราบสาเหตุ ว่าลูกร้องไห้ทำไม แต่ไม่เป็นไร เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการปลอบ ประโลมลูก เมื่อลูกร้องไห้ที่เกิดจากการตกใจกลัว หรือร้องไห้โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ เพื่อให้ลูกรู้สึกถึงความรักที่พ่อและแม่มีให้ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้


ผลกระทบจากสารเคมีความเครียดต่อสมองเด็กวัยแรกเกิด



การร้องไห้ของเด็กทารกไม่ได้มีผลกระทบต่อสมอง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นจากการถูกปล่อยให้ร้องไห้อย่างต่อเนื่อง โดยขาดการอุ้มหรือปลอบโยนจากพ่อแม่ การร้องอย่างยาวนานและปล่อยให้หยุดร้องเมื่อเด็กทารกเหนื่อยและหลับไปในที่สุด การที่เด็กทารกถูกปล่อยให้ร้องไห้อยู่ตามลำพัง เป็นสาเหตุที่ให้เด็กเกิดความเครียด และสารเคมีความเครียดจะหลั่งออกมาจากสมองซึ่งจะมีผลระยะยาวต่อจิตใจ และการเรียนรู้ในระยะยาวของลูกได้


เด็กทารกร้องไห้นานแค่ไหน



ในช่วง 3 อาทิตย์แรกเกิดของชีวิต จะเป็นช่วงที่ทารกร้องไห้มากที่สุด และจะมากขึ้นอีกในช่วง 3-6 สัปดาห์ต่อมา หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ลดน้อยลงในช่วง 12-16 อาทิตย์ต่อมา เนื่องจากทารกเริ่มเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหว คว้าสิ่งของที่อยู่รอบๆ ตัวได้ จึงทำให้ลูกรู้สึกไม่เหงา และเบื่อน้อยลง เด็กที่เติบโตขึ้นและอยู่ในวัยเตาะแตะจะยังร้องไห้อยู่เมื่อเขารู้สึกหิว หนาว เหนื่อย หรือไม่สบาย ส่วนความรู้สึกตกใจของการเปลี่ยนไปของสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวนั้น จะมีผลกระทบต่อความรู้สึกด้านจิตใจกับการพลัดพราก การชอบหรือไม่ชอบ สำหรับเด็กที่ยังพูดไม่ได้ การร้องไห้ คือ ไม่, หนูอยากให้แม่อุ้ม, อย่าปล่อยหนูลงไป, มันทำให้หนูกลัว, ไม่ หนูไม่อยากให้คนแปลกหน้าอุ้มหนู, หนูไม่ชอบเสื้อตัวนี้ เป็นต้น




เกิดอะไรขึ้นในสมองลูก



ความเชื่อที่ว่าการปล่อยให้เด็กร้องไห้เป็นการบริหารปอด ซึ่งเป็นความเชื่อที่ก่อให้เกิดความเสียหายของสมองเด็กเป็นอย่างมาก การที่เด็กถูกปล่อยให้ร้องไห้เป็นเวลานานๆ สมองของเด็กจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดคอร์ติโซล (cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งมาจากต่อมเหนือหมวกไต และจะหลังสารอะดีนารีนออกมา หากเด็กทารกได้รับการปลอบโยนจากผู้ใหญ่ ระดับของคอร์ติโซลก็จะลดระดับลง แต่ถ้าเด็กถูกปล่อยให้ร้องไห้นานๆ ฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่า คอร์ติโซล (cortisol) ก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเกิดอันตรายต่อสมองของเด็ก เนื่องจากฮอร์โมน คอร์ติโซล (cortisol) นี้จะถูกพัฒนากลายเป็นพิษซึ่งจะไปทำลายระบบพัฒนาของสมองลูกน้อย


Good-to-Know



เมื่อประมาณ 1.5 ล้านปีมาก่อน มนุษย์ยุคหินได้ใช้แขน-ขาในการหาอาหารเพื่อการดำรงชีพ ต่อมาได้เกิดการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ และเริ่มใช้การคิดจากสมองในการหาอาหารและการดำรงชีพ ซึ่งจากพัฒนาการของสัตว์สองเท้าที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ นี้เองจึงทำให้เชิงกรานของมนุษย์แคบลง แต่จะมีพัฒนาการด้านอัจฉริยภาพมากขึ้น สมองก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทารกที่คลอดออกมา สมองของทารกยังไม่ได้รับการพัฒนาที่สมบูรณ์ ซึ่งสมองของเด็กแรกเกิดจะสมบูรณ์ได้ คือหลังจากคลอดออกมาจากท้องของแม่แล้วได้รับการพัฒนาให้มีความสมบูรณ์ในด้านต่างๆ นั่นเอง ซิกมันด์ฟอยด์ (Sigmund Freud) เด็กแรกเกิดคือมนุษย์ที่ยังไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นเราจึงเข้าใจว่า ชีวิตของเด็กแรกคลอด คือชีวิตที่อยู่นอกมดลูกนั่นเอง




(update 11 สิงหาคม 2010)
[ ที่มา.. นิตยสารบันทึกคุณแม่ Vol.16 Issue 189 April 2009 ]

 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2554		1 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2554 10:22:37 น.
Counter : 26856 Pageviews.
Share Tweet