ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า มันจะจบแบบไหนแค่นั้นเอง
ผ่อนรถยนต์ชิลๆไป หรือ จะโปะหรือจะปิดบัญชีไฟแนนซ์ไปเลย (คุ้มไม่คุ้มมาดูกัน!!!)

ผ่อนรถยนต์ชิลๆไป หรือ จะโปะหรือจะปิดบัญชีไฟแนนซ์ไปเลย (คุ้มไม่คุ้มมาดูกัน!!!)
กระทู้นี้ เจ้าของกระทู้ตั้งใจแค่อยากแชร์ หลักการ หรือทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการคำนวณค่างวดรถยนต์ อัตราดอกเบี้ย
และส่วนลดที่ได้รับในการตัดสินใจหลังจากที่ได้ขอสินเชื่อมาแล้ว
การชั่งใจอยู่ว่าจะโปะดี หรือ จะ ผ่อนชิลๆดี หรือจะผ่อนทบดี
หรือ อาจเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังจะขอสินเชื่ออยู่ ณ ขณะนี้
กระทู้นี้ทำให้เห็นความต่างระหว่างเงื่อนไขในแต่ละข้อว่า ในแต่ละการตัดสินใจของคุณ มันมีผลกระทบต่อเงินในกระเป๋า ของคุณมากน้อยแค่ไหน  

สำหรับกูรูผู้รู้ทั้งหลาย หากท่านรู้และเข้าใจอยู่แล้วกระทู้นี้อาจถูกใจหรือไม่ถูกใจท่านต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ



คำอธิบายภาพประกอบ

รถยนต์ราคาสุทธิคือ 856,000 บาท
จริงๆแล้ว ในก้อนนี้จะมี VAT หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม อยู่ด้วยคือ  56,000 บาท
การคำนวณเพื่อถอด VAT ออกมานั้น  ใช้สูตรมาตรฐานก็คือ x 100   แล้ว ก็ หาร 107
แต่ในที่นี้ จขกท. รวบรัดก็คือ หาร  1.07 เลย ก็ได้ตัวเลขที่เท่ากัน

จะสั่งเกตุได้ว่า ไม่ว่าจะคำนวณแบบไหน ทั้งราคาก่อน VAT หรือ หลัง VAT
ผลการคำนวณ ค่างวดก็จะออกมาได้เท่ากันค่ะ 15,693.34 / งวด
ทั้งนี้ในช่องสีช่องซ้าย(สีส้ม) สามารถนำไปใช้กับเวลาคำนวณรถมือสองได้ด้วยค่ะ
เพราะราคารถยนต์มือสองที่ขายกันตามเต้นท์ก็ตาม หรือ ซื้อขายกันเองแล้วเอาไปเข้าไฟแนนซ์ก็ตาม
ส่วนใหญ่ เป็นราคาที่ยังไม่มี VAT ทั้งนั้นค่ะ

อย่างที่เข้าใจสินค้าที่ขายถูกต้องมีการเสียภาษีชัดเจน ก็ต้องเข้า ระบบ VAT7 % (ภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ซึ่งหลายๆ คนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับว่า ซื้อรถป้ายแดง เวลาผ่อนไม่ต้องบวก VAT แต่รถมือสองพอจัดไฟแนนซ์เวลาผ่อนแล้วต้องบวก VAT แต่ที่จริงแล้ว ทั้งสองอย่างก็ต้องมี VAT อยู่ด้วยเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะรวมให้คุณตอนไหน ซึ่งผู้บริโภคคนสุดท้ายมักจะถูกผลักภาระภาษีให้รับไปเสมอ
โดยส่วนใหญ่สถาบันการเงินจะเป็นผู้รับผิดชอบ เก็บ VAT จากผู้ขอสินเชื่อเอง



มาต่อนะคะ =>
หลายๆ คนเคยสงสัยและตั้งคำถามว่า บังเอิญเงินเดือนเกิดขึ้น หรือได้เลื่อนตำแหน่ง หรืองานมันเวิร์คมากทำให้รายได้ต่อเดือนมันเยอขึ้น จากที่เคยดีลค่างวดไว้ 15,693.34 / งวด อยากจะ โป๊ะแบบทบไปเลย เบิ้ลเลยว่างั้น แต่มันจะมีผลอะไรกับชีวิตคุณมั๊ย ลองมาดูกัน
ส่วนใหญ่สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ในการปล่อยสินเชื่อกับรถยนต์จะใช้ระบบดอกเบี้ยแบบคงที่
และในที่นี้ขอเอ่ยถึงแค่ อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่เท่านั้นนะคะ  
ซึ่งไม่ว่า จะโปะ จะโบก จะผ่อนเกิน มันไม่มีผลกับดอกเบี้ยแต่มันจะกระทบแท้ตอนท้ายแค่นั้น  
ถ้าอยากได้ส่วนลดดอกเบี้ย คุณสามารถทำได้โดยวิธีการปิดบัญชี
ซึ่งติดตามอ่านต่อไปนะคะ มีเขียนไว้ ท่อนกลางๆ

ตัวอย่าง 1
คุณผ่อนเดือนนี้เกินไปละ 1,000 บาท จาก ค่างวดปกติ         15,693.34  เป็น  16,693.34
ผลของมันคือ เดือนหน้าถ้าคุณชำระ เท่าเดิม    ที่ยอด      15,693.34  
และยังคงผ่อน ตามปกติไปเรื่อยๆ จนครบสัญญา
แต่งวดสุดท้าย (งวดที่ 60) คุณไม่ต้องจ่ายเต็มคะ คุณจะชำระแค่     14,693.34 เท่านั้น


ตัวอย่าง 2
คุณผ่อนเกินไปละ 1,000 บาท ทุกเดือน จาก ค่างวดปกติ 15,693.34  เป็น  16,693.34
ก็คือ
    1,000 x 60 งวด    =     60,000

สรุปคือคุณผ่อนเกินไป        60,000  บาท

เท่ากับว่า     คุณผ่อน     งวดที่ 57             =  15,693.34      ยอดเกินคงเหลือ 44,306.66
คุณผ่อน     งวดที่ 58                          =  15,693.34      ยอดเกินคงเหลือ 28,613.32
คุณผ่อน     งวดที่ 59                          =  15,693.34      ยอดเกินคงเหลือ 12,919.98
และงวด ที่ 60 คุณจะเหลือเพียงแค่         =  12,919.98          ปิดบัญชี


ตัวอย่าง 3
คุณผ่อนเดือนนี้ผ่อนขาดไป 1,000 บาท จาก ค่างวดปกติ         15,693.34  เป็น  14,693.34
ผลของมันคือ เดือนหน้าคุณก็ต้องชำระ                 เพิ่ม อีก 1000 ที่หายไป รวมเป็น     16,693.34  
หากคุณไม่ชำระ ยอดที่ค้าง
แต่สถานะบัญชีของคุณจะกลายเป็นค้างชำระ..........นะคะ
จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่าช้าเกิดขึ้น อันนี้ต้องระวัง (เก็บหรือไม่ มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน)
เพราะแต่ละสถาบันการเงินมีกฎของการติดตามทวงนี้ที่แตกต่างกัน ความยืดหยุ่นก็แตกต่างกัน
ดังนั้น สัญญากะเขาว่าจะผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ก็จ่ายเท่านั้น นะคะ ถ้าไม่อยากให้เกิดความยุ่งยาก

แต่ถ้าคุณ ผ่อนในเดือนถัดไป เป็นค่างวดปกติ             15,693.34
และยังคงไม่จ่ายที่คุณค้างเขาอยู่ 1,000 บาท
ยอดนี้ก็จะค้างไปในเดือนถัดไปและยังคงอยู่ตลอดอายุสัญญา ค้างไปเรื่อยๆ .........
จนกว่าคุณจะจ่ายส่วนที่ขาดให้เขาและจะมีผลทำให้การประวัติการชำระของคุณไม่ค่อยสวย
และส่งผลกับการขอสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคต





มาต่อกันค่ะ ====>



คืออันนี้ไม่ต้องสนใจ VAT นะคะ เอาแก่นแท้ของการคำนวณไปเลย
เพราะ (ยอดเงินต้น + ดอกเบี้ย ) x VAT 7% ก็เท่ากับยอด ข้างบนแหละค่ะ





คำอธิบายประกอบทางเลือกที่  2
ง่ายๆ คือ 60 งวด ผ่อนมา ครึ่งทางคือ 30 งวดทุกอย่าง หาร 2 เลยง่าย ๆ
จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ย คงเหลือ คือ     40,000
สถาบันการเงินส่วนใหญ่ กรณีผ่อนมาเกินกว่าระยะที่เขาอนุญาตให้เทปิดได้
(เงื่อนไขแบบละเอียดต้องสอบถามสถาบันการเงินเอง เพราะแต่ละที่ไม่เหมือนกัน)
ถ้าเทปิดหมดเลย เขาจะลดดอกเบี้ยคงเหลือให้ 50 %
ย้ำ ลดดอกเบี้ยคงเหลือ
ดังนั้น หากเทปิด ณ ตอนนี้ ที่ผ่อนมาแล้ว 30 งวด คุณจะต้องชำระเงินทั้งสิ้น
      =  400,000 + (40,000 ÷ 2)
    =  420,0000
รวมเงินที่ประหยัดได้  20,000 บาท







ทั้งนี้ก็ได้ข้อสรุปของตัวเลขไว้ให้ทุกท่านประกอบการตัดสินใจนะคะ ว่าแบบไหน ดี หรือไม่ดีเหมาะกับ สถานะการเงินหรือไม่
หรือแบ่งสรรค์บันส่วนให้เหมาะกับแต่ละช่วงจังหวะชีวิตคุณค่ะ
หากกระทูนี้มีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้นะคะ และ จขกท พร้อมเอาไปปรับปรุง หรือ แก้ไขข้อมูล เพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านต่อไปคะ



Create Date : 09 ตุลาคม 2557
Last Update : 9 ตุลาคม 2557 15:53:47 น. 0 comments
Counter : 3085 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tatumaa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




อยาก share ประสบการณ์ เกี่ยวกับเรื่องรถ
ในมุมมองของ " ผู้หญิง" บ้าง
อาจเป็นความชอบส่วนตัว
และอยากให้เพื่อนๆ รู้ว่าเรื่องรถ
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ "ผู้หญิง"
New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tatumaa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.