|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
นกยางควาย
นกยางควาย Bubulcus ibis (Cattle Egret) เป็นนกยางสีขาวๆที่ดูไม่ค่อยสง่าเหมือนบรรดานกยางสีขาวตัวอื่นๆเนื่องจากมีคอไม่ยาวมาก ขากรรไกรค่อนข้างใหญ่และขาสั้น มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางเพียง 51 เซนติเมตรเท่านั้น
ในชุดขนนอกฤดูผสมพันธุ์ นกยางควายจะมีขนคลุมร่างกายสีขาวทั้งตัวเว้นบริเวณหน้าผากมีสีเหลืองทองจางๆ ปากค่อนข้างหนาสีเหลือง ขาและเท้าสีดำ คอค่อนข้างสั้นสำหรับนกยางและอวบหนา ในชุดขนนี้นักดูนกที่ไม่ชำนาญอาจจำแนกสับสนกับนกยางโทนน้อย(Intermediate Egret)ได้ เนื่องจากมีสีสันเหมือนกันแม้ขนาดจะแตกต่างกันมากก็ตาม (ยางควาย 51 ซม.ยางโทนน้อย 71 ซม.) จุดสังเกตนอกเหนือจากขนาดที่อาจวัดได้ยากเมื่อพบคนละทีแล้วก็คือนกยางโทนน้อยไม่มีสีทองจางๆที่หน้าผาก ขากรรไกรไม่อวบหนาเท่า และคอยาวกว่า
ในชุดขนฤดูผสมพันธุ์นกชนิดนี้จะดูสวยและจำแนกได้ง่ายมากๆเพราะหัว คอ หน้าอก และหลังจะมีขนสีเหลืองทองสดใสปกคลุมไปทั่ว ขาที่เคยเป็นสีดำสนิทก็จะมีสีเหลืองหรือสีแดงมาแทนที่ ในช่วงนี้เมื่อจับคู่แล้วนกทั้งสองเพศจะช่วยกันทำรังโดยตัวผู้หาวัสดุซึ่งก็คือกิ่งไม้แห้งที่อาจจะหามาเองหรือขโมยเอาจากรังใกล้ๆ ตัวเมียสร้างรัง เมื่อวางไข่แล้วจะช่วยกันกกไข่ และหาอาหารมาป้อนลูก
แม้ว่าในปัจจุบันเราจะพบนกยางควายได้ในทุกทวีปเว้นแต่แอนตาร์กติกาเท่านั้น แต่จริงๆแล้วนกยางควายมีจุดกำเนิดที่ทวีปอาฟริกาและเอเชีย นกได้เดินทางทั้งด้วยตัวเองและโดยการนำพาของมนุษย์ไปยังที่ใหม่ๆและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีจนกลายเป็นนกที่หาได้ง่ายมากในทุกๆทวีป ตัวอย่างของความสามารถนี้ได้แก่ เมื่อปี พศ.2420 นกเดินทางจากอาฟริกาไปยังอเมริกาใต้ พอปี 2484 ไปถึงสหรัฐอเมริกา ปี 2496 ก็เริ่มทำรังวางไข่ นับจากนั้นมาอีกเพียง 50 ปี นกยางควายก็กลายเป็นนกยางที่มีมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือไปแล้ว
นกยางควายไม่ได้กินปลาเป็นอาหารหลัก หรืออาศัยตามแหล่งน้ำเหมือนอย่างนกยางอื่นๆ แต่มักดำรงชีพด้วยตั๊กแตน และแมลงต่างๆในทุ่งหญ้า(ซึ่งก็มักไม่ค่อยไกลจากแหล่งน้ำนัก) แต่ถ้าไม่มีอะไรให้กินจริงๆ กบ เขียด หรือแม้กระทั่งนกเล็กๆก็เคยถูกนกยางชนิดนี้จับกินมาแล้ว ภาพนกยางควายยืนบนหลังควายหรือสัตว์ใหญ่อื่นๆเพื่อจับกินแมลงที่บรรดาสัตว์ใหญ่นั้นรำคาญและปัดออกเป็นภาพที่คนทั่วโลกเห็นจนชินตา ในสนามบินบางแห่งนกชนิดนี้จะยืนชิดขอบรันเวย์รอให้เครื่องบินบินผ่านทำให้บรรดาแมลงอาหารทั้งหลายปลิวหลุดออกมาจากกอหญ้าและจับกินอย่างอร่อย
สำหรับประเทศไทย เราสามารถพบยางชนิดนี้ได้เสมอตามท้องทุ่งท้องนาข้างทางทั่วประเทศ ภาพนกยางควายในบล็อกนี้ถ่ายมาจากท้องนาข้างถนนแถวลำลูกกาและจากพุทธมณฑลซึ่งเป็นอีกที่หนึ่งที่เราพบนกชนิดนี้ได้ง่ายๆ
ข้อมูล/ค้นเพิ่ม:
//www.enature.com/ //en.wikipedia.org/ //www.nhptv.org/
Create Date : 30 กันยายน 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 30 กันยายน 2549 15:04:06 น. |
Counter : 3819 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Noklek (Maeseefai ) 5 ธันวาคม 2549 14:42:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: แป๊ะ (Mr.3pMan ) 27 เมษายน 2550 7:48:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ชอบนกset นี้ค่ะ เห็นแล้วคิดถึงทุ่งนาเขียวๆแถวอยุธยาจัง