สำหรับท่านที่บำเพ็ญตนซึ่งปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ คนที่ปรารถนาพุทธภูมินี่ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล สำหรับท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ เป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการรื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข
ฉะนั้น ขณะใดที่กำลังใจปรารถนาพุทธภูมิ จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ว่าทุกข์ของชาวประชาทั้งหลาย เป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้ หมายความว่า เราจะทุกข์แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่องของเรา ไม่มีความสำคัญ จิตใจของเรานั้นเราคิดว่าเราจะพ้นทุกข์ได้ เพราะว่าเราช่วยเหลือความสุขแก่บรรดาประชาชนที่มีความทุกข์ ถ้าเราเปลื้องทุกข์ของเขาได้ เราก็เป็นคนหมดทุกข์ เราสร้างให้เขาเป็นคนมีความสุขได้ เราก็เป็นคนมีความสุข จิตใจของพระโพธิสัตว์มีอารมณ์อย่างนี้
แต่ทว่าท่านให้เป็นไปตามบารมี เพราะว่าบารมีของพระโพธิสัตว์นั้น ถึงแม้จะเป็นการเริ่มต้นแห่งการปรารถนาพุทธภูมิ กำลังใจที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาปรานีก็จะมีบริษัทมาก จะมีพวกมาก จะมีบริวารมาก การมีพวกมาก การมีลูกน้องมาก การมีบริวารมาก เป็นการฝึกกำลังใจของนักปฏิบัติเพื่อพุทธภูมิ เพื่อจะได้ซ้อมกำลังใจของเราว่ามีความหนักแน่นเพียงใด ถ้าจิตของเรามีความท้อถอย นั่นหมายความว่ากำลังใจการจะก้าวไปหาพุทธภูมิยังมีกำลังอ่อนมาก
นักปรารถนาพุทธภูมิจะต้องมีทั้ง ขันติ และ โสรัจจะ
- ขันติ มีความอดทนต่อความยากลำบากทุกประการ เพื่อความสุขของปวงชน
- โสรัจจะ แม้จะกระทบกระทั่งที่ทำให้ใจตนให้ไม่สบายเพียงใดก็ตาม ก็ทำหน้าแช่มชื้นไว้เสมอ
นี่เป็นก้าวแรกสำหรับพุทธภูมิ ท่านผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ แต่ทว่ากำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่จะเว้นไม่ได้ นั่นคือ พระนิพพาน จงอย่าคิดว่าถ้าจิตเราเกาะพระนิพพานแล้ว ความเป็นพุทธภูมิจะหายไป ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องถือว่าเป็นผู้มีกำลังใจต่ำ ก้าวไม่ถึงก้าวสำคัญของพุทธภูมิ
พุทธภูมิ จะต้องมีความรู้สึกอยู่เสมอว่า เราเป็นผู้ที่ต้องการพระนิพพาน อารมณ์ใดที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงแนะนำในด้านวิปัสสนาญาณ ต้องเกาะให้ติด และมีกำลังใจใช้ปัญญาพิจารณาไว้เสมอ เพื่อความสุขของจิต เพื่อปัญญาเลิศ
นอกจากนั้นแล้วก็มีจิตตั้งไว้เสมอว่า ถ้าหากจิตของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อไหร่ เมื่อนั้นบารมีของเรานี้ไซร้จะเข้าเต็มเปี่ยมในขั้นพุทธวิสัย ชื่อว่าการปรารถนาพระโพธิญาณของเรานี้เข้าถึงแน่ แต่ว่าการที่เราจะเข้าพระนิพพานคนเดียว เราไม่เข้า มองใจเข้าไว้ว่า บุคคลใดที่มีความทุกข์ในโลกที่ยังมีความฉลาดไม่พอ บุคคลนั้นเราเองจะเป็นผู้อุ้มเขาไปสู่แดนเอกันตบรมสุข คือพระนิพพาน
อันนี้เป็นกำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ (๑๙๒/๒๕๔๐)