Bloggang.com : มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ : ส่งท้ายปี 2552 ไหว้พระเพชรบุรี

มกราคม 2553

					1	2
3	4	5	6	7	8	9
10	11	12	13	14	15	16
17	18	19	20	21	22	23
24	25	26	27	28	29	30
31

16 มกราคม 2553

ส่งท้ายปี 2552 ไหว้พระเพชรบุรี - วัดห้วยมงคล

ส่งท้ายปี 2552 ไหว้พระเพชรบุรี - วัดห้วยมงคล

มาจะกล่าวบทไป

ช่วง 1- 2 เดือนมานี้ได้ยินแม่เปรยบ่อยว่าอยากไปเที่ยวตลาดสามชุก ก็ไม่รู้ว่าแม่ได้แว้บชมรายการทีวีอะไร

หรือมีอะไรทำให้แม่อยากมาเที่ยวสามชุก

ความที่เราเองก็ขับรถไม่เป็น จำต้องอาศัยบริษัทนำเที่ยวซึ่งก็ราคาไม่ใช่น้อย แต่จะให้เดินทางด้วยรถสาธารณะและเดินทางต่อเอาเองนั้น คงจะทุลักทุเลกันทั้งคุณแม่และคุณลูก

พอรู้มานานพอสมควรว่าขสมก. มีจัดทริปไหว้พระวันเสาร์และอาทิตย์ และบางรายการมีพ่วงตลาดน้ำเข้าไปด้วย ฉะนั้นก็น่าจะมีตลาดสามชุกซุกซ่อนอยู่ในโปรแกรมใดสักโปรแกรมหนึ่งหรอกนะ

โทรไปสอบถาม 184 ถึงรู้ว่าทริปโปรแกรมไม่ได้จัดที่เฉพาะอู่รถเขตบางเขนเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นอู่ใหญ่ ฉะนั้นจึงมีโปรแกรมท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลายมากกว่าอู่รถเมล์เขตอื่นๆ

ส่วนบ้านเราอยู่ย่านตลาดบางแค เขตการเดินรถที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นคือ “อู่วัดม่วง” (ระหว่างถนนเพชรเกษมซอย 63 – 65) เขตการเดินรถที่ 6

โครงการครอบครัวสุขสันต์ไหว้พระกับรถขสมก – เขตการเดินรถที่ 6

ภายหลังจากได้สอบถามกับทางอู่วัดม่วงแล้ว ก็เป็นไปดั่งที่คิด คือโปรแกรมท่องเที่ยวมีให้เลือกน้อย และทริปที่มีตลาดสามชุก เพิ่งผ่านไป จะมีอีกครั้งเดือนมกราคมปีหน้า

นอกจากนี้รายการที่จะจัดต่อไป ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ในวันที่ 31 ธันวาคมนั้น มีเพียง 2 โปรแกรมเท่านั้น คือไปไหว้พระอยุธยา หรือจะไปจังหวัดเพชรบุรี

แม่เลือกโปรแกรมไหว้พระเพชรบุรี ใจตรงกับเรา

ด้วยเหตุผล ไปไหว้พระอยุธยาเองก็ได้ และเคยไปบ่อยครั้งแล้ว โอเคเลย ก่อนออกเดินทางสัก 3-4 วันค่อยโอนเงินค่าเดินทาง คนละ 450 บาท

พฤหัสบดี 31 ธันวาคม 2552

จากบ้านไปอู่วัดม่วงนั้นค่อนข้างใกล้ เรียกแท็กซี่ได้สะดวก แต่พี่ชายยินดีขับรถไปส่งให้ 7.00 น.รถยูโรสีส้มพานักท่องเที่ยวออกเดินทาง

7.50 น. ถึงแล้ววัดแรก “วัดเกตุมดีศรีวราราม” ให้เวลาครึ่งชั่วโมง

- บริเวณพื้นที่รอบวัด -

- พระประธานในพระอุโบสถ -

8.30 น. พนักงานรถนับจำนวนผู้โดยสาร ครบแล้วมุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม ระหว่างเส้นทางเห็นเพิงขายเกลือ และปลาทูนึ่งอยู่หลายจ้าว

9.45 น. ถึงถึง “วัดเขาตะเครา” กราบไหว้ “หลวงพ่อทอง”

- “หลวงพ่อทอง” วัดเขาตะเครา -

ปัจจุบันทางวัดได้นำหลวงพ่อทองลงมาประดิษฐานอยู่ภายในศาลา พระวิหาร เพื่อศาสนิกชนผู้ศรัทธาท่านสามารถกราบไหว้สักการะท่านได้สะดวกกว่าภายในโบสถ์ มิฉะนั้นคราวใดที่มีสังฆกรรมภายในพระอุโบสถ ผู้ที่เดินทางมาถึงก็จักพลาดโอกาส ไม่สามารถเข้าไปกราบไหว้ท่านได้

เอ้า.... ครึ่งชั่วโมงแล้ว กลับขึ้นรถได้แล้วจ้า

10.20 น. รถยูโรสีส้มคันของเราก็บึ่งวิ่งเข้าสู่เขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างทางผ่านหมู่บ้าน “บ้านกุ่ม” ขายข้าวหลามเป็นสินค้า OTOP

ลงไปซื้อสัก 2 กระบอก (ไม่ได้กินข้าวเช้ามา) และกว่าจะถึงวัดต่อไป ต้องใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมง (หน้ามืดแน่) เรียกได้ว่า “ข้าวหลามประทังชีวิต” อืมมม... อร่อย

12.00 น. ถึงวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน ถือว่าเป็น highlight ของโปรแกรมนี้

- “หลวงปู่ทวด” วัดห้วยมงคล -

ให้เวลาทำบุญรวมทั้งรับประทานอาหารกลางวันที่วัดนี้ 1 ชั่วโมง ทางวัดมีโรงทานสามารถเข้าไปรับอาหารทานได้ฟรี หรือ ผู้โดยสารสามารถเดินเลือกซื้อหาเอาเองก็ได้

บ่ายโมง เมื่อผู้โดยสารทุกคนมาถึงครบ พร้อมออกเดินทาง

จากวัดห้วยมงคลถึงวัดเขาบันไดอิฐใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งจนก้นเมื่อย ฉะนั้นจึงจอดให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำ แวะลงชอปปิ้งขนมหม้อแกงที่ “ร้านแม่กิมลั้ง”

สังเกตว่าแวะจอดที่ไหน มักเห็นผู้โดยสารถึงของหิ้วติดไม้ติดมือขึ้นรถแทบทุกครั้ง เงินทองใช้จ่ายหมุนเวียนดีนักแล

. ....

เส้นทางสู่วัดเขาบันไดอิฐนั้นเป็นถนน 2 เลน คดเคี้ยวเหมือนทางขึ้นเขาย่อมๆ

14.30 น. – 15.00 น. ขึ้นไปกราบ “หลวงพ่อแดง” อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ ท่านมรณภาพไปนานแล้ว

เราไม่ได้ถ่ายภาพอื่นใดไว้นอกจาก “ลิงวัด” และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการร่วมเงินบริจาคก่อสร้างตัวองค์พระ

รู้สึกเลยว่า เราเสียเวลากับการเดินทางจากวัดหนึ่งสู่วัดหนึ่งมากเกินไป และเป็นการวิ่งไหว้พระข้ามจังหวัด จากจังหวัดหนึ่งไปสู่อีกจังหวัดหนึ่ง

ราว 1 ชั่วโมงต่อมา รถบัสมาถึงบริเวณวัดเพชรสมุทร เพื่อมาสักการะหลวงพ่อวัดบ้านแหลม แต่รถวนหาที่จอดไม่ได้เลย ช่วงเทศกาลแบบนี้ หาที่จอดรถยากมาก ผู้โดยสารจึงได้แต่ส่งจิตอธิษฐานรำลึกถึงหลวงพ่อ และกราบท่านอยู่ในใจบนรถโดยสาร ... เอ้า....สาธุ (รู้สึกเหมือนนั่งรถเมล์ผ่านหน้าวัดพระแก้วฯ แล้วส่งจิตเคารพกราบไหว้พระแก้วมรกตอย่างนั้นเลย)

......
......

เป้าหมายต่อไปสำหรับทริปนี้คือเที่ยวชมตลาดน้ำอัมพวา รู้สึกนักท่องเที่ยวก็นิยมมาเฉลิมฉลองปีใหม่ปีนี้ที่อัมพวามากด้วยเหมือนกัน เพราะสังเกตจากรถราที่เข้าอัมพวาต่อแถวยาวเหยียด

- ภาพถ่ายขณะรถบัสวิ่งอยู่บนสะพาน -

16.30 น. ก่อนลงจากรถ พนักงานรถนัดเวลากลับกับผู้โดยสารเป็นที่เรียบร้อย

เข้าไปกราบหมู่พระพุทธรูปองค์จำลองบริเวณด้านข้าง “วัดอัมพวันเจติยาราม” (เดิมเรียกว่า “วัดอัมพวา”)

ผู้คนเริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ คิดจะเดินไปให้ถึงตัวตลาดน้ำ ขณะเดินเหมือนกำลังไหลไปกับกระแสฝูงคนที่หลั่งไหลทะลักเข้ามาเรื่อยๆ

เริ่มเห็นตัวสะพานที่เชื่อม 2 ฝั่งเข้าด้วยกันมีแต่ผู้คนเดินพยายามเดินเบียดและสวนทางกัน

... เดินถอยกลับดีกว่า มองหาร้านอาหารที่พอจะเข้าไปนั่งหลบฝูงชน จนได้เจอร้านขายขนมจีนแกงไก่

กลับมายังวัดอัมพวันฯ ต่อดีกว่า บริเวณวัดมีร้านรวงตั้งแผงขายของ และยังใกล้บริเวณที่จอดรถของพวกเราอีกด้วย

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประดิษฐานอยู่ใกล้พระอุโบสถทางด้านหน้าพระวิหาร

เข้าไปชมพระอุโบสถและกราบพระประธานด้านในกันดีกว่าค่ะ

- พระอุโบสถ และใบเสมาวัดอัมพวันเจติยาราม -

- พระประธานในพระอุโบสถวัดอัมพวันฯ -

ภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ออกจากพระอุโบสถเข้าไปชมพระที่นั่งทรงธรรมกันต่อ ภายในมีพระประธานและพระพุทธบาทจำลอง 5 รอย อยู่ด้านหน้า

- พระที่นั่งทรงธรรม -

ได้สมควรแก่เวลา เตรียมตัวพร้อมสำหรับเดินทางกลับกรุงเทพฯ

18.00 น. รถออกจากอัมพวา กลับเข้าอู่วัดม่วงราว 1 ทุ่มเศษ

กลับถึงบ้าน พักผ่อนให้หายเหนื่อย ตั้งใจว่าคืนวันนี้จะออกไปสวดมนตร์ข้ามคืนที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตามที่พี่ชายเสนอตั้งแต่ต้นเดือนธันวา

เปิดโทรทัศน์ได้สักพัก 20.00 น. มีถ่ายทอดสดฟังกระแสพระราชดำรัสของในหลวง อวยพรให้พสกนิกรชาวไทยในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ นับเป็นโชคดีของเราที่ได้พรจากท่านในวันนี้