"นิด.....กลับมาแล้วหรือลูก" เสียงของผู้เป็นแม่เปล่งออกมาด้วยความดีใจ พร้อมๆกับที่วิ่งออกไปเปิดประตูบ้าน
นิดเข้าสวมกอดแม่ด้วยความรักและคิดถึง ทั้งอบอุ่นในหัวใจ นี่จะปีนึงแล้วสินะที่เราไม่ได้กลับบ้าน
".....ชนิฎา ชนิฎา ชนิฎา...." เสียงเรียกแผ่วเบาเสมือนสายลมอันเบาบางแว่วลอยมา จากบ้านน้อยหลังเล็กในสวยสวยที่อยู่ไม่ไกล..
เสียงอะไรลูก แม่ไม่ได้ยินนะชญาณีตอบด้วยความงุนงง
แต่แม่คะ...นิดได้ยินจริงๆผู้เป็นลูกยังคงยืนยัน
แม่ว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าวันนี้แม่ทำกับข้าวไว้เยอะแยะเลยนะ มีของที่ลูกชอบด้วยนะ ผู้เป็นแม่พูดและดึงแขนของผู้เป็นลูกเข้าไปในบ้าน
ชนิฎามองตามเสียงนั้น อย่างสงสัย...รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงเรียกที่แผ่วเบา
.....................................
....สายลมพลิ้วไหวเบาๆผ่านแก้มอย่างละมุน นิดเดินเรื่อยๆไปตามแนวหญ้าที่พลิ้วไสวราวกับมันมีชีวิต มันโบกไหวไปมาต้อนรับเธอตลอดเส้นทางที่ผ่านเมื่อสุดทางมีสระบัวขนาดใหญ่เต็มไปด้วยดอกบัวแข่งกันชูช่อเสมือนประหนึ่งว่าดีใจที่เธอมา หญิงสาวหยุดมองด้วยความประหลาดใจ เมื่อพบว่าดอกบัวในสระนั้นมีสีฟ้าใสประดุจดังแก้วระยิบระยับสะท้อนรับกับแสงราวกลับระยับพรายบนผืนน้ำแม้แต่ใบบัวที่รองรับดอกบัวนั้นมีสีเขียวใสดั่งกับหยกส่องสว่างไปทั่วบริเวณผิวน้ำ ดอกบัวพลิ้วไหวเป็นจังหวะรับกับสายลมดูเพลินตายิ่งนัก
ชนิฎาหย่อนตัวลงนั่งบนสะพานไม้เล็กๆรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข แต่.....จู่ๆ มีกลุ่มหมอกควันสีดำลอยเข้ามาใกล้
แนวหญ้าและดอกบัวทั้งหมดกลายเป็นสีดำ!!! พร้อมกับเสียงอันน่าสะพรึง
เธอเป็นใคร!!" เสียงใหญ่ดังกึกก้องตวาดถามเธออยู่เบื้องหลัง
ชนิฎาค่อยๆหันหน้าไปมองด้วยความหวาดกลัว
.
ใบหน้าสีดำตัดกับดวงตาแดงก่ำ ร่างกายสูงใหญ่ผิดมนุษย์ถืออาวุธบางอย่างกำลังเล็งมาที่เธอ บุคคลปริศนาไม่ใช่สิ...น่าจะเป็นอสูรมากกว่ามองมาทางเธอด้วยความมาดร้ายเสมือนผู้ล่ามองเหยื่อ....
เอ๊ะ นี่..เธอคือ..... เสียงดังกึกก้องพูดออกมาเหมือนกับว่ารู้จักเธอมาก่อนแต่กระนั้นชนิฎากรีดร้องออกมาสุดเสียงก่อนที่จะได้ยินว่าเจ้าอสูรนั้นจะพูดอะไรต่อไป
_________________________________
นิด นิด นิด ลูกเป็นอะไรลูก ตื่นเถอะนิด นิดชญาณีปลุกลูกด้วยความตกใจ