ทีมที่ดีย่อมต้องหาทางพบกับชัยชนะได้เสมอ...

        วลีนี้ใช้ได้ดีกับทีมชาติบราซิลยามนี้ที่ไร้หัวหมู่ทะลวงฟันอย่าง เนย์มาร์

        ดาวยิงแซมบ้าที่ฟิวส์ขาดโดนไล่ออกในเกมพ่ายโคลอมเบีย หลังไปเตะบอลอัดใส่แผ่นหลังของ ปาโบล อาร์เมโร่ แบ็กซ้ายโคลอมเบีย ทำให้นักเตะคู่แข่งไม่พอใจเข้ามารุมต่อว่า ก่อน เนย์มาร์ ยั้งอารมณ์ไม่อยู่ใช้ศีรษะโขกใส่ เฮยซอน มูรีโญ่ จนส่งผลให้โดนใบแดงไล่ออกและถูกแบนยาว 4 นัด เริ่มชดใช้โทษไปแล้วในเกมที่บราซิลเชือด เวเนซุเอลา 2-1 นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

แม้ไม่มีกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมไปตลอดทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งบราซิล (ซีบีเอฟ) ตัดสินใจยกเลิกแผนการยื่นอุทธรณ์โทษแบน 4 เกมของเนย์มาร์ แต่เซเลเซายังทำได้ตามเป้าผงาดครองแชมป์กลุ่มบีตบเท้าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเข้าชนปารากวัยต่อไป

        ต้องชม คาร์ลอส ดุงก้า ที่เลือกใช้งานจอมเก๋าอย่าง โรบินโญ่ ลงมาเล่นในแนวรุกแทน เนย์มาร์ ซึ่งดาวเตะวัย 31 ปี จากสโมสรซานโตส อาศัยประสบการณ์ผนึกกำลังกับ วิลเลี่ยน ช่วยกันเปิดเกมรุกให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เข้าทำประตูได้อย่างอันตราย

ขณะเดียวกันแนวรับเมื่อได้ ติอาโก้ ซิลวา บัญชาการเกมดูแน่นขึ้นมาก อีกทั้งยังอันตรายยามขึ้นไปเล่นลูกเซตพีซและลูกเตะมุมด้วย

        ประตูขึ้นนำที่ซิลวาทำได้ตั้งแต่นาทีที่ 9 ช่วยปลดล็อกให้พลพรรคแซมบ้าเล่นได้อย่างมีอิสระมากขึ้นไร้ซึ่งความกดดัน และเมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มาตอกย้ำลูกสองในช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้ทุกอย่างเข้าทางบราซิลไปหมด

        จนกระทั่งประตูของ นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" ในช่วงท้ายเกมนั่นแหละที่ทำให้แนวรับแซมบ้าต้องทำงานกันหนักเพื่อปิดเกมนี้ให้ได้

ถึงตรงนี้สถานะเต็งสองของพวกเขายังอยู่ แม้จะไร้ดาวยิงชั้นยอด แต่คนอื่นๆ ช่วยกันยกระดับผลงานกันขึ้นมา โดย คาร์ลอส ดุงก้า เทรนเนอร์ทีมชาติบราซิลเผยถึงเรื่องนี้ว่า "เนย์มาร์ มีความสำคัญต่อทีมมาก"

        "เมื่อเขาไม่อยู่ในทีม คุณก็ต้องหาทางคว้าชัยชนะเอาเอง"

        "เราต้องทำให้มั่นใจว่าทีมไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับผู้เล่นเพียงคนเดียว เราพยายามที่จะทำให้ทุกคนสามารถสร้างความแตกต่างได้"

        "เราเชื่อว่าจะเล่นกันได้ดีขึ้น เราจะใช้คุณภาพของเทคนิคการเล่นของเราให้มากขึ้น"

        "โกปา อเมริกาเป็นการแข่งขันที่ยากมาก เพราะแต่ละเกมตัดสินกันแค่เพียงประตูเดียวแทบทั้งสิ้น"

        "มีเพียงแค่ชิลีชาติเจ้าภาพที่ฟอร์มเข้าฝักกว่าทีมอื่นๆ"

        ต่อข้อซักถามถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ต้องปะทะกับปารากวัยนั้น ดุงก้าแย้มว่า "ผมคิดว่าปารากวัยเป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีโค้ชที่มีแท็กติกหลากหลาย"

        "พวกเขาโชว์ฟอร์มให้เห็นแล้วในการเสมอกับอาร์เจนตินา รอบแบ่งกลุ่ม"

        "เมื่อมาถึงรอบน็อกเอาต์แบบนี้แล้ว มันไม่มีที่ว่างให้ผิดพลาดอีกแล้ว"

> KIM KON-DEE

ข้อมูลจาก //www.siamsport.co.th/