Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
แซมบ้า..ลาแล้ว



บางครั้งฟุตบอลมันก็น่าแปลกที่เกิดเหตุซ้ำๆ กัน อย่างไม่น่าเป็นไปได้ 

        เฉกเช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมชาติบราซิล..

        ไม่มีใครเชื่อว่าทีมที่ยิ่งใหญ่อย่างพลพรรคแซมบ้า จะต้องตกมาตายในศึกโกปา อเมริกา สองหนหลังด้วยน้ำมือของ ปารากวัย

        หนำซ้ำมันเกิดขึ้นในรอบเดียวกันคือรอบ 8 ทีมสุดท้าย และที่เหมือนกันคือทั้งสองครั้งที่บราซิล พ่าย เป็นการดวลจุดโทษทั้งสิ้น

        เรื่องแปลกแต่จริง ทว่ามันก็เกิดขึ้นแล้ว

        ย้อนรอยไปเมื่อสี่ปีก่อน ในศึกโกปา อเมริกา ที่อาร์เจนตินา ทั้ง ปารากวัย กับ บราซิล เจอกันตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ผลลงเอยด้วยการเสมอกัน 2-2

        จากนั้นเส้นทางของทั้งสองทีมต้องโคจรมาห้ำหั่นกันอีกครั้งในรอบก่อนรองชนะเลิศ ปรากฏว่า แซมบ้า เจาะประตูไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน พลพรรคเซเลเซา 4 ราย ยิงไม่เข้าเลย ก่อนที่ ปารากวัย เอาชนะไปได้ 2-0 ในการดวลโทษ จนก้าวเข้าไปถึงตำแหน่งรองแชมป์ในบั้นปลาย
มาถึงปี 2015 ที่ชิลี ทั้งคู่ต้องปะทะกันอีกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิล ที่ไร้เงาของ เนย์มาร์ ซึ่งโดนแบนยาว 4 นัด จากการโดนไล่ออกในเกมปราชัย โคลอมเบีย ถูกมองว่าเหนือกว่าทาง "ลา อัลบีร์โรฆา" ทีมชาติปารากวัย

กระนั้นเมื่อปะทะกันจริง แม้ บราซิล ได้ประตูขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วในช่วง 15 นาทีแรกจาก โรบินโญ่ ตัวรุกจอมเก๋าวัย 31 ปี ที่รับใช้ชาติเป็นนัดที่ 99 แต่ตราบใดที่ประตูที่สองไม่มา ปารากวัย ทีมนี้ยังอันตรายเสมอ

        "ลา อัลบีร์โรฆา" เคยแสดงให้เห็นมาแล้วในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มที่ไล่ตีเสมอ อาร์เจนตินา ทีมเต็งหนึ่ง 2-2 ทั้งที่โดนนำห่างถึง 2-0

        ขณะที่เกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่ต้องเจอกับ อุรุกวัย แชมป์เก่านั้น ปารากวัย โดนออกนำไปก่อน แต่ตามทวงคืนได้ แล้วเก็บหนึ่งแต้มล้ำค่าช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบมาด้วยสถิติไม่แพ้ใคร

        เกมกับ บราซิล นั้น ราม่อน ดิอาซ เทรนเนอร์วัย 55 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ ปรับทัพด้วยการเรียก โรเก้ ซานตา ครูซ กองหน้ากัปตันทีม กลับคืนตัวจริงอีกครั้งแทนที่ ลูคัส บาร์ริออส

        นอกจากนั้นยังให้ เดร์ลิส กอนซาเลซ ปีกขวาวัย 21 ปี จากสโมสรบาเซิ่ล ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแทน ราอูล โบบาดีย่า

        ตรงจุดนี้ถือเป็นการปรับที่ลงล็อกอย่างยิ่ง ซานตา ครูซ อาศัยรูปร่างสูงใหญ่ขึ้นโหม่งชงบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี

        แต่ที่ต้องชมอย่างมากคือตัวริมเส้นของปารากวัยทั้ง เอ็ดการ์ เบนีเตซ ที่มีความเร็วจัดจ้านทางด้านซ้าย สร้างอันตรายได้มาก ส่วนทางขวา เดร์ลิส กอนซาเลซ โดดเด่นในครึ่งหลัง มีครบทั้งสปีด, ความคล่องตัว และ จบสกอร์ได้ดีอีกด้วย

        แผงหลังของบราซิล ลอยขึ้นสูงเมื่อไหร่ โดนความเร็วของทั้งคู่เล่นงานตลอด แม้แนวรับแซมบ้า จะรูปร่างสูงใหญ่ แต่ยามโดนโยนใส่ ก็รับมือลำบาก

        ปารากวัย ใช้จุดแข็งของตัวเองอย่างเห็นผล แล้วสุดท้ายก็มาได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังประสบการณ์สูงของบราซิล ขึ้นโหม่งสกัดไม่ถึง ดันไปใช้มือปัดบอล เพราะกลัว โรเก้ ซานตา ครูซ จะชิงเล่นบอลได้ ส่งผลให้ อันเดรส คุนญ่า ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัย ไม่มีทางเลือก เป่าจุดโทษทันที
        คนสังหารเป็น เดร์ลิส กอนซาเลซ ที่แม้อายุน้อยแค่ 21 ปี แต่ใจนิ่งเป็นหิน ซัดเข้าไปอย่างเฉียบขาดตีเสมอให้ทีมเป็น 1-1 เรียกกำลังใจกลับมาให้พลพรรคทีมแดง-ขาว ได้มหาศาล แล้วกลับมาทำเกมได้เหนือกว่าในช่วง 20 นาทีสุดท้าย จนเกือบได้ประตูชัยด้วยซ้ำไป

ช่วงดวลจุดโทษมันวัดใจ 50-50 ก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าความกดดันต้องอยู่กับทีมเต็งอย่าง บราซิล มากกว่าอยู่แล้ว

        แล้วสุดท้ายมันเป็น ปารากวัย ที่ยิงได้เด็ดขาดกว่าชนะไปในช่วงการดวลเป้า 4-3 ย้ำแค้นให้พวกแซมบ้า น้ำตานองหน้ากันอีกครั้ง

        คาร์ลอส ดุงก้า เทรนเนอร์ชาวบราซิลวัย 51 ปี ออกมาเปิดใจหลังเกมว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมของเขาต้องตกรอบ เนื่องจากมีผู้เล่นถึง 15 ราย มีอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัส ทำให้ซ้อมได้ไม่เต็มที่ และสภาพร่างกายไม่พร้อมทำการแข่งขัน พร้อมอ้างว่าบางคนถึงขั้นอาเจียนด้วยซ้ำ

        ทว่าต้องยอมรับกันว่าเกมอันมีชีวิตชีวา มันขาดหายไป ยามไม่มี เนย์มาร์ และแน่นอนว่าประสิทธิภาพความเด็ดขาดมันถูกลดทอนลงไปค่อนข้างมากด้วย

        มันเป็นบทเรียนชั้นดีที่ ดุงก้า ต้องนำไปแก้ไข

        การเก็บชัยมา 11 นัดติดจากทุกรายการ ก่อนพลาดท่าปราชัย โคลอมเบีย ในรอบแบ่งกลุ่มของศึกโกปา อเมริกา ครั้งนี้ ไม่ได้ช่วยอะไร หากทีมไปไม่ถึงดวงดาว
        เป้าหมายของบราซิล มีเพียงสิ่งเดียวคือตำแหน่งแชมป์ หากพลาดท่า ไม่ว่ารอบไหนๆ มันคือความล้มเหลวทั้งสิ้น
        สำหรับ ปารากวัย พวกเขาสร้างผลงานดีและต่อยอดความสำเร็จจากเมื่อสี่ปีก่อนได้
        จาก เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ เมื่อสี่ปีก่อน มาถึงมือของ ราม่อน ดิอาซ ในเวลานี้ ปารากวัย ไม่ได้เสียสมดุลเลย พวกเขายังเป็นทีมที่ใครก็ประมาทมิได้

รอบตัดเชือกกับ อาร์เจนตินา จะเป็นการรีแมตช์กันอีกครั้ง หลังจากเสมอกันมาในรอบแบ่งกลุ่ม ชนิดที่ผู้เล่นฟ้าขาว หัวเสียกันทั้งทีม ถึงขั้น เมสซี่ ไม่ยอมรับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมดังกล่าวด้วยซ้ำไป

        อย่างไรก็ตามเวลานี้ 4 ทีมในรอบรองชนะเลิศ ทั้ง ชิลี, เปรู, อาร์เจนตินา และ ปารากวัย นั้นมีกุนซือเป็นชาวอาร์เจนไตน์ทั้งหมด มันเป็นการบ่งบอกว่าเทรนเนอร์ฟ้าขาว มีฝีไม้ลายมือเป็นอย่างไร พรุ่งนี้คงได้มาคุยถึงเรื่องนี้กัน..

> KIM KON-DEE

ข้อมูลจาก //www.siamsport.co.th/



Create Date : 01 กรกฎาคม 2558
Last Update : 1 กรกฎาคม 2558 22:28:23 น. 0 comments
Counter : 336 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.