BlogGang.com : : bunbaramee :

สร้างบ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ

ปลายปีที่แล้วและล่วงมาจนถึงปีนี้ คนไทยเกือบทั้งประเทศต้องเผชิญภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ประสบการณ์เหล่านั้น เสมือนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ภัยพิบัติมิใช่เรื่องไกลตัวเราอีกต่อไป!!!

ทางหนึ่งที่อาจช่วยลดความรุนแรงของภัยธรรมชาติได้ คือ จากนี้ไปคนเราอาจต้องตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ทำร้ายธรรมชาติ อย่างที่ ‘ศาลาเอสซีจี’ ในงานบีโอไอแฟร์ 2011 สร้างขึ้นด้วยวัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอนวัตกรรมเพื่อรับมือภัยพิบัติในอนาคตไว้ให้ชมและสัมผัส ทั้งหมดล้วนเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาของเอสซีจีทั้งสิ้น

แนวคิดดีๆ ในการออกแบบศาลาและโชว์นวัตกรรมของเอสซีจี คือ สร้างสรรค์ทางเลือกให้ผู้ที่มีความกังวลและห่วงใยสภาวะแวดล้อมของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป อยากมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาโลกให้ยั่งยืน มนุษย์และธรรมชาติกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล

การนำเสนอไอเดียเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ ผู้ชมสามารถนำไปประยุกต์สร้างที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยวัสดุภายนอกศาลาเอสซีจีซึ่งช่วยประหยัดและลดการใช้พลังงาน จากการใช้บล็อกปูพื้นเทคโนโลยีคลูพลัส ที่ทำให้อุณหภูมิผิวบล็อกต่ำกว่าผิวคอนกรีตทั่วไป และเมื่อได้รับความร้อนสะสมจากแสงแดด น้ำที่ดูดซึมและกักเก็บในตัวบล็อกจะระเหยไอเย็นออกมา

ทั้งยังใช้ผนังสมาร์ทบอร์ด ที่ผลิตจากวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ปราศจากใยหิน จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีค่าการนำความร้อนต่ำ ช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร มีการใช้ชินโคไลท์ (Shinkolite) เป็นแผ่นอะคริลิคนำแสง ที่ให้ความสว่างแทนการใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป

นอกจากนี้การออกแบบศาลาภายนอกยังเน้นใช้วัสดุทดแทนวัสดุธรรมชาติ อย่าง แผ่นไวนิล วัสดุปูพื้นที่ทำจากพลาสติกแทนการใช้ไม้จริง รวมถึงการเลือกใช้พลาสติกแปรรูป มาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ในสวน ทดแทนการใช้วัสดุธรรมชาติ

ขณะที่ภายในศาลาเอสซีจี มีการจัดแบ่งออกเป็น 3 ห้อง และจัดระบบให้ชมทีละห้องในเวลาที่เหมาะสม ในส่วนของห้องแรก ปลุกความคิดรักสิ่งแวดล้อมด้วยการนำเสนอเรื่องราวของกรุงเทพฯ ในอนาคต ที่มนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ดำเนินเรื่องโดยปู่กับหลาน ผ่านจอมัลติมีเดีย และโมเดล ทอล์คเกอร์ ที่ทำให้ผู้ชมมองเห็นปู่กับหลานในมิติที่น่าสนใจ ก่อนจะพาผู้ชมย้อนกลับไปในอดีตช่วงที่โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติจากธรรมชาติ

และห้องถัดไป พาย้อนกลับไปในอดีตไปยังช่วงเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติต่างๆ บนโลก ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัวถูกทำลาย เกิดภัยธรรมชาติมากมายที่ผู้คนคาดไม่ถึงและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่ามกลางความน่ากลัวที่เกิดขึ้น ยังมีทางแก้ไขได้ ด้วยความทุ่มเทคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ที่จะนำความสมดุลของธรรมชาติบนโลกใบนี้กลับคืนมา และเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยนำเสนอผ่านจอ 360 องศามองเห็นรอบตัว เพื่อความรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง

ห้องสุดท้าย มีนวัตกรรมของเอสซีจีที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนของธรรมชาติ รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการ และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนในเมือง ทั้งรูปแบบที่อยู่อาศัยรองรับความเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมของโลกและภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ อาทิ

ชีลด์ ไลฟ์ (Shield – Life) ที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนที่แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา สะดวกต่อการขนส่ง พร้อมมีอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น เหมาะสำหรับประเทศที่มีสภาพอากาศไม่ปกติ หรือประเทศที่เกิดภัยพิบัติที่ต้องการที่พักอาศัยชั่วคราวอย่างเร่งด่วน และด้านบนยังมีแผงโซล่าร์เซลล์ สำหรับเก็บพลังงานแสงอาทิตย์แปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าให้ความสว่างด้านในและใช้ไฟในการชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ

ซีเมนต์ บังเกอร์ (Cement Bunker) นวัตกรรมที่อยู่อาศัยที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงลม แรงระเบิด และการกัดกร่อนของน้ำ มีการจำลองแบบและวางข้าวของเครื่องใช้จำเป็นให้ผู้ชมเข้าไปสัมผัสใกล้ชิด

บ้านเอสซีจี ไฮม์ นวัตกรรมบ้าน ที่มีโครงสร้างชนิดพิเศษ สามารถทนแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้เทียบเท่าแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ ที่ระยะห่างจากศูนย์กลาง 300 กิโลเมตร แถมเปิดโอกาสให้ผู้ชมสัมผัสประสบการณ์จริงจากเครื่องจำลองแผ่นดินไหวได้ด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด่น

หากทุกคนรู้จักใช้ชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความรุนแรงของภัยพิบัติอาจลดลงได้ ส่วนความไม่แน่นอนของธรรมชาติ การเรียนรู้ที่จะเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในเรื่องของบ้านซึ่งใกล้ตัวและจำเป็น ย่อมสร้างความมั่นใจได้ ส่วนตัวอย่างจากเอสซีจี มีโชว์ในงานบีโอไอแฟร์จนถึงวันที่ 20 มกราคมนี้เท่านั้น.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

Create Date : 16 มกราคม 2555

0 comments

Last Update : 16 มกราคม 2555 19:56:15 น.

Counter : 981 Pageviews.