ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า มันจะจบแบบไหนแค่นั้นเอง
การโอนรถยนต์ ง่าย ด้วยตัวเอง

สวัสดีค่ะ...วันนี้ภูมิใจนำเสนอเรื่องราวสำหรับหลายๆ คนที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์ ทั้งจากซื้อต่อจาก ญาติ คนสนิท ต่าง ๆ หรือ ซื้อมาจากในอินเตอร์เน็ต ก็ตามแต่ พอจะไปโอน มันเกิดอาการกังวลจิตใจว่าจะต้องอย่างไร วันนี้อยากมา Share เรื่องราว ขั้นตอนการทำธุรกรรม การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ยังไม่รู้นะคะ
การโอนตั้มขอแบ่งเป็นหัวข้อ หลักๆ คือ
        1. โอน ตรง
        2. โอน ลอย

หลักฐานที่ใช้
•    ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
•    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผุ้มีอำนาจลงนาม
•    แบบคำขอโอนและรับโอน (กรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียนร้อยแล้ว)
•    หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ                            
       กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง

สถานที่ติดต่อ
    สำนัก งานขนส่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่
สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปราก ฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้

ขั้นตอนการดำเนินการ
•    นำรถเข้ารับการตรวจสอบ ที่งานตรวจสภาพรถยนต์ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)
•    ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และชำระค่าธรรมเนียม ที่งานทะเบียนรถ
•    รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน

หมายเหตุ การโอนกรรมสิทธิ์รถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท)

อ้างอิง: ขั้นตอนต่าง ๆ เข้าไปที่เวปไซด์ //www.dlt.go.th/th

วิธีที่ 1 การโอนกรรมสิทธิ์ ตรงกับเจ้าของ
    หลังจากทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จสรรพ ก็ทำธุระกรรมได้เลย วิธีนี้ทำได้ง่ายๆ โดยผู้ซื้อและผู้ขาย หรือ คนโอนกับคนรับโอน จับมือกันไปหวานแหววกระหนุงกระหนิงไปทำร่วมกันได้เลย  สามารถนำรถยนต์เข้าไปตรวจที่อาคารตรวจสภาพได้เลย
หมายเหตุ:  รถที่จะนำไปโอนกรรมสิทธิ์ได้นั้น ต้องมีสภาพตรงตาม คู่มือจดทะเบียน (เล่ม)  เช่นหากมีการติดตั้ง แก้ส NGV / LPG ก็ต้องแจ้ง แก้สลงในคู่มือให้เรียบร้อย แต่หากยังไม่ได้แจ้ง แต่มีเอกสาร สามารถดำเนินการพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ กรณีที่คล้ายคลึงกันก็เช่น เปลี่ยนสี ติดตั้งต่อเติมรถ เปลี่ยนเครื่องยนต์ เป็นต้นค่ะ
     ตำแน่งการเซ็นที่ถูกต้องคือ

ผู้ขายเซ็น ตรงที่ทำเครื่องหมายไว้


การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

ส่วนผู้ซื้อ เซ็น ตรงที่ทำเครื่องหมายไว้


การรับโอนกรรมสิทธิ์

ข้อดีของวิธีนี้คือ
      ผู้ขายมั่นใจได้ว่า รถคนนี้กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อทันที หากมีการปรับกรณีผิดวินัยทางจราจร หลังจากวันที่ทำธุรกรรม ไม่ต้องมาแบกความเสี่ยงเรื่องภาระต่างๆ  หรือ ภายหลังจากการขายแล้วไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์แล้วรถเกิดเป็นของกลางในการก่อคดีต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุ ยาเสพติด เจ้าของกรรมสิทธิ์ล่าสุดจะเป็นบุคคลแรกที่ทางตำรวจจะติดตาม เรียกตัวมาสอบถาม
ข้อเสีย
    ต้องเสียสละเวลาไปด้วยกัน ซึ่งระยะเวลาในการทำธุระกรรมทางทะเบียนขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ และจำนวนผู้ใช้บริการ ณ ขณะนั้นด้วย  แต่หากเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตัวเองได้ อาจจะมอบอำนาจให้คนที่ไว้ใจได้มาดำเนินการแทน แต่ระยะเวลาในการดำเนินการก็เท่าเดิม หรืออาจเลี่ยงไปใช้วิธีโอนลอยได้
ข้อปฏิบัตสำคัญของวิธีนี้
1.    กรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน เพราะว่าถ้าคุณกรอกไม่ครบทางเจ้าหน้าที่จะให้คุณไปกรอกใหม่แล้วค่อยมารับบัตรคิว
2.    ติด อากรแสตมป์กรณีมีใบมอบอำนาจ 10 บาท / 1 ใบมอบอำนาจ
3.    ตรวจดูวันหมดอายุของบัตรประชาชน เป็นสำคัญ
4.    ผู้ซื้อดูวันต่อภาษีด้วย หากภาษีหมดจะถูกบังคับให้ต่อภาษีก่อนจึงจะสามารถโอนได้
5.      ดูด้านหลัง สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่ม) หน้าบันทึก 18-19 ว่ามีการแจ้งขอใช้ในเขตพื้นที่ใด ต้องไปทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ ที่เขตพื้นที่รับผิดชอบนั้น
เช่น เจ้าของกรรมสิทธิ์ทะเบียนอยู่ต่างจังหวัด แต่ใช้รถยนต์ทะเบียน กรุงเทพต้องการทำเรื่องขอใช้ป้ายทะเบียนในกรุงเทพ แต่ต้องเลือกว่า จะใช้ในเขตใด

ตามรายการต้านล่างนี้
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1
1005 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150
โทร. 0-2415-7337

รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตบางขุนเทียน บางคอแหลม จอมทอง ธนบุรี ราษฎร์บูรณะ คลองสาน สาทร ทุ่งครุ บางบอน และยานนาวา
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2
51 ถนนสวนผัก แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170
โทร. 0-2882-1620-35


รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ หนองแขม พระนคร บางแค และ             ทวีวัฒนา

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3
ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1 2479 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
โทร. 0-2332-9688-91

รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตพระโขนง ประเวศ สวนหลวง คลองเตย บางนา วัฒนา และบางจาก
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4
34 หมู่ 6 ถนนร่วมพัฒนา แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ 10530
โทร. 0-2543-5500-2


รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว และคลองสามวา

กรณีไม่ได้ระบุว่าขอใช้ป้ายในเขตอื่น หรือจังหวัดอื่น ให้ดูตาม เขตหรือ จังหวัดในหน้าผู้ครองครอง คนสุดท้ายได้เลยค่ะ
ของต่างจังหวัด ดูข้อมูลได้ที่ //www.dlt.go.th/th/index.php?option=com_weblinks&view=category&id=54&Itemid=57

วิธีที่ 2 การโอนลอย
    วิธีนี้คำ ฮอตฮิตติดปาก ใครๆ ก็พูดๆกัน ว่าโอนลอย แล้วโอนลอยคืออะไร   โอนลอย คือการที่เจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม เซ็นผู้โอนไว้แต่ไม่ได้ระบุ ว่าจะโอนให้ใคร  โดยให้เอกสารสำหรับการโอนไปทั้งหมด
•    ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
•    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผุ้มีอำนาจลงนาม
•    แบบคำขอโอนและรับโอน
•    หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ   กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง

[b]ข้อควรระวังสำหรับวิธีโอนลอย[/b]
1.    ห้ามลงวันที่ในใบคำขอโอน
2.    ดูตำแน่งวันหมดอายุบัตร  โดยให้คุณประเมินดูว่าระยะเวลา ที่คุณจะไปดำเนินการโอนเมื่อใด มีเวลาพอก่อนวันบัตรหมดอายุหรือไม่
3.     ลายเซ็นในหน้าผู้ครอบครองสุดท้าย ได้เซ็นหรือยังและลายมือชื่อนั้นต้องตรงกับเอกสารที่ใช้กรอก
4.     ดูชื่อในเล่มทะเบียนและบัตรประชาชนตรงกันหรือไม่ หากไม่ต้องต้องขอเอกสารในการเปลี่ยนชื่อ มาประกอบด้วย
5.     ใบมอบอำนาจ เตรียมไว้เผื่อ 2 ชุด สำหรับการย้ายจังหวัดจะใช้ เพิ่มอีกชุดกรณีต้องการใช้รถในจังหวัดอื่นหรือออกทะเบียนเป็นพื้นที่อื่น
6.     กรณีเจ้าของรถเป็นช่าวต่างชาติ
               * ภาพถ่ายหนังสือเดินทาง ซึ่งได้รับการตรวจลงตราวีซ่าถูกต้องตามกฎหมาย
               * หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่หรือหนังสือรับรองการทำงานจากสถานฑูต กรมการกงสุล กองตรวจคนเข้าเมือง กรมการจัดหางาน หน่วยราชการอื่นๆ หรือองค์การระหว่างประเทศ
7.    เก็บสัญญาซื้อขายและสำเนาบัตรของผู้ขาย ไว้ตลอดอายุรถยนต์ เพราะหากมีการปรับกรณีผิดวินัยทางจราจร หลังจากวันที่ทำธุรกรรม ไม่ต้องมาแบกความเสี่ยงเรื่องภาระต่างๆ  หรือ ภายหลังจากการขายแล้วไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์แล้วรถเกิดเป็นของกลางในการก่อคดีต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุ ยาเสพติด เจ้าของกรรมสิทธิ์ล่าสุดจะเป็นบุคคลแรกที่ทางตำรวจจะติดตาม เรียกตัวมาสอบถาม คุณจะใช้สัญหาซื้อขายและ สำเนาบัตรของผู้ขายมาประกอบคำให้การได้

ตำแหน่งการเซ็นให้ถูกต้อง
สำหรับผู้โอน


การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์


ใบมอบอำนาจ

ใบมอบอำนาจ

เซ็นสำเนาบัตรประชาชน ให้เซ็นรับรองว่า "ใช้สำหรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ทะเบียน..............."




แบบคำขอต่างๆ ขอได้ที่
//www.dlt.go.th/th/eform/index.php
ในความเป็นจริงแล้วจะมีการโอนหลายแบบ เช่นการ โอนย้ายปลายทาง การโอนจากไฟแนนซ์มาผู้เช่าซื้อ หรือการซื้อที่เจ้าของเพิ่งปิดไฟแนนซ์มา ซึ่งมีหลายกรณี เอาไว้โอกาสหน้าจะมาเหลาให้อ่านใหม่นะคะ
ข้อมูลที่ให้หวังว่าเป็นประโยชน์กับคนอื่นไม่มาก็น้อยนะคะ ^ ^
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ



Create Date : 14 มีนาคม 2556
Last Update : 14 มีนาคม 2556 13:29:44 น. 0 comments
Counter : 213804 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tatumaa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




อยาก share ประสบการณ์ เกี่ยวกับเรื่องรถ
ในมุมมองของ " ผู้หญิง" บ้าง
อาจเป็นความชอบส่วนตัว
และอยากให้เพื่อนๆ รู้ว่าเรื่องรถ
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ "ผู้หญิง"
New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tatumaa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.