ทำคานคอดิน และตั้งเสา
งานทำคานคอดิน(คานบนดิน)หลังจากที่เทฐานที่ในหลุมเรียบร้อยแล้ว ช่างเขาจะหล่อตอม่อเสาขึ้นมาให้พ้นดิน หลังจากนั้นจะนำดินมาถมในหลุมของเสาแต่ละต้นให้เต็มและอัดให้แน่น หลังจากนั้นก็จะเริ่มทำคานคอดิน (ในบ้านนี้เป็นคานบนดิน เนื่องจากจะยกระดับของพื้นบ้านให้สูงขึ้นจากระดับปกติ) เสาเหล็กแต่ละต้นนั้นยาวมาก ต้องใช้ไม้ดามไม่ให้เอนตอนเย็นพาเด็กไปลอยกระทงที่วัดใกล้ๆบ้าน อยู่ใกล้วัดก็ดีเหมือนกัน จะได้ไปทำบุญได้บ่อยๆเริ่มตีแบบเพื่อหล่อคาน ผมใช้ปูนผสมเสร็จจากแพล้นปูน สะดวกรวดเร็วดี เนื้อปูนเข้ากันได้ดี แต่ราคาก็สูงพอสมควร สูตรของปูนที่ใช้คือ Strenge 240 หรือเนื้อปูน 300 ช่างบอกว่าปูนช้างดีที่สุด(แข็งที่สุด)เหล็กที่ผมเลือกใช้ทำโครงสร้าง เป็นเหล็กข้ออ้อยขนาด 12 มม.หนัก 8 กก. ( DB 12 mm. ) ซึ่งในความเป็นจริงมีหลายน้ำหนัก เช่น 8.88 กก.(เต็มโรงใหญ่) 8.0 กก. (เต็มโรงเล็ก) 7.5 กก. , 5 กก. ลองนึกดูซิว่า ถ้าหากเราจ้างเหมาสร้างบ้านโดยที่เราเหมาหมดทั้งของ/ทั้งแรงแล้ว ช่างรับเหมาเขาใช้เหล็กตามสเปกแบบบ้าน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาให้เหล็กเต็มหรือเปล่า ช่างเขาก็ต้องพยายามลดต้นทุนวัสดุให้มากเพื่อให้ได้กำไรมากๆเดี๋ยวนี้ การทำปลอกเสาปลอกคาน เขาไม่ต้องมาดัดกันให้เสียเวลาเหมือนแต่ก่อนแล้ว ใช้แบบสำเร็จรูปจากโรงงานเลย เร็วดี ช่างชอบ ตรงรอยต่อระหว่างเสาและคาน ช่างเขาจะใช้การเชื่อมเหล็กให้ติดกัน ซึ่งช่างแต่ละคนก็ทำไม่เหมือนกัน บางคนก็ใช้วิธีใช้ลวดผูกเฉยๆตรงนี้จะเป็นชั้นลอย เลยไม่ต้องทำคานคอดิน แต่จะทำคานลอยให้สูงตามระดับพื้นบ้านเลยชั้นลอยก็ทำคานและตั้งเสาเรียบร้อยแล้วตรงนี้เป็นมุกหน้าบ้าน ผมได้ขยายความกว้างของมุกหน้าบ้าน จาก 2 เมตร เป็น 2.5 เมตร เพื่อให้หน้าบ้านดูกว้างยิ่งขึ้นตรงนี้จะเป็นบันไดขึ้นชั้นลอย ตรงนี้จะเป็นบันไดลงหลังบ้านตั้งเสาเกือบจะเสร็จแล้ว เมื่อก่อนที่จะมาปลูกสร้างบ้าน กลัวว่าช่างก่อสร้างจะไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากน้ำประปายังมาไม่ถึง จึงจ้างคนให้มาขุดเจาะน้ำบาดาล เจ้าแรก จ้างมาประมาณ 8,000 กว่าบาท ก่อนอื่นต้องสำรวจหาตาน้ำก่อน โดยใช้เครื่องมือ(จะเรียกว่าเครื่องมือดีไหมน้า???)เหมือนกับเครื่องตรวจหาระเบิดแถวๆ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไงยังงั้นเลย ลักษณะเป็นแท่งเหล็กทองแดง 2 อันที่งอเป็นฉาก แล้วถือมือข้างละอัน เดินไปเรื่อยๆดูที่ปลายเหล็ก ถ้ามาชนกันเมื่อไรเป็นได้เรื่อง ตรงนี้แหละเอาเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!!!!ใช้เครื่องเจาะเป็นเครื่องขนาดเล็ก เจาะได้ไม่นาน หัวสว่านเจาะหัก หินแข็งมากๆ เลยเลิกกลับบ้านไปเลยเจ้าที่สอง ว่าจ้างกันที่ 30,000 บาท เจาะที่ตำแหน่งเดิม ใช้เครื่องเจาะขนาดใหญ่ มีทั้งเครื่องเจาะไฮโดรลิกและเครื่องเป่าลม เดินเครื่องพร้อมกัน ช่างบอกว่าเจาะยากมาก หินแข็งสุดๆ เป็นหินแกรนิตเขียวทั้งนั้น ใช้เวลาเจาะ 2 วันเต็มๆ ได้ความลึกประมาณ 45 เมตร เจอน้ำออกมานิดหน่อยเท่านั้นเอง ช่างบอกว่าหมดค่าน้ำมันไปเป็นหมื่นบาท เเต่เราไม่จ่ายเงินเพราะได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่า "ถ้าน้ำไม่ออกอย่างเพียงพอจะไม่เก็บเงิน" โล่งอกไปที ... ต่อก็นึกสงสารเขาเหมือนกันถังส้วม(บ่อเกอะ/บ่อซึม) ใช้แบบธรรมดา ไม่อยากใช้แบบถังบำบัด ช่างบอกว่าสู้แบบเดิมๆไม่ได้
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
เสริมความเข้านิดนะครับ ผมคิดว่าบ้านทั่วไปจะออกแบบ คอนกรีตที่ Strength 173 ksc (ตามกฎหมายกำหนด) ซึ่งจะได้เหล็กเสริมสมดุลกับคอนกรีต แต่บ้านคุณใช้ คอนกรีตที่ Strength 240 ksc มันแข็งแรงดี แต่มันเกินความจำเป็น และสิ้นเปลืองครับ แต่นี่เป็นการสันนิฐาน รายละเอียดมันน่าจะอยู่ที่รายการประกอบแบบของคุณว่าใช้คอนกรีตที่ Strength เท่าไร
อีกเรื่องคือเรื่องเหล็กเสริมวิศวกรทุกคนจะออกแบบโดยใช้เหล็กเต็มน้ำหนัก(โรงใหญ่) ซึ่งจะเป็นเหล็กที่ได้มาตรฐาน มอก. ในการคำนวนออกแบบ ซึ่งเมื่อคุณใช้โรงเหล็ก บ้านคุณก็จะรับน้ำหนักได้น้อยกว่าที่วิศวกรออกแบบไว้นะครับ