|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ซื้อบ้านแถว かっぱ橋
วันนี้ซื้อบ้านมาจริงๆ ซื้อ 2 หลัง
จากแถวๆ Kappabashi （かっぱ橋）. . . อิอิ
มาญี่ปุ่นคราวนี้ตั้งใจจะซื้อโมลทำมัฟฟินแบบที่เคยเห็นในหนังสือทำขนม
ญี่ปุ่นกลับไปซักอัน
เพื่อนเลยบอกให้ไปแถว Kappabashi
เป็นย่านขายอุปกรณ์เครื่องครัวแหล่งใหญ่ใกล้ๆอาซากุสะ
เราเพิ่งได้ยินชื่อย่านนี้ก็คราวนี้
- - -
นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Tawaramachi (俵町)
แล้วเดินไปสองบล็อกก็จะถึงหัวถนนชื่อ Kappabashidougugai（かっぱ橋道具街）
(ตรงนี้จะมีรูปหัวเชฟอันใหญ่ๆที่คงเคยเห็นบ่อยๆทางทีวี)
ถนนนี้ทั้งแนวประมาณสิบกว่าบล็อกขายแต่อุปกรณ์ทำครัวและร้านอาหารล้วนๆ
คล้ายๆย่านสำเพ็งบ้านเรา
อาจจะเป็นย่านที่ไม่น่าตื่นเต้นสำหรับคนทั่วไป
แต่ถ้าเป็นคนชอบทำอาหารแล้วละก็ คงเดินได้ทั้งวัน
- - -
แถวๆนี้มีตัว Kappa แอบอยู่ทุกซอกทุกมุม น่ารักดี
ไม่รู้ว่าเพราะอยู่ใกล้ๆย่านอาซากุสะหรือไง
เห็นฝรั่งเดินซื้อของเยอะมาก แบบเดี๋ยวนี้แกรู้แหล่งกันแล้ว
ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นย่านนักท่องเที่ยวไปได้
แต่ทางเทศบาลเค้าก็จัดทำแผ่นพับอย่างดี
มีแผนที่พร้อมชื่อร้าน แยกประเภทให้เรียบร้อย
ดูง่าย เจ๋งๆจริง ถ้าเป็นเรื่องโปรโมตร้านค้าในพื้นที่ต้องยกให้ญี่ปุ่น
ถ้าไปแถวนั้น อย่าลืมหยิบแผ่นพับอันนี้ มีวางให้หยิบอยู่ทั่วไป
- - -
ขนาดเราไม่ได้ชอบทำอาหารเป็นพิเศษ แต่ก็เดินเพลิน
เปลี่ยนบรรยากาศจากย่านแฟชั่นคือชีวิตอย่างโอโมฯ ชิบุย่า และชินจูกุบ้าง
(ชีวิตมันมีอะไรให้ทำอีกหลายอย่างนอกจากแต่งตัวนี่เนอะ)
วันนี้เลยรู้สึกดี ได้ไปสูดอากาศแบบบ้านๆ ย่านคนอยู่จริงแถวคัปปะบาชิบ้าง
ร้านที่เรามุดเข้ามุดออกนานที่สุดคือ ร้านขายอุปกรณ์ทำขนม กับ
ร้านขายที่ห่อขนม น่ารักสุดๆ นอกนั้นก็เดินๆผ่านๆ
- - -
นอกจากตรงถนนสายหลัก Kappabashidougugai
ถนนเล็กๆตามตรอก ซอกซอยแถวนั้นก็น่ารักดี
ให้กลิ่นอายแบบเมืองเก่า มีร่องรอยของเวลา และชีวิตปรากฏให้เห็น
เดินผ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ คนแถวนั้นก็แน่นอนอายุเฉลี่ยมากกว่าย่านเด็กๆ
อย่างชิบุย่าเยอะอยู่ แต่ก็เป็นมิตรดี น่ารักจริงๆ
- - -
ย่านอาโอยาม่า และย่านฮิปซี่อื่นๆอาจจะเป็นย่านของคนทำศิลปะ
แต่แถวๆอาซากุสะ และคัปปะบาชิ คือ ศิลปะไปแล้ว (นะเราว่า)
เดินเล่นแถวๆคัปปะฯเสร็จ ก็เลยต่อไปวัดเซนโซจิ
(หลังจากพบโดยไม่ตั้งใจว่าอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่)
ก็แวะไปจุดเดิมๆ ไปดูโคมไฟ Kaminarimon （雷門）
เดินผ่านถนนขายของที่ระลึก Nakamise （仲見世）
แล้วเลยเข้าไปในตัววัด Sensouji（浅草寺）
ถึงจะเป็นที่ๆเคยมาแล้ว แต่ได้กลับมาอีกก็ยังรู้สึกดีเหมือนเดิม
ไปแถวนั้นแล้วได้กลิ่นไอ และสปิริตของญี่ปุ่นยังไงบอกไม่ถูก
เดินไปยังนึกถึงการ์ตูนอันโดนัทส์อยู่เลย ไม่รู้มีร้านอยู่จริงป่าว
เดินเสร็จก่อนกลับ ก็แวบเข้าไปกินโซบะซะหน่อย
(มีคนย้ำว่า ไปแถวอาซากุสะต้องกินโซบะเลยกินมันทั้งแห้ง ทั้งน้ำเลย)
เฮ้อ . . . เป็นวันที่รู้สึกดีอีกวัน
- - -
ปิดท้ายด้วย Kaminarimon (雷門) แห่งวัด Sensouji （浅草寺）
ที่ยังขลังเหมือนทุกครั้งที่เห็น . . .
ปล. วันนี้เขียนยาวเลย ^-^
| Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2553 |
| Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2553 21:10:20 น. |
|
5 comments
|
| Counter : 951 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ชูโฮ_มารู  วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:21:12 น. |
|
|
|
| โดย: เก่ง (keng_toshi ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:42:33 น. |
|
|
|
| โดย: fonkoon วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:10:11:15 น. |
|
|
|
| โดย: fonkoon วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:9:40:10 น. |
|
|
|
| โดย: nanida วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:9:01:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
บ้านหลังใหม่สินะ อิอิ