Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
6 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
ผลการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส

เยาวลักษณ์ คว้ามิสไทยแลนด์ฯ


ตัวเต็งนางงาม 7 สี ไม่มีพลิก "เจี๊ยบ-เยาวลักษณ์" อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2000 คว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2003 ไปครอง แถมยังกวาดรางวัล "มิสป๊อปปูล่าร์" ควบ "ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน" กลับบ้านด้วย ได้เงินรางวัลกว่าล้าน ขณะที่ "น้องฝ้าย" รองอันดับ 1 รับเงินรางวัล 5 แสนบาท กิจกรรมการประกวดหาสาวงามครอง มงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2003 ที่ดำเนินมาถึงวันตัดสินเมื่อค่ำ วันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประกวด ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 20.30 น. ด้วยการให้ผู้เข้าประกวดทั้ง 44 คน เดินโชว์ตัวในชุดลำลอง สลับการฉายวีทีอาร์แนะนำ ผู้เข้าประกวดทีละคน ท่ามกลางบรรยากาศผู้มาร่วมงานที่ถือว่าไม่คึกคักนัก

จากนั้นในเวลาประมาณ 22.15 น. กิจกรรมบนเวทีประกวด ที่มี ดู๋-สัญญา คุณากร หมอเบิร์ท-อภิ-สมัย ศรีรังสรรค์ และศศินา วิมุตตานนท์ เป็นพิธีกร เริ่มมีสีสันมากขึ้นด้วยการแสดง ของผู้เข้าประกวดทั้ง 44 คน ในชุด "คิมหันต์นิรมิต" ที่ผู้เข้าประกวดออกมาเดินอวดโฉม ในชุดว่ายน้ำลายเสือและใบไม้ป่า จากนั้นเป็นการประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คน ปรากฏว่า สาวงามที่ได้รับการหมายตาว่าจะต้องหลุดเข้ามาถึงรอบนี้ อาทิ หมายเลข 4 น้องฝ้าย-อนงค์นาฏ สุทธานุช หมายเลข 13 น้องเอิง-นฤนิตย์ จันทรนิยม หมายเลข 19 น้องแอ๋ง-จิราพร นันติ๊ หมายเลข 24 น้องหมู-เสาวภาพ สุกใส และหมายเลข 44 น้องเจี๊ยบ-เยาวลักษณ์ ไตร-สุรัตน์ ฯลฯ ผ่านเข้ามาครบทุกคน

ต่อมาเป็นการประกาศผลรางวัลอีก 2 รางวัล คือ"มิสป๊อปปูล่าร์" ที่เป็นการลงคะแนนจาก ผู้ชมทางบ้าน โดยสาวงามที่คว้าใจจากผู้โหวตคว้าตำแหน่งนี้ไปครองพร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท ได้แก่ น้องเจี๊ยบ-เยาวลักษณ์ สาวงามหมายเลข 44 ที่เป็นตัวเก็งบนเวทีในอันดับต้นๆ รวมทั้งควบตำแหน่ง "ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน" ได้เงิน รางวัลจาก น.ส.พ. ไทยรัฐ 1 แสนบาท และผู้ร่วมสนับสนุนอีก 1 แสนบาท

การประกวดเริ่มเข้มข้นเมื่อพิธีกรประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 4 น้องฝ้าย-อนงค์นาฏ หมายเลข 13 น้องเอิง-นฤนิตย์ หมายเลข 19 น้องแอ๋ง-จิราพร นันติ๊ หมายเลข 24 น้องหมู-เสาวภาพ และหมายเลข 44 น้องเจี๊ยบ-เยาวลักษณ์ ซึ่งสาวงามทั้ง 5 คน ต้องตอบคำถามที่ว่า "คุณธรรมข้อใดหากยึดถือปฏิบัติแล้วจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ที่ทำให้เกิดสงครามได้" ปรากฏว่า น้องเจี๊ยบ-เยาวลักษณ์ ตอบว่า "ขันติ คือการอดทน อดกลั้น รวมถึงการให้อภัยซึ่งกันและกัน และการไม่อาฆาตพยาบาท และหากตนคุยกับยูเอ็น ได้ก็จะบอกว่ามีความรักให้กันดีกว่าทำสงคราม" เรียกเสียงฮือฮาและปรบมือจากผู้ชม ในงานได้อย่างมาก และทำให้ผลการตัดสินออกมาเป็นเอกฉันท์ว่า น้องเจี๊ยบ-เยาวลักษณ์ คว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2003 ไปครอง ได้รางวัลเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมมงกุฎเพชร สายสะพาย รถยนต์โตโยต้าคัมรี่ โทรศัพท์มือถือและของรางวัลอีกมากมาย

สำหรับรองอันดับ 1 ได้แก่ น้องฝ้าย-อนงค์นาฏ ได้รางวัลเงินสด 5 แสนบาท สายสะพายพร้อมรางวัลอื่นๆ จากกองประกวด และ น้องเอิง-นฤนิตย์, น้องหมู-เสาวภาพ, และน้องแอ๋ง-จิราพร ได้ตำแหน่งรองฯ ได้รับเงินรางวัลเท่ากันคนละ 2 แสนบาท พร้อมสายสะพายและของรางวัลอีกมากมาย

ทั้งนี้ น้องเจี๊ยบ-เยาวลักษณ์ มิสไทยแลนด์ฯ คนล่าสุด เคยคว้าตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ปี 2000 อายุ 19 ปี ขณะนี้กำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรม ภาควิชานิเทศศิลป์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นบุตรสาวคนโตของ ผศ.กฤษณา ไตรสุรัตน์ อจ.ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มารดาชื่อนางสุรณีย์ ไตรสุรัตน์ พยาบาลประจำ รพ.พระนั่งเกล้า




สาวอิมพอร์ตคว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส


หลังจากการประกวด มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2547 ของช่อง 7 สี ประกาศรางวัล ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 รางวัลคือรางวัล "สาวมาดมั่นแห่งปี" ได้แก่ น้องนุช-น.ส.สุธิดา ดีศรี ผู้เข้าประกวดหมายเลข 35 อายุ 20 ปี นักศึกษาพยาบาล ม.มหิดล และรางวัล "งามอย่างไทย" ได้แก่ น้องกุ๊กกิ๊ก-น.ส.อินทร์กรแก้ว ศิรวัชรินทร์ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 31 อายุ 18 ปี นศ. ปี 1 คณะศิลปกรรม-ศาสตร์ มศว. ประสานมิตร ในที่สุดการประกวดฯ ซึ่งมีนางวีณา ชินวัตร นายกสมาคมแม่บ้านทหารบก เป็นประธานกรรมการตัดสิน ก็ดำเนินมาถึงวันตัดสิน เมื่อค่ำวันที่ 27 มี.ค. ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว การประกวดเริ่มต้นขึ้นในเวลาประมาณ 22.10 น. ด้วยการเดินแนะนำตัวของผู้เข้าประกวดทั้ง 44 คน คนในชุดว่ายน้ำ

จากนั้นพิธีกร สัญญา คุณากร ประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คน ได้แก่หมายเลข 1 น.ส.น้ำทิพย์ เกียรติภัทร-ชัย อายุ 21 ปี, หมายเลข 8 น.ส.ถลัชนันท์ ศรีสนั่น อายุ 19 ปี, หมายเลข 9 น.ส.สุปรียา เพชรใส อายุ 19 ปี, หมายเลข 11 น.ส.ทรายขวัญ หาญหนองบัว อายุ 19 ปี, หมายเลข 16 น.ส.นวพร สิงหพุทธางกูร อายุ 22 ปี, หมายเลข 24 น.ส.นิรมล เอนกลาภ อายุ 19 ปี, หมายเลข 27 น.ส.ณัฐชยา ลิ้มพัฒน์นันท์ อายุ 21 ปี, หมายเลข 29 น.ส.มรกต เอมมี่ กิตติสาระ อายุ 20 ปี, หมายเลข 34 น.ส.รัชดาวรรณ นาคประเสริฐ อายุ 20 ปี, หมายเลข 35 น.ส.สุธิดา ดีศรี อายุ 20 ปี, หมายเลข 36 น.ส.สมฤดี พจน์ปฏิญญา อายุ 21 ปี และหมายเลข 44 น.ส.ญาณินี บุรินทรวรวิทย์ อายุ 18 ปี

หลังจากสัมภาษณ์ครบทั้ง 12 คน ก็เป็นการเดินประชันโฉมในชุดแฟชั่นประยุกต์จากงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ก่อนประกาศผลรางวัล "มิสป๊อปปูลาร์" ซึ่ง หมายเลข 11 น.ส.ทรายขวัญ หาญหนองบัว คว้าตำแหน่งไปครองพร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท สายสะพาย และของรางวัลจำนวนหนึ่ง แล้วตามด้วยการเดินโชว์ชุดราตรี สลับกับการแสดงของศิลปินนักร้อง

กระทั่งเวลาใกล้เที่ยงคืน การประกวดเริ่มเข้มข้น เมื่อมีการประกาศผลรางวัล "ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน" ปรากฏว่า สาวงามหมายเลข 36 น.ส. สมฤดี พจน์-ปฏิญญา อายุ 21 ปี นศ. ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ ม.อัสสัมชัญ คว้าตำแหน่งไปครอง พร้อมเงินรางวัล 2 แสนบาทจาก น.ส.พ.ไทยรัฐ พร้อมถ้วยเกียรติยศ สายสะพาย กรมธรรม์ประกันชีวิต 1 ล้านบาทและของรางวัลอีกมาก

จากนั้น พิธีกรประกาศชื่อผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งไม่มีพลิกโผ สาวจากต่างแดน หรือสาวอิมพอร์ตหลุดเข้ามาถึง 2 คน ได้แก่ หมายเลข 29 เอมมี่-มรกต สาวไทยเกิดในอังกฤษ และหมายเลข 34 ตุ๊กตา-รัชดาวรรณ สาวเมืองสองแคว แต่เติบโตที่นอร์เวย์ ขณะที่อีก 3 ราย ได้แก่ หมายเลข 9 แพท-สุปรียา นศ.ปี 1 ม.เกษตรฯ, หมายเลข 11 ทราย-ทรายขวัญ เจ้าของตำแหน่งมิสป๊อปปูลาร์ และหมายเลข 35 น้องนุช-สุธิดา เจ้าของตำแหน่ง "สาวมาดมั่นแห่งปี"

หลังจากนั้น เป็นการตอบคำถามของทั้ง 5 สาวงาม ซึ่งหลังการตอบคำถามเสร็จแล้ว ก็จะมีเพียงหนึ่งเดียว ที่ได้สวมมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2547 ปรากฏว่า มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2547 และเป็นคนที่ 5 นับตั้งแต่มีการประกวด ได้แก่ เอมมี่-มรกต กิตติสาระ ได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฎเพชร ชุดเครื่องประดับเพชร สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ และรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ 1 คัน รวมทั้งของกำนัลอื่นๆ อีก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ถือเป็นสาวอิมพอร์ตคนแรก ที่คว้ามงกุฎนางงามเวทีนี้ไปครอง

รองอันดับ 1 ได้แก่ ตุ๊กตา-รัชดาวรรณ นาคประเสริฐ สาวไทยจากนอร์เวย์ ได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ และของกำนัล รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ส่วนรองมิสไทยแลนด์ยูฯ อีก 3 ตำแหน่ง ได้แก่ น้องนุช-สุธิดา ดีศรี แพท-สุปรียา เพชรใส และทราย-ทรายขวัญ หาญหนองบัว

สำหรับน้องเอมมี่-มรกต เป็นสาวเลือดไทยแท้ แต่เกิดที่ลอนดอน อังกฤษ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2527 คุณพ่อชื่อธีรวุธ เป็นบุรุษพยาบาล คุณแม่ชื่องามนิจ ขณะนี้น้องเอมมี่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะกฎหมายที่มหาวิทยาลัยบรูเนล แอนด์ มิดเดิ้ลเซ็กส์ สิ่งที่เธออยากทำมากที่สุดในอนาคตคือเรียนให้จบด็อกเตอร์ แล้วกลับมาทำงานเป็นทนายความช่วยเหลือคนไทย.





'ชนันภรณ์' คนเก่ง มิสไทยแลนด์ฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 รอบตัดสิน ซึ่งมีขึ้นเมื่อค่ำคืนวันที่ 26 มี.ค. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ที่ถูกเนรมิต ให้เป็นเหมือนชายหาดทะเล ของเกาะภูเก็ต ที่ยังคงความสวยงาม ว่า เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ เนื่องจากสาวงามที่ได้รับการคัดเลือก ให้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย แต่ละคนมีความสวย และความสามารถพิเศษเฉพาะตัวไม่แพ้กัน สร้างความหนักใจ ให้คณะกรรมการตัดสินเป็นอย่างมาก ซึ่งการประกวดครั้งนี้ มีการตัดสินให้สาวงามได้รับรางวัลไปแล้ว 3 รางวัล คือรางวัลขวัญใจภูเก็ต ที่มีการประกาศผลระหว่างคณะผู้เข้าประกวดซึ่งมีทั้งหมด 44 คน ไปทำกิจกรรมเก็บตัวที่ จ.ภูเก็ต ผู้ได้รางวัลคือ น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ หรือน้องจุ๋ม หมายเลข 9 สาววัย 19 ปี นักศึกษาปี 1 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ส่วนรางวัลอันดับต่อมาคือรางวัล "สาวมาดเข้ม" โดยผู้ได้รับเลือกให้ครองตำแหน่งนี้คือ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 26 น.ส.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช หรือคุณหมอเกด วัย 23 ปี แพทย์ประจำ รพ.ศูนย์สระบุรี และรางวัล "งามอย่างไทย" ที่มีการตัดสินไปเมื่อคืนวันที่ 25 มี.ค. น้องแอ๊นท์-น.ส.ผกามาส แก่นจันทร์ หมายเลข 32 สาวงามวัย 18 ปี ที่เพิ่งจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนราชินีบนมาหมาดๆ และกำลังรอผลสอบเอ็นทรานซ์ ได้รับการคัดเลือกให้ครองตำแหน่งนี้ไป เนื่องจากมีความสวยงามแบบไทยๆ

สำหรับบรรยากาศในรอบสุดท้ายหรือรอบตัดสินเมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค.นั้น การประกวดเริ่มต้นในเวลา 20.30 น. โดยพิธีกรบนเวที ได้แก่ ดู๋-สัญญา คุณากร นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์ และนิหน่า-สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา มีการเปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้ง 44 คนในชุดเดินเล่นชายหาด และมีการโชว์ร้องเพลงของศิลปินดารา คือแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีรพงษ์ และปู-ไปรยา สวนดอกไม้ เวลา 22.10 น. โชว์การแสดงชุดภูเก็ตจินตนฤมิต แล้วสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 44 คน โชว์ตัวอีกครั้งในชุดว่ายน้ำ ก่อนจะประกาศผลผู้เข้ารอบสุดท้าย 12 คน ซึ่งได้แก่หมายเลข 5 น.ส.ณัฐญาภรณ์ ประเสริฐหมอ หมายเลข 7 น.ส.อภัสนันท์ พระพลศรี หมายเลข 8 น.ส.อุษณีย์ วัตฐานะ หมายเลข 9 น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ หมายเลข 10 น.ส.วัชรวรรณ รุ่งเกียรติกุล หมายเลข 16 น.ส.สุพัตรา ศรย่า สวิมเฟ่อร์ หมายเลข 20 น.ส.พรทิพย์ ประเสริฐสงค์ หมายเลข 26 น.ส.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช หมายเลข 32 น.ส.ผกามาส แก่นจันทร์ หมายเลข 36 น.ส.ณธู พันธะชาติ หมายเลข 40 น.ส.ปิยะธิดา วงศ์มณี และหมายเลข 43 น.ส.ชนันภรณ์ รสจันทน์

ต่อมาพิธีกรได้สัมภาษณ์สาวงามทั้ง 12 คนที่เข้ารอบ โดยมีการแบ่งสาวงามออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คนตอบคำถามของพิธีกร ที่มีการตั้งคำถาม จากข้อมูลประวัติของตัวสาวงาม ผู้เข้าประกวดเอง จากนั้นเป็นการแสดง ในชุดเริงสราญหมู่บ้านทะเล และโชว์ตัวผู้เข้ารอบ 12 คนอีกครั้งในชุดแฟชั่นประยุกต์ จนเวลา 23.30 น. มีการประกาศผล ผู้ได้รับรางวัลมิสป๊อปปูลาร์ ได้แก่หมายเลข 8 น.ส.อุสนีย์ วัตฐานะ แล้วมีการแสดงชุดมุกอันดามัน และโชว์สาวงามทั้ง 12 คนอีกรอบในชุดราตรี ก่อนจะประกาศผลรางวัลขวัญใจช่างภาพ ซึ่งได้แก่หมายเลข 9 น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ ที่ได้ตำแหน่งขวัญใจภูเก็ตมาแล้วก่อนหน้านี้

จากนั้นเป็นการประกาศผลสาวงาม ที่คณะกรรมการตัดสินพิจารณาคัดเลือกให้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายได้แก่ หมายเลข 9 น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ หรือน้องจุ๋ม หมายเลข 20 น.ส.พรทิพย์ ประเสริฐสงค์ หมายเลข 26 น.ส.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช หรือคุณหมอเกด หมายเลข 32 น.ส.ผกามาส แก่นจันทร์ หรือน้องแอ๊นท์ หมายเลข 43 น.ส.ชนันภรณ์ รสจันทน์

สำหรับบรรยากาศในห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซนเตอร์ เต็มไปด้วยความคึกคัก เพราะนอกจากสีสันอันสดใสของฉากบนเวทีแล้ว การแต่งกายของสาวงามผู้เข้าประกวดในปีนี้ ก็ดูเซ็กซี่เร้าใจชวนมองทำให้ไม่น่าเบื่อ

หลังจากได้ผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายแล้ว เป็นการแสดงชุด "2005 ทิวา ฮูลา ฮูล่า" จากศิลปินค่ายแกรมมี่ มีแคทรียา อิงลิช ไชน่าดอลล์ ญาญ่าญิ๋ง และเจนนิเฟอร์ ตามด้วยการสัมภาษณ์สาวงาม 5 คน ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ก่อนชี้ชะตาว่าใครได้สวมมงกุฎมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2005 เมื่อเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ น.ส.มรกต กิตติสาระ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2547 ทำพิธีอำลาตำแหน่ง

จนถึงนาทีระทึกในเวลาเที่ยงคืนเศษ คณะกรรมการได้ประกาศผลผู้ได้ครองมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 ได้แก่ น.ส.ชนันภรณ์ รสจันทน์ หรือน้อด สาวงามหมายเลข 43 ผู้มากความสามารถ ได้ครองตำแหน่งไปตามความคาดหมาย ตามด้วยพิธีมอบของรางวัลต่างๆ รวมทั้งมีการเปิดแชมเปญ ตัดเค้กแสดงความยินดีแก่คณะมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 และมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2005 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเวลาต่อมา เป็นอันเสร็จสิ้นการประกวด

สำหรับประวัติ น.ส.ชนันภรณ์ รสจันทน์ หรือ น้อด สาวงามหมายเลข 43 อายุ 22 ปี เจ้าของสัดส่วน 33-25-36 สูง 169 ซม. น้ำหนัก 49 กก. เป็นลูกสาวของ พล.ต. ชาญณรงค์ รสจันทน์ เจ้ากรมการเงินทหารบก และนางวรรณวิภา รสจันทน์ เจ้าของโรงเรียนฉัตรวิทยา ย่านรามอินทรา กทม. น้อดเป็นหลานสาวนายวิชา มหาคุณ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1 และนางนวลพรรณ มหาคุณ ผู้อำนวยการใหญ่ (เจ้าหน้าที่การทูต 10) สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ประจำสาธารณรัฐไต้หวัน เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับดาราสาว "ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ" เรียนจบชั้นไฮสกูลที่ Francis Lewis High School กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และมาต่อปริญญาตรีที่ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษาคือ ไทย อังกฤษ เยอรมัน และอิตาเลียน

ขณะนี้น้อดกำลังเป็นนักบินฝึกหัดของสายการบินแอร์เอเชีย ที่มาประกวดนางงามเป็นเพราะอยากทำอะไรให้หลากหลายในชีวิตคล้ายๆ กับการสมัครเป็นนักบินเพราะไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต การประกวดนางงามก็เป็นอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตเช่นกัน



ข้อมูลจากนสพ.ไทยรัฐ


Create Date : 06 กันยายน 2548
Last Update : 15 กันยายน 2548 2:34:54 น. 2 comments
Counter : 8411 Pageviews.

 
อ้าว.. นึกว่าเอารุปคุณแม่จัสตินมาลงซะอีก


โดย: แม่จัสติน (Baby I love you ) วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:12:33:02 น.  

 


โดย: จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:13:45:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.