ลุคใหม่นางงาม "สาวมั่น-ไม่เฟค" "มิสแกรนด์"ฉีกกฎ"สวยเรียบร้อย"
พูดถึง "นางงาม" แล้ว ภาพความทรงจำของแต่ละคนเป็นอย่างไร หลายคนคงนึกถึงภาพสาวงาม หน้าตาดี ขาว หุ่นดี เก่ง ฉลาด มารยาทดี และที่สำคัญคือ รักเด็ก เป็นแบบฉบับสาวงามที่เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้
แต่คงไม่ใช่กับเหล่า "นางงาม" เวทีนี้ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2015 ทั้ง 5 คน ที่เป็นแบบฉบับของคำว่า "นางงามลุคใหม่" พวกเธอฉีกกฎความเป็นนางงามที่มี "ลุคแช่มช้อย" มาเป็นนางงามที่มั่นๆ แตกต่างจากเวทีใสๆ ที่ชินตา เป็นหน้าใหม่ของวงการนางงามที่พร้อมสู้กับเวทีนานาชาติ แบบที่สาวๆ เหล่านี้บอกว่า แม้พวกเธออาจไม่ใช่คนที่สวยที่สุด แต่พวกเธอมั่นใจและมีความพยายาม และสาวงามที่เรียกว่าเป็นที่หนึ่งของเวทีนี้
คงไม่พ้น ปอไหม-รัตติกร ขุนโสม วัย 22 ปี นักศึกษาปี 4 จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์อุตสาหกรรมและอุปกรณ์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่หยิบเอาท่วงท่าการโพสต์ที่แตกต่าง ทั้งรอยยิ้มอันสดใส มัดใจกรรมการคว้าตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2015 ไปครอง
แต่กว่าจะมีวันนี้ ปอไหมเล่าว่า จะยากก็ไม่ยาก จะง่ายก็ไม่ง่าย แต่สิ่งที่ไม่เคยขาดคือความพยายาม หากได้ดูการเดินบนเวทีแล้ว จะพูดว่าคล้ายกับการเป็นนางแบบก็ว่าได้ เพราะเธอเริ่มต้นความฝัน ด้วยการเป็นนางแบบ เข้าประกวดเวทีนางแบบระดับประเทศมาแล้ว แม้จะไปไม่ถึงฝั่งฝันก็ตาม แต่เมื่อได้ดูการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2014 ปีที่ ปลา-ปรภัสสร ดิศย์ดํารง คว้าตำแหน่งได้
สาวผิวเข้มอย่างเธอคิดว่า นี่อาจเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้คว้าสิ่งที่สำเร็จที่สุดในชีวิตได้ ทำให้ 1 ปีต่อจากนั้น เธอมุ่งมั่นฝึกฝนตัวเอง ฝึกการเดินให้ดูเป็นนางงามมากขึ้น ทั้งการบิดตัว การวางใบหน้า ดูการประกวดของต่างประเทศนับไม่ถ้วน ดูแลรูปร่าง แล้วนำมาใช้บนเวทีนี้
"ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์มาก่อน เพราะไม่ได้ขาวแบบที่คนไทยนิยม แต่เห็นว่าพี่ปลาทำได้ ก็คิดว่านี่เป็นโอกาสของเรา จึงเลือกเวทีมิสแกรนด์เพราะมีความเป็นอินเตอร์ ให้โอกาสจริงๆ อย่างไม่ต้องคิดว่าเป็นเด็กใครๆ เชื่อว่าเพราะโครงหน้าคมๆ และจริตการเดิน รูปร่าง รวมทั้งความพยายามทั้งหมด ทำให้ได้ตำแหน่งนี้ นับเป็นจุดสูงสุดในชีวิต"
เพราะเป็นเวทีที่เหล่าสาวงามผู้มีความฝันต่างมาต่อสู้คว้าตำแหน่งอันสูงสุดนี้เวทีนี้จึงเต็มไปด้วยสาวๆผู้มีศักยภาพ แต่ปอไหมคิดว่านั่นไม่ได้ทำให้กดดัน แต่ยังเป็นแรงขับมากขึ้น "สนุกดี
เพราะทุกคนอยากได้ตำแหน่ง ก็จะแสดงศักยภาพที่มีกันเต็มที่ แต่เวทีนี้ใครดีใครได้ ปีนี้อาจจะไม่ใช่เวทีของเรา แต่ปีต่อไปเราก็สู้ใหม่ได้ โอกาสมีเท่าๆ กัน ขณะเดียวกันทุกคนก็รักกัน ช่วยเหลือกัน คอยสอนคอยบอกว่าทำอย่างไรถึงดี ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของการประกวดครั้งนี้นอกจากได้รับตำแหน่ง"
นับเป็นนางงามลุคใหม่ ย่อมต้องถามว่าอะไรคือแบบฉบับของเธอ "ต้องมีความมั่นใจ เพราะเราต้องสู้กับเวทีนานาชาติให้ได้ นางงามสมัยใหม่อาจไม่ได้ต่างกับอดีตมากนัก แต่เรื่องความมั่นใจต้องมี"
"ปอไหมเชื่อว่าอาจไม่ใช่คนที่สวยที่สุด แต่เป็นคนมีความพยายาม (ยิ้ม)"
ส่วนนางงามสมัยนี้จะต้องรักเด็กเหมือนดั่งรุ่นพี่ในอดีตไหม ปอไหมตอบสวยๆ ไว้ว่า "ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องรักเด็กอย่างเดียว เพราะยังมีสาธารณประโยชน์อื่นๆ อีกมาก ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ ที่นางงามก็ควรสนใจเช่นเดียวกัน" เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์คนล่าสุดกล่าว
เช่นเดียวกับ มิสซูปราเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2015 สาวร้อยเอ็ด ใบเตย-ธาราทิพย์ สุขดรุณพัฒน์ วัย 24 ปี นิสิตปริญญาโทบริหารธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์ ที่บอกว่า คิดเสมอว่านางงามยุคนี้ต้องสวย ฉลาด คิดไว แก้ปัญหาได้ รูปร่างดี รู้จักพรีเซ็นต์ และพัฒนาตัวเองเสมอ เป็นที่มาให้เธอเลือกเวทีนี้ซึ่งให้โอกาสกับทุกคน ฝึกฝนนานกว่า 2 ปี
และเมื่อคว้ามิสซูปราเนชั่นแนล ได้ก็ถือเป็นความภูมิใจ เพราะนอกจากจะต้องมคุณสมบัติครบที่กล่าวมาแล้วนั้น การทำให้ครอบครัวมีความสุขก็เป็นสิ่งหนึ่ง และเกียรติที่ได้รับในชีวิตนี้ก็คือความสุขของครอบครัว
แต่สำหรับ "พี่กลูต้า" ของน้องๆ ในกอง เพราะมีผิวขาวเนียนใสที่สุดในกอง อย่าง ชลรี-ชลธิชา อิ่มจรรยา วัย 26 ปี พูดเลยว่า นางงามสำหรับเธอไม่จำเป็นต้องสวย แค่ได้ทำอะไรที่อยากทำ พรีเซ็นต์ตัวตนออกมา คิดดีทำดีจากใจให้ได้เสียก่อน ก็จะส่งต่อความดีนั้นสู่คนอื่นไปเอง ไม่จำเป็นต้องเฟค นางงามคือความมั่นใจ และจริงใจที่จะแสดงออกมา ทำให้เธอพรีเซ็นต์ความขี้เล่น ร่าเริง ของเธออย่างเต็มที่
ขณะที่ ผู้คว้าตำแหน่ง มิสอินเตอร์คอนทิเนนตัลไทยแลนด์ 2015 โบว์-บุญญาณี สังข์ภิรมย์ วัย 21 ปี สาววิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็เน้นย้ำว่า ความมั่นใจทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะเปลี่ยนเธอจากเด็กสาวธรรมดาๆ ที่เดินส้นสูงไม่เป็น มาเป็นเธอคนใหม่
"เมื่อ 2 ปีก่อนได้เข้ารอบ 37 คนสุดท้ายมิสแกรนด์ไทยแลนด์ แต่ทำผลงานได้แย่มาก จนไม่กล้ากลับไปดูเลย อาย แต่เมื่อคิดว่าเรามั่นใจ โบว์ก็ทำได้ ซึ่งมันเปลี่ยนทุกอย่างไปเลย พยายามใส่เอกลักษณ์ของเราให้เต็มที่ ทั้งรอยยิ้ม การเดินและบุคลิก จนได้ตำแหน่งนี้"
สาวคนนี้ได้ฉายาจากเพื่อนๆ ว่า "บาร์บี้ผิวสี" เพราะมีใบหน้าคล้ายตุ๊กตาบาร์บี้ เผยอีกว่า แม้จะเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้ง แต่ไม่ใช่เพราะ "เมญ่า" รุ่นพี่ในวงการนางงามเป็นแรงบันดาลใจ แต่เธอคิดอยู่แล้วว่าเรื่องสีผิวไม่เกี่ยว ความสวยมีหลายอย่าง และเวทีนี้ก็เปิดกว้างสำหรับทุกคน หากคิดว่าทำได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ส่วนตัวเพราะจริตไม่เยอะ ตำแหน่งนี้ก็เลยเหมาะสมกับเธอที่สุด
ปิดท้ายด้วยรองมิสแกรนด์ไทยแลนด์ น้องเล็กของเวที ลีนา-ศกลวรรณ แซ่เตียว วัย 17 ปี ที่ขอใช้เวทีนี้พิสูจน์ว่า "เด็กกว่าแล้วไง" เพราะศักยภาพของเธอเกินเด็กไปแล้ว และเธอคิดว่านางงามสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องสวยหวานอีกต่อไปแล้ว แต่ต้องผสมๆ กึ่งนางแบบเล็กๆ มีจุดยืน ซึ่งนี่คือการเข้าสู่เวทีใหญ่ครั้งแรก และหวังว่าเมื่อตัวเองพร้อมเต็มที่ ก็จะมาคว้ามงกุฎใหญ่กลับไปบ้าง
นับเป็นเวทีที่ปีนี้ แซ่บเว่อร์!
ที่มา นสพ.มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 16 พ.ค.2558
| Create Date : 16 พฤษภาคม 2558 |
| Last Update : 16 พฤษภาคม 2558 22:50:28 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1853 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: 1123 IP: 180.183.18.245 วันที่: 17 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:35:25 น. |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
