3 เดือนโลกขายโทรศัพท์มือถือ 444 ล้านเครื่อง

ไอดีซีเผย ไตรมาส 3 ปี 2012 โลกจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น 444 ล้านเครื่อง โดย 40% ในจำนวนนี้เป็นสมาร์ทโฟน ประเมินอัตราเติบโตตลาดสมาร์ทโฟนทะลุ 45% ขณะที่อัตราเติบโตตลาดสมาร์ทโฟนทั่วไปอยู่ที่ 2.4% เท่านั้น

นอกจากนี้ ไอดีซียังยืนยันว่าโนเกียตกชั้น 5 อันดับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกเรียบร้อย โดยตัวเลขชี้แนวโน้มว่าเอชทีซีก็มีโอกาสแซงหน้าผู้ผลิตแบล็กเบอรี่อย่างริมเช่นกัน

***ยันโนเกียหลุดโผ***

สำนักวิจัยไอดีซีทำการสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนโลกช่วงไตรมาส 3 ปี 2012 (กรกฎาคม-กันยายน) พบว่าซัมซุงยังคงเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนโลกที่สามารถจัดส่งสมาร์ทโฟนได้มากที่สุด รองลงมาคือแอปเปิลซึ่งสามารถทำสถิติใหม่ได้ตามคาดหมาย แต่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกนั้นไม่ใช่โนเกียอีกต่อไป กลับเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่อย่างริม (Research In Motion) แทน

ขณะที่อันดับ 4 กลายเป็นยักษ์ใหญ่แดนมังกรอย่างแซดทีอี ซึ่งแซงหน้าเอชทีซีไปได้ฉิวเฉียด

โนเกียนั้นเคยเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกมาก่อน การตกอันดับท็อป 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโลกของโนเกียจึงกลายเป็นเรื่องที่ฮือฮามาก โดยเฉพาะการตกชั้นครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไอดีซีสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2004

เรื่องนี้ นักวิเคราะห์ไอดีซีเชื่อว่าช่วงเวลาที่โนเกียตัดสินใจออกห่างจากระบบปฏิบัติการซิมเบียน มาผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนนั้นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสงดงามให้คู่แข่งแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากโนเกียอย่างต่อเนื่องตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวมยังไม่น่าเป็นห่วงนัก เพราะตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนั้นยังใหม่และมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งแปลว่ายังมีพื้นที่ว่างสำหรับผู้ค้าหรือระบบปฏิบัติการอื่นในการทำตลาดอีกมาก รวมถึงโนเกียที่มีโอกาสตีตื้นในไตรมาสอื่นเช่นกัน

***ลุ้นแซดทีอีแซงริม***

ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่เติบโตก้าวกระโดดสูงที่สุดในไตรมาสที่ผ่านมาคือแซดทีอี ไอดีซีพบว่าผู้ผลิตสัญชาติจีนรายนี้ครองส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นจนครองตำแหน่งอันดับ 4 ของตาราง ด้วยสถิติส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 4.2% แถมยังมีแนวโน้มเติบโตเกินหน้าอันดับ 3 ที่มีส่วนการตลาดไล่เลี่ยกันอย่างริม โดยริมมีส่วนแบ่งราว 4.3%

ขณะเดียวกัน การขึ้นมาของแซดทีอียังทำให้ผู้ผลิตไต้หวันอย่างเอชทีซีเลื่อนไปอยู่อันดับ 5 หลังจากเคยอยู่อันดับ 4 มาก่อน

ข้อมูลจากไอดีซียังชี้ว่าซัมซุง ยักษ์ใหญ่กิมจินั้นครองอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกด้วยสัดส่วน 31.3% นำหน้าแอปเปิลที่ทำได้ 15% โดยช่วงเวลาที่ไอดีซีเก็บข้อมูลนี้ครอบคลุมช่วงหลังการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ iPhone 5 เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ทำให้ตัวเลขส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลในไตรมาสที่ผ่านมาไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร

ทั้งหมดนี้ไอดีซีวิเคราะห์ว่าสาเหตที่ทำให้ซัมซุงสามารถทำยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนได้บนอัตราการเติบโตต่อปีมากกว่า 100% นั้นเป็นเพราะการนำเสนอสินค้าหลากหลายระบบ ทั้งแอนดรอยด์และวินโดวส์โฟน ขณะเดียวกันก็แบ่งย่อยรุ่นตามกลุ่มตลาดที่มีกำลังซื้อต่างกัน ทำให้สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ถึง 56.3 ล้านเครื่องในเวลา 3 เดือน

ขณะที่แอปเปิลซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ไอโฟนรายเดียวนั้นมีอัตราการเติบโตต่อปี 57% โดยจัดส่งสมาร์ทโฟน 26.9 ล้านเครื่องไปทั่วโลกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จุดนี้หลายส่วนเชื่อว่าส่วนแบ่งตลาดไอโฟนในไตรมาสปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ผลจากไอโฟนรุ่นใหม่ iPhone 5 ที่มียอดจำหน่ายทะลุ 5 ล้านเครื่องในช่วงสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย

แซดทีอีนั้นมีอัตราเติบโตต่อปีน่าประทับใจที่ 82.9% สวนทางกับโนเกียที่ดำดิ่งลงจนเห็นได้ชัดจุดนี้นักวิเคราะห์ชี้ว่าส่วนแบ่งตลาดของโนเกียที่ลดลงนั้นสะท้อนว่าคู่แข่งกำลังมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น และแซดทีอีเป็นหนึ่งในนั้น

อย่างไรก็ตาม หากรวมตลาดสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือทั่วไปเข้าด้วยกัน จะพบว่าโนเกียยังคงเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออันดับ 2 ของโลก ข้อมูลระบุว่าโนเกียครองส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือโลก 18.7% นำหน้าแอปเปิลที่มีส่วนแบ่ง 6.1% แต่ต่ำกว่าซัมซุง ซึ่งครองอันดับ 1 ในตารางบนส่วนแบ่งการตลาด 23.7%

จุดนี้นักวิเคราะห์ชี้ว่าเป็นอานิสงส์ของการลงทุนในตลาดเกิดใหม่หรือ emerging market ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม โนเกียก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือทั่วไปลดลง 22% สวนทางกับซัมซุงที่มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 20%

***ตลาดมือถือเติบโต 2.4%***

ในภาพรวม ไอดีซีพบว่ายอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโลกนั้นเพิ่มขึ้น 2.4% ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา เบ็ดเสร็จแล้วพบว่าโทรศัพท์มือถือ 444 ล้านเครื่องนั้นถูกจำหน่ายในท้องตลาดช่วงกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนราว 10 ล้านเครื่อง (จากเดิม 434 ล้านเครื่อง)

เฉพาะสมาร์ทโฟน ไอดีซีพบว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทดฟนในท้องตลาดตลอด 3 เดือนคือ 179.7 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของตลาดโทรศัพท์มือถือรวม โดยตัวเลข 179.7 ล้านเครื่องนี้คิดเป็นอัตราเติบโต 45.3% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ไอดีซีเคยพยากรณ์ไว้ 0.1%

//www.manager.co.th/Cyberbiz/

​

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2555 Last Update : 1 พฤศจิกายน 2555 12:01:09 น. Counter : 441 Pageviews.		0 comments
Share Tweet