Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ปรับ

16/05/50

1

รู้สึกยังไงเวลานั่งรถกลับจาก ต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ ?

รถเริ่มเยอะ ถนนเริ่มแน่น อากาศเริ่มไม่บริสุทธิ์ หน้าตาผู้คนเริ่มบึ้งตึง

ชีวิตเดิมๆกำลังจะเริ่มอีกครั้งในวันต่อไป



หลังจากได้มีโอกาสไปสูดอากาศบริสุทธิ์ น้ำทะเลสีเขียว ฟ้าสีคราม มาไม่กี่วัน ความรู้สึกตอนได้กลับ “บ้าน” ที่เราเกิด อยู่มาตั้งแต่เด็กจนโต กลายเป็นความรู้สึกพะอืดพะอมอย่างบอกไม่ถูก

ไปเที่ยว(สัมมนา)เกาะมันกลาง กับที่ทำงานมา

พึ่งรู้ว่ามันมีทั้งเกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะมันกลาง... จะเลือกมันขนาดไหนก็เลือกเอา

เคยได้ยินชื่อ “เกาะมันนอก” มาพอสมควร รู้จากคนใกล้ตัวว่าเป็นเกาะส่วนตัว มีบ้านพักแห่งเดียว ค่อนข้างจะเงียบ เหมาะกับคนที่ไปพักผ่อนจริงๆ

ทั้ง 3 เกาะมัน อยู่ห่างกันไม่มากในระยะสายตา แต่กว่าจะนั่งเรือไปถึงแต่ละเกาะแทบจะเมาตาย ตอนนั่งเรือจากฝั่งไปเกาะเด็กๆ เสียสละอาหารในท้องให้ปลากันไปหลายคนทีเดียว

“เกาะมันกลาง” เป็นเกาะส่วนตัวเหมือน มันนอก แต่มันคงเป็นแค่ระดับกลางๆ บ้านพักจึงโทรมเหลือเกิน บ้านเป็นหลังๆ เปิดประตูเข้าไปเจอฟูกกะหมอนวางกองอยู่ พัดลม 1 ตัว ห้องน้ำ 2 ห้อง 1 หลังพักกัน 8 คน... ถ้าไปฮันนีมูน ข้ามเกาะนี้ไปละกันนะ

ธรรมชาติสวยดี ที่น่ารักของเกาะนี้ คือ มีเปลญวน และชิงช้าเชือกผูกอยู่เต็มไปหมด เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง เวลากินข้าวก็น่ารักดี เนื่องจากเป็นบ้านพักแห่งเดียว ครัวจึงมีครัวเดียว เมื่อถึงเวลากินข้าว ป้าแม่ครัวเค้าจะเคาะระฆังเรียกมาให้กินข้าวพร้อมๆกันทั้งเกาะ มีมื้อละรอบเท่านั้นไม่มาก็อด




สำหรับกิจกรรมสัมมนา หลังจากคุยเป็นเรื่องเป็นราวประมาณครึ่งวัน ก็ไปดำน้ำและเที่ยวเกาะมันใน

เข้าใจตั้งชื่อดี “มันใน” ไม่อนุญาตให้พักค้างคืนบนเกาะ เพราะเป็นเกาะที่ใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เต่าทะเล มีการสร้างเขื่อนปิดชายหาดเพื่อให้เต่าทะเลวางไข่ และมีแหล่งอนุบาล ประถม มัธยมฯ ลูกๆเต่าด้วย...เดินได้ไม่ถึงชั่วโมงก็หมดเกาะ หมดมันละ กลับมันกลางเราดีกว่า

นอกจากกิจกรรมที่ว่ามาแล้ว ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ากินเหล้า เล่นไพ่ และนั่งคุยกันเอง

ไม่ค่อยมีกิจกรรมเท่าไหร่ แต่เราว่าสัมมนา ครั้งนี้ก็ถือว่าดี บรรลุผลที่ตั้งไว้เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในกองเดียวกัน พี่คนที่ปกติไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ก็ได้คุยกันมากขึ้น พี่ที่สนิทอยู่แล้วก็ร้สึกดีๆมากกว่าเดิม

แต่ก็เหมือนทุกครั้ง คนที่มีปัญหาก็ไม่มาร่วมกิจกรรมอยู่ดี คนที่มาก็หน้าตาเดิมๆกับทุกครั้งที่จัด คนจัดก็ไม่รู้ทำไง คนมีปัญหาก็คงไม่รู้ทำไงเหมือนกัน...




2

สวนสัตว์พาต้า!!!

ใครยังไม่เคยไป หรือเคยไปตอนเด็กๆ จำหน้าตาไม่ได้แล้ว เราว่าน่าจะลองไปดูอีกสักครั้ง

ค่าบัตร 60 บาท คงไม่ลำบากเกินไปกับเงินในกระเป๋า จำนวนสัตว์ยังคงมีหลายประเภทและมีหน้าตาแปลกๆเยอะพอสมควร ข้างในสวนสัตว์ก็นับว่าพอใช้ ถ้าไม่คิดถึงบรรยากาศ ที่ดูเป็นชาวบ้านๆ และสภาพอาคารที่ทรุดโทรมเล็กน้อยถึงปานกลาง

สวนสัตว์ แบ่งเป็น 2 ชั้น คือ ชั้น 6 และชั้น7 โดยต้องซื้อตั๋วที่ ชั้น 5 แล้วเดินขึ้นบันไดไป

ชั้น 6 เป็น ชั้นแสดงสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ที่อาศัยในที่มืด สัตว์เลื้อยคลาน ก็จะมีทั้ง งูหลากสี เต่าหน้าตาประหลาด จิ้งเหลน อีกัวน่า ตัวเงินตัวทอง ตัวโปรดของเราเป็นพี่เต่าหน้าโหดที่เหมือนออกมาจากโลกไดโนเสาร์ ส่วนสัตว์ที่อาศัยในที่มืด มีพวก นกเค้าแมว อีเห็น ค้างคาว ตัวอ้น(เพื่อนตัวตุ่น) ฯลฯ ชั้นเดียวพื้นที่ไม่มากนัก แต่เราก็ใช้เวลาเดินเกือบชั่วโมงเหมือนกัน

ชั้น 7 เป็นขั้นดาดฟ้าของห้าง มีกรงนก และกรงแสดงสัตว์ใหญ่ต่างๆ ค่อนข้างแน่นทีเดียว ขึ้นมาปุ๊ปจะเจอนกแก้วมาคอร์ นกกระตั้วพูดได้ด้วย ถัดไปก็จะเป็นสัตว์ใหญ่ขึ้น มี แพะ แกะ กระต่าย อยู่ในคอกเปิดโล่ง ร้อง แมๆแบะๆจี๊ดๆ ล่อใจเด็กๆ โดยข้างๆมีพนักงานขายผัก&ขนมปัง ล่อเงินในกระเป๋าของเรา เพื่อแลกกับความเพลิดเพลินขณะดูพวกมันกินอาหาร

ลิงในกรงมีหลายพันธ์ที่สีสวยดูประหลาด Highlight ของลิงก็จะเป็นอุรังอุตังแสนฉลาดที่ตบมือเสียงดังเวลาเห็นคน พอได้หนมปังมันไปนอนหมอบกินอย่างเรียบร้อยทีเดียว กับอีกตัวเด่นคือ คิงคอง โลโก้ของที่นี่ ซึ่งมีกระจกล้อมกรงไว้อีกชั้นหนึ่ง(เค้าบอกเพื่อควบคุมอุณหภูมิ และกันคนให้อาหาร)

หน้าสวนนก มีหมีหมาและหมีควาย อยู่ในบ่อ 2 ฟาก ลุกขึ้นยืน 2 ขา เมื่อเห็นคนเดินผ่าน และมีพนักงาน ขายหนมปังอยู่ข้างๆเช่นเดิม

โลโก้ของที่นี่อีกอย่างก็คือเพนกวิน ยังมีอยู่นะ เราเห็น 2 ตัว อยู่ในห้องแอร์ตู้กระจก ตัวหนึ่งนอนคว่ำทำท่าเหมือนพุ่งจรวดไม่กระดุกกระดิก(สงสัยแอร์จะหนาวจนแข็งตาย) อีกตัวหนึ่งยืนทำท่าน่ารักอยู่ พอเข้าไปใกล้ๆก็เดินตามด้วยอ่ะ ชอบๆ

สัตว์อื่นๆ ก็มีทั้ง เสือ กวาง เม่น กระจง กระแต นก อะไรเทือกๆนี้ แต่มีเยอะแล้วก็แปลกใช้ได้อยู่

เดินได้อีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ลมเริ่มแรง ดูท่าเหมือนฝนกำลังจะตก เราและคนอื่นๆเริ่มทยอยเดินลงด้านล่าง

ไม่มีใครอยากเปียกฝน…

ไม่มีตัวอะไรอยากเปียกฝนเหมือนกัน…





3

คุณสมบัติข้อหนึ่งของสิ่งมีชิวิต คือการปรับตัว(ตามสภาพแวดล้อม) เพื่อให้ชีวิตที่มีอยู่ สามารถยืดยาวต่อไป

ในสวนสัตว์... หมีพยายามทำท่าลุกขึ้นยืนเพื่อขอขนมปัง อุรังอุตังตบมือร้องเรียกให้คนหันมาสนใจ นก แกะ แพะ ต่างร้องเสียงดังเพื่อขออาหาร

ในเกาะ.... ผู้คนเรียนรู้ที่จะแสวงหาอาหารจากทะเล ขึ้นเรือท่องทะเลได้อย่างไม่มีอาการเมา

ในเมือง.... ผู้คนปรับตัวให้ชาชินกับควันพิษ รถติด อาหารจานด่วน


คนเราเป็นสิ่งมีชีวิต ที่สามารถปรับตัวได้ดีที่สุดในโลก แต่ก็มักไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ ที่ชีวิตเราพบอยู่เป็นอยู่ ทุกวัน

คนเมือง ส่วนใหญ่มีความสุข กับการได้ออกไปเที่ยวตามธรรมชาติ ทะเล น้ำตก ภูเขา

คนต่างจังหวัด ยังคงอยากเข้าเมือง ลองสัมผัสกับความทันสมัย เดินห้าง กินอาหารหรู ดูหนังในโรงพยายามหา“เงิน” เพื่อหาความสุขกับเทคโนโลยี ที่ไม่ค่อยได้สัมผัส

ความต้องการของคน 2 กลุ่ม บรรจบกัน กลายเป็นบริษัททัวร์ รีสอร์ท บ้านพัก บังกะโล ฯลฯ เจ้าของเกาะ ป้าแม่ครัว คนขับเรือนำเที่ยว คงเป็นตัวอย่างได้ดี



เป็นความโชคดี หรือโชคร้าย ของคนเราไม่รู้ ที่สามารถตัดสินใจย้ายตัวไปสัมผัส กับสิ่งที่เราไม่ได้เป็นอยู่ ตามที่ใจ(+เงิน) ต้องการจะไป เพราะมันก็ทำให้ความอยากของเราไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน



คงไม่มีสัตว์ชนิดไหนบนโลก ที่อยากหาความสุขในพื้นที่แคบๆ ในพื่นที่แอร์เย็นฉ่ำ แต่ไม่มีสีเขียวของต้นไม้ ไม่มีที่ให้วิ่ง บิน คลาน กลิ้ง เลื้อย เล่นๆ

เมื่อคนเราไปกำหนด ชีวิตของพวกมัน ให้มาอยู่ในกรงแคบๆ ที่แคบๆ เพื่อให้พวกเราชื่นชมกัน พวกมันก็คงทำได้แต่ปรับตัวเพื่อหาอาหารเพิ่มเติม เพิ่มความสุขให้ท้องของตัวเองไปวันๆ

สำหรับคนสิ่งสำคัญไม่ใช่การปรับตัว เพราะนั่นเป็นคุณสมบัติที่ธรรมชาติสร้างให้เรามีมาตั้งแต่เกิด ทำให้เราเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในการดำรงชีวิตอยู่รอด

แต่คุณสมบัติอีกอย่างที่ธรรมชาติให้เรามาเพื่อฝึกฝน และควรจะหัดเพิ่มเติมคือการ “ปรับใจ” ให้มีความสุขกับสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่มากกว่า

เลิกเบื่องานได้แล้วตัวตุ่น....




Create Date : 22 กรกฎาคม 2550
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 13:20:46 น. 8 comments
Counter : 1337 Pageviews.

 
มาเยี่ยมๆ


โดย: tirannor (tirannor ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:13:03 น.  

 
โอ......ทะเลสวยจังเลย

ส่วนตัวแล้วชอบไปทะเลมากๆ เวลาอยู่เงียบๆ..จะคิดอะไรดีๆได้หลายอย่างเชียว

วันหลังจะหาโอกาสไปค่ะ .. ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะคะ สารภาพว่าเคยได้ยินแค่เกาะมันนอกอย่างเดียวค่ะ แหะๆ


โดย: เค้กหอม วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:42:33 น.  

 
ไม่คุยกันนานเรย ขอบคุณที่ไปเยี่ยมสเปซ
พี่แชมปก็ยังเป็นพี่แชมป์ ที่พูดอะไรน่าฟังเสมอ
ไว้จะแวะมาอ่านบ่อยๆนะคะ


โดย: กอล์ฟเอง IP: 68.202.186.224 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:2:51:48 น.  

 
to กอล์ฟ

ขอบคุณมี่แวะมาเยี่ยม
ไม่ได้เจอกันนานจิงๆ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอสักที(อยากรู้ว่าทรงผมตอนนี้เป็นไง)
จะแวะไปอ่านสเปซ บ่อยๆเหมือนกัน


โดย: mole (mole_bury ) วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:7:23:00 น.  

 
เคาะระฆังให้มาทานข้าว !!!! แช่มเอ๊ยย มาทานข้าวเร๊วว แป๊งๆๆ!!!


โดย: Onc. วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:22:43:41 น.  

 
เหอๆ แวะมาอ่านคับ


โดย: ต่อ IP: 203.156.140.195 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:15:52:53 น.  

 
ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: boyo IP: 124.121.20.6 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:25:36 น.  

 
ดีคับ


โดย: boss IP: 124.121.20.6 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:27:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mole_bury
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิต ตุ่นๆ...
not good , not bad ,
not sad , not happy ,
not wealthy , not poor
....not sure I know myself
Friends' blogs
[Add mole_bury's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.