Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

เคล็ดลับกระชับชีวิตคู่





หากคุณยอมยกให้ความสัมพันธ์ฉันสามี-ภรรยามีความสำคัญเป็นอันดับแรกสิ่งดีๆจะเกิดกับตัวคุณเองและลูกๆอย่างคาดไม่ถึง

นอรา เอฟรอน นักแต่งนิยายและนักเขียนบทภาพยนตร์ชื่อดังเคยเขียนไว้ว่า "การมีลูกเปรียบเสมือนการจุดชนวนระเบิดใส่ชีวิตคู่ และเมื่อฝุ่นควันจากดินระเบิดจางลง ชีวิตคู่นั้นจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป"

พ่อแม่หลายคู่ มีความใส่ใจในลูกๆอย่างล้นเหลือ แต่ไม่ค่อยไยดีในกันและกันเท่าที่ควร และเมื่อเวลาผ่านไป จุดสนใจที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้อาจส่งผลในทางลบ ต่อให้เป็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่นที่สุดก็คงจะไม่รอด
การรักษาความสัมพันธ์กับคู่ชีวิตให้คงความแข็งแกร่ง คือสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่ควรทำเพื่อลูกๆของคุณเองและจะได้เป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจะหล่อหลอมให้พวกเขามีชีวิตคู่ที่ดีตามไปด้วยเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ถึงจะเป็นเรื่องควรทำ แต่ก็ยากที่จะทำให้สำเร็จ อุปสรรคอันดับแรกคือความเหน็ดเหนื่อยของเราเอง หลังจากวิ่งวุ่นทำอะไรหลายๆอย่างตามเสียงเรียกร้องของลูกมาทั้งวัน ใครจะมีพลังเหลือสำหรับเรื่องโรแมนติกกันอีกเล่า....เมื่อมีลูกคุณจะรู้สึกว่าจู่ๆก็มีคนสำคัญในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน และจะทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีให้กับการเป็นแม่ ในบางครั้งคุณกับสามีจึงทำตัวเหมือนเป็นเพียงเพื่อนร่วมบ้านที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตน้อยร่วมกัน


ความสัมพันธ์ที่มั่นคง....สำคัญเพียงใด

คุณต้องพยามยามคิด(และทำ)ให้ได้ว่าความสัมพันธ์กับคู่ชีวิตคือเรื่องสำคัญที่สุด และสำคัญกว่าความสำคัญความสัมพันธ์กับลูกๆเสียอีก แล้วทุกคนในครอบครัวจะได้รับประโยชน์จากความพยายามของคุณ
การให้ความสำคัญกับลูกเป็นอันดับรองอาจฟังดูโหดร้ายอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจในความต้องการของลูกๆ และแม้ว่าความสัมพันธ์บางอย่างจะถูกละเลยไปตามธรรมชาติในช่วงปีแรกๆหลังลูกเกิด ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะทำอะไรเล็กๆน้อยๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้สิกถึงอีกฝ่ายและลูกๆว่าคุณให้คุณค่ากับความสัมพันธ์ในชีวิตคู่มากเพียงใด

คุณก็ทำได้...ไม่ยากอย่างที่คิด

สนใจอย่างอื่นที่ไม่ใช่ลูกบ้าง

คุณและสามีอาจสอนลูกๆให้เข้าใจว่า พ่อแม่จะไม่ยอมละทิ้งสิ่งที่กำลังทำทุกครั้งที่พวกเขาเรียกร้องความสนใจ เช่น จะไม่ยอมให้ความต้องการของพวกเขามาขัดขวางการสนทนาของคุณทั้งคู่ ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน พวกเขาจะมีส่วนร่วมในการสนทนามากกว่าเดิมเมื่อโตขึ้น แต่ในระหว่างนี้พวกเขาควรเรียนรู้ว่าต้องฟังและรอให้พวกคุณพูดจบก่อนแล้วค่อยเป็นฝ่ายพูดบ้าง

ต้อนรับชีวิตอย่างอบอุ่น

คุณกอดลูกๆและลูบหลังเอาใจน้องหมาได้ทุกวัน แล้วทำไมจะต้อนรับสามีด้วยความกระตือรือร้นที่เท่าเทียมกันบ้างไม่ได้ ลองหอมแก้มและกอดคู่ชีวิตเหมือนกับคุณคนใดคนหนึ่งกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดและจะไม่ได้เห็นหน้ากันนานนับสัปดาห์ดูสักครั้ง ปล่อยให้เด็กๆแอบหัวเราะกันไปเถอะ เพราะการแสดงความรักแบบนี้ทำให้ลูกๆมั่นใจว่าพ่อแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและต่อพวกเขาเองด้วย

ใช้เวลาแค่ 20 นาทีให้มีประโยชน์


การเดินเล่นด้วยกันสองคนเมื่อมีเวลาแค่ 20 นาที ก็ช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้เช่นกัน หรือจะเลือกใช้วิธีชวนกันขับรถไปส่งลูกๆที่โรงเรียนหรือรับกลับบ้าน แล้วใช้เวลาช่วงที่ยังขับไปไม่ถึงหรือกำลังรอลูกนั่งคุยกันไปพลางๆก็ยังได้

ให้ลูกเข้านอนแต่หัวค่ำ


ช่วงเวลาที่พ่อแม่มีให้กันก็คือตอนเสร็จสิ้นภารกิจประจำวันหลังจากพาลูกๆเข้านอน โดยปกติไม่ควรเกินสองทุ่มครึ่ง...ลูกๆไม่ต้องนอนให้หลับก็ได้ แต่ต้องเข้าประจำห้องและไม่มานัวเนียอยู่ใกล้ๆ คุณจะได้มีโอกาสคุยกันเองบ้าง

ช่วยกันทำงานบ้าน


เวลาที่ใช้ทำงานบ้านก็เป็นเวลาทองสำหรับคู่ชีวิตได้เหมือนกัน หลังจากกล่อมลูกๆนอนแล้ว คุณกับสามีอาจปิดทีวีแล้วเปิดเพลงฟังขณะช่วยกันเตรียมอาหารเช้าสำหรับวันรุ่งขึ้น รีดเสื้อผ้าหรือพับผ้าเก็บในตู้ การใช้เลาร่วมกันแบบนี้ยังได้ประโยชน์เพิ่มอีกต่อหนึ่ง เพราะการช่วยกันทำงานบ้านให้สำเร็จ ทำให้คุณทั้งคู่ไม่ต้องเถียงกันว่าใครทำมากหรือใครทำน้อย

สอนให้ลูกรู้จักพึ่งพาตัวเอง


เมื่อลูกๆเรียนรู้วิธีสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเอง...ในช่วงสั้นๆคุณก็ใช้เวลาเล่นกับลูกน้อยลงและมีเวลาให้ตัวเองกับสามีมากขึ้น

รื้อฟื้นอดีตอันหวานชื่น

กิจวัตรประจำวันในฐานะคู่ชีวิตยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า ลองถามตัวเองดูว่าคุณทั้งคู่เคยสนุกกับการทำอะไรด้วยกันบ้าง แล้วก็ลองทำแบบนั้นดูอีกครั้ง เพราะกิจกรรมดังกล่าวอาจมีมนต์วิเศษแฝงอยู่ และช่วยให้คุณจดจำช่วงเวลาที่เป็นเพียงคู่สามีภรรยาที่ยังไม่มีลูกได้เป็นอยางดี

ถ้าจะทะเลาะกันก็หรี่เสียงให้เบาที่สุด

การทะเลาะกันดังๆอาจดูเหมือนการสบประมาท และอาจทำลายความหวานชื่นของชีวิตสมรสอย่างรวดเร็ว แถมการใช้คำพูดโจมตีกันต่อหน้าลูกๆยังแสดงให้เห็นว่าคุณไม่เคารพในกันและกันด้วย

จำไว้ว่า วิธีของพ่อก็ได้ผลเหมือนกัน

พวกเราส่วนใหญ่มักตำหนิสามีว่าไม่ยอมป้อนข้าวหรือแต่งตัวให้ลูกเหมือนที่เราทำ แต่การกระทำเช่นนี้อาจทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากกว่าพ่อจริงๆ และอาจไม่พอใจถ้าคิดว่าคุณไม่ไว้ใจว่าเขาจะดูแลลูกๆได้ดีเท่าตัวเอง อย่างไรก็ตาม คุณสามีทั้งหลายก็ควรระงับแรงดึงดูดใจที่จะหลบเลี่ยงหน้าที่ของพ่อแม่ด้วยการหนีไปทำงาน เข้าไปหมกอยู่ในโรงรถ หรือนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีเกือบทั้งวันด้วยเหมือนกันนะ

เดทกันได้ทุกที่ทุกเวลา

การออกเดทกับสามีสุดที่รักช่วยจุดประกายให้แก่ความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี ถ้าทำงานกันทั้งคู่ การนัดกินมื้อกลางวันด้วยกันขณะที่ลูกไปโรงเรียนก็สร้างความสุขได้เหมือนกัน ขณะที่บางคู่ชอบออกเดทกันที่บ้านมากกว่า จะได้เช่าหนังดีๆสักแผ่นกล่อมลูกนอน แล้วนั่งแกะข้าวกล่องกินกันแบบไม่ต้องทำเองให้เสียเวลา

เข้าใจถึงธรรมชาติของชีวิตสมรส

ถ้าคิดได้ว่า ปัญหาต่างๆนานาในชีวิตสมรสเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว คุณก็จะไม่รู้สึกว่าตัวเองติดอยู่กับปัญหาจนดิ้นไมหลุด ความเหินห่างจากคู่ชีวิตในช่วงที่ลูกยังเล็กๆเป็นสิ่งที่คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตสมรสของคุณจะไปไม่รอด คิดเสียว่าความโกรธหรือความเครียดเป็นเพียงสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณต้องการเวลานอก และต้องพยายามสร้างสัมพันธ์ต่อกันให้มากขึ้น


ไม่ว่าการฝ่าฟันอุปสรรคจะยากเย็นเพียงใด จงลงทุนลงแรงในชีวิตสมรสของคุณเสียตั้งแต่ตอนนี้หรือขณะที่ลูกยังเล็กๆ เพราะความกังวลอันใหญ่หลวงสำหรับเด็กคือความกลัวว่าพ่อแม่จะแยกทางกัน เขาจึงรู้สึกอบอุ่นใจที่สุดเมื่อรู้ว่าพ่อแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรืออีกนัยหนึ่ง คุณไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างชีวิตคู่ที่เปี่ยมสุขกับลูกซึ่งรู้สึกมั่นคงและอบอุ่น เพราะความสำเร็จในเรื่องแรกจะต้องทำให้คุณสมหวังในเรื่องหลังด้วยอย่างแน่นอน





 

Create Date : 09 มกราคม 2551
6 comments
Last Update : 17 มกราคม 2551 13:33:33 น.
Counter : 346 Pageviews.

 

 

โดย: หม๋องแหม๋ง 9 มกราคม 2551 12:17:46 น.  

 

ใช้ชีวิตคู่มา 6 ปีแล้วยังไม่มีลูก ก็เลยยังไม่มีส่วนแบ่งในการเอาใจใส่ซึ่งกันและกันกับแฟนค่ะ....ตอนนี้ก็เต็มที่ดีมากค่ะ

 

โดย: ShoesMonster 9 มกราคม 2551 14:05:15 น.  

 

มีอีกอย่าง สำคัญเหมือนกัน คือชีวิตคู่นี่ต้อง อดทน แต่อย่าทนอด นะจ๊ะ เดี๋ยวโรคกระเพาะ ถามหานะ

 

โดย: wildbirds 9 มกราคม 2551 19:45:49 น.  

 

เติมความรัก ด้วยความใส่ใจคะ

 

โดย: mintny_n 10 มกราคม 2551 10:58:58 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะ

 

โดย: Suessapple 13 มกราคม 2551 6:33:29 น.  

 





สวัสดีค่ะ
เป็นไงบ้างค่ะ สบายดีไหมค่ะ
ทานอะไรแล้วยังเอ่ย
ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ

อิอิ พอดีว่าเกิดมาไร้คู่มั้งค่ะ
แต่อ่านไว้ก็ดีค่ะ ขอบคุณมาก
ที่เอามาให้อ่านนะค่ะ

BG WELCOME CLOCK COUNTER AND CUTE STUFF FOR UR BLOG ^^




 

โดย: ยอพระกลิ่น 13 มกราคม 2551 21:51:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


bee house
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Somebody said it takes about six weeks to get back to normal after you've had a baby...
Somebody doesn't know that once you're a mother, normal is history.

ใครบางคนกล่าวว่า ต้องใช้เวลาราวหกสัปดาห์หลังคลอด ชีวิตคุณจึงจะค่อยๆคืนกลับสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม...
ใครบางคนที่ว่าน่ะไม่รู้หรอกว่า เมื่อไรที่ได้เป็นแม่แล้วละก็ ชีวิตคุณจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป



Color Codes ป้ามด
New Comments
Friends' blogs
[Add bee house's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.