การให้นมบุตร
lozocatlozocat

การให้นมบุตรเป็นรางวัลชีวิตสำหรับคุณแม่พอๆกับการตั้งครรภ์ นอกจากน้ำนมอันบริสุทธิ์ที่ลูกจะได้รับแล้วยังอุดมไปด้วย สารอาหาร ภูมิคุ้มกันโรคและฮอร์โมนสำหรับเด็ก นอกจากนั้นเด็กยังได้รับความอบอุ่นและความรักจากคุณแม่ แม้ว่าการให้นมบุตรจะเป็นธรรมชาติแต่คุณแม่ต้องเรียนรู้วิธีให้นม คุณแม่ต้องฝึกและอดทนเพื่อที่จะให้นมบุตร คุณแม่สามารถเรียนรู้การให้นมตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์จากแพทย์ที่ดูแลท่านหรือจากคนที่มีประสบการณ์จากคนอื่นเนื้อหาที่นำเสนอประกอบด้วย

โครงสร้างของเต้านม

เต้านมของคุณแม่ประกอบไปด้วยต่อมน้ำนมถุงเล็ก [lobules}รวมกันเป็น lobes หลายๆ lobes รวมกันและมีท่อน้ำนมมาเปิดที่หัวนม

ระหว่างที่ตั้งครรภ์ร่างกายก็เตรียมโรงงานสำหรับผลิตน้ำนมโดยมีขนาดใหญ่ขึ้น หัวนมมีขนากใหญ่และดำขึ้น ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงเต้านมเพิ่มขึ้น ประมาณเดือนที่ 4-5 ร่างกายจะเริ่มสร้างน้ำนมสีเหลือง เหนียวเรียก colustrum เมื่อเด็กคลอดร่างกายก็จะสร้างน้ำนม colustrum จะมีสารอาหารและมีภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อสำหรับเด็ก

ข้อดีของการให้นมบุตร

1. น้ำนมของคุณแม่มีสารอาหารที่ครบถ้วนสำหรับระบบย่อยอาหารของบุตร และยังป้องการโรคภูมิแพ้และลดความถี่และความรุนแรงของโรคติดเชื้อเช่น ท้องร่วง การติดเชื้อทางระบบหายใจ หูอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
2. น้ำนมแม่ยังเหมาะสำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนด ถ้าเด็กยังดูดเองไม่ได้คุณแม่สามารถบีบน้ำนมใส่ขวดแล้วป้อนทางสายยาง
3. การที่ลูกดูดนมจะกระตุ้นให้ร่างกายแม่ผลิตฮอร์โมนทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นและลดการเสียเลือด

ขนาดของเต้านมมีผลต่อปริมาณน้ำนมหรือไม่

เต้านมขนาดใหญ่หรือเล็กก็สามารถสร้างความพอใจให้กับลูกได้เหมือนกัน ปริมาณน้ำนมไม่ขึ้นกับขนาดของเต้านม

การให้นมลูกจะทำให้เต้านมยานหรือไม่

การให้นมลูกไม่ทำให้เต้ายาน หลังคลอดและหยุดให้นมบุตรเต้านมจะเปลี่ยนแปลงไม่มาก ให้ใส่ยกทรงช่วยรับทรงในขณะตั้งครรภ์ การหย่อนยานเป็นถุงกาแฟเป็นไปตามอายุเริ่มมากก็เริ่มหย่อนยานไม่เกี่ยวกับการให้นม

หัวนมของท่านเหมาะที่จะให้เด็กดูดหรือยัง

ขนาดและรูปร่างของหัวนมไม่เป็นปัญหา คุณแม่ต้องสังเกตหัวนมตัวเองว่าหัวนมบอดหรือไม่ วิธีทดสอบทำได้โดยการใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือบีบบริเวณฐานหัวนมถ้าหัวนมไม่ยื่นออกมาควรปรึกษาแพทย์

เมื่อไรจะให้นมบุตร

การให้นมบุตรครั้งแรกควรเริ่มทันทีที่เด็กตื่นและสามารถดูดนมได้ดีเนื่องจากเด็กจะได้ colustrum ซึ่งเป็นสารอาหารชั้นยอดและยังช่วยคุณแม่ลดอาการคัดเต้านม เริ่มแรกควรให้นมเด็กข้างละ 5 นาทีค่อยๆเพิ่มจนกระทั้งเด็กสามารถดูดได้ข้างละ 15 นาทีเด็กจะได้รับน้ำนมส่วนใหญ่ใน10 นาทีแรกแต่เด็กยังคงต้องการดูดต่อท่านต้องสังเกตอาการของเด็กอย่าให้นมตามนาฬิกา เด็กบางคนอาจจะต้องการดูดทุก 4 ชั่วโมงแต่เด็กบางคนอาจจะต้องการทุก 1-2 ชั่วโมง

เมื่อคุณแม่เริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองเด็กก็สามารถดูดนมได้ดี แต่มีมีความจำเป็นบางประการต้องเลี้ยงด้วยขวดนมเด็กอาจจะเกิดความสับสนเนื่องจากเด็กไม่ต้องใช้แรงดูดมากเหมือนนมแม่ เมื่อคุณแม่เลี้ยงด้วยนมตัวเองไปประมาณเดือนครึ่งก็สามารถที่จะวิธีการให้นมดังนี้

* หากคุณแม่มีน้ำนมและมีเวลาว่างคุณแม่สามารถให้นมตัวเองต่อ
* หากคุณแม่ต้องกลับไปทำงานคุณแม่อาจจะหยุดนมตัวเองหลังจากให้ไปแล้วเดือนครึ่ง
* คุณแม่อาจจะให้นมตัวเองสลับกับนมขวด
* คุณแม่อาจให้นมตัวเองเวลากลางคืนและนมขวดเวลากลางวัน

คุณแม่บางท่านอาจจะดูดน้ำนมตัวเองใส่ขวดที่ฆ่าเชื้อแล้วไว้ในตู้เย็นได้ 72 ชั่วโมง หรืออาจจะแช่แข็งซึ่งอยู่ได 6 เดือนเวลานำมาใช้ให้ผ่านน้ำธรรมดาก็พอ ห้ามถูกความร้อนสูงหรือผ่าน microwave เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นอาจให้อาหารแข็งแก่เด็กโดยมากอาจจะเริ่ม 6 เดือนการหย่านมให้ค่อยๆหย่า อาจจะทดแทนมื้อหนึ่งด้วยนมขวดการหย่านมทันทีจะทำให้คุณแม่คัดเต้านม

อาหารสำหรับคุณแม่ที่ให้นม

ให้รับประทานอาหารเหมือนขณะตั้งครรภ์รวมทั้งผัก ผลไม้ วิตามินและอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนสุรา กาแฟ และบุหรี่ควรงดเด็ดขาด

อาการคัดเต้านม

เกิดจากการที่มีน้ำนมคั่งในเต้านมวิธีแก้คือ

* ให้นมลูกวันละ 8-12 ครั้ง
* งดให้นมขวดหรือน้ำในช่วงเดือนแรกนอกเสียจากแพทย์ของท่านจะแนะนำให้รับน้ำ
* ถ้าท่านไม่ได้ให้นมมื้อนั้นให้บีบนมใส่ขวด
* ให้หย่านมช้าๆ

การมีเพศสัมพันธ์

คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนกับคนที่ไม่ได้เลี้ยงแต่อาจจะมีอาการแห้งช่องคลอด ระหว่างให้นมลูกอาจจะรับประทานยาคุมกำเนิดได้ และโปรดระวังว่าอาจจะตั้งครรภ์ได้โดยที่ยังไม่มีประจำเดือน

lozocatlozocat





Create Date : 23 มกราคม 2552
Last Update : 28 มิถุนายน 2552 9:27:26 น.
Counter : 605 Pageviews.

0 comments

เจ้าแม่แฟชั่น
Location :
  Maldives

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



Group Blog
มกราคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
23 มกราคม 2552