ตอนที่ 3 วันเวลาเสี้ยวหนึ่งที่ตึกขาวของวิถีชีวิตของชุมชนอ่างศิลา จ.ชลบุรี
| | | |
เข้าสู่ตอนที่ 3 ของการมาเยือนอ่างศิลา จ.ชลบุรี ตอนนี้เป็นตอนที่ 2 ของตึกขาว (ตึกมหาราช) คราวที่แล้วเป็นชั้นบนของตึกขาว คราวนี้เป็นภาพเรื่องราววิถีชีวิตของชาวอ่างศิลา ที่อยู่ที่ชั้นล่างค่ะ ซึ่งที่ชั้นล่างนี้จะเห็นความชำรุดทรุดโทรมของตึกขาวมากๆ ค่ะ งบประมาณก็มาแล้ว จะปล่อยให้ตามยถากรรมหรือเปล่าคะเทศบาลตำบลอ่างศิลาเจ้าขา
ช่วงนี้ชีวิตของวัลลี เหนื่อยเป็นพิเศษเลยแปะเพลง "เหนื่อยหรือยัง" ซะเลย ให้กำลังใจตัวเองเน๊าะ เพราะพี่อ้อออกพื้นที่ไปทำงานที่นครนายก ส่วนพี่อ้อมต้องรับยาไธรอยด์ 2 วัน แล้วพี่อ้อมขึ้นไปพักที่จ.เชียงใหม่อีก 2 วัน คุณแม่อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา ห้อง 1429 ภปร.ชั้น 14 วัลลีเลยต้องวิ่งขึ้นลงรถไฟใต้ดินโรงพยาบาล-ห้วยขวาง วันนี้พี่อ้อกลับมาคุณนายอุ้มคงค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ
ชอบภาพนี้อุ้มถ่ายภาพออกมา เหมือนภาพเขียนสีน้ำเลยค่ะ อิอิอิ
ป้ายเขียนบอกว่า ถ้าหากมาสักการะรัชกาลที่ 5 เชิญชั้นบน แต่ถ้าอยากเห็นวิถีชีวิตชุมชนอ่างศิลา ให้เดินเข้าประตูชั้นล่างชั้น 1 ได้เลยค่ะ
ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูของเก่าอ่างศิลากันเน๊าะ นี่คือประตูทางเข้าเจ้าค่ะ
สิ่งของที่วางอยู่หน้าประตูค่ะ
ว่าแล้วก็ใช้พรีเซ็นเตอร์ประจำถิ่นเลยจ๊ะ ให้น้องวรรณ ณ LOG IN ดาวริมทะเลถือไม้สีเขียว ไม้สีเขียวแทนสัญญลักษณ์สตรีที่มาเยือน สีแดงสัญญลักษณ์ผู้ชายที่มาเที่ยวชมค่ะ
เข้าชมฟรีเจ้าค่ะ
ว่าแล้วอุ้มก็ขอสักการะในหลวงก่อนเน๊าะ
เครื่องโม่แป้ง อายุตั้ง 100 ปีแน่ะ อุ้มทันเครื่องโม่แป้ง เพราะตอนที่อยู่ที่จ.อุบลราชธานี แถวบ้านเคยใช้โม่แป้งทำขนมเทียนค่ะ
จากประวัติของเมืองอ่างศิลา เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสจังหวัดชลบุรี ได้ประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีลายพระราชหัตถเลขา วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนาถึงอ่างศิลาตอนหนึ่งว่า เรียกชื่อว่าอ่างศิลานั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรี และนี่ก็คือที่มาของคำว่าอ่างศิลานี้เองค่ะ รับครกสักครกไหมคะ ?????
เข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ฯ แล้ว จะเห็นเครื่องโม่แป้งหลายไซด์ หลายขนาดเลยค่ะ
กบไสไม้ หลายแบบหลายขนาด
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในท้องถิ่นค่ะ
บ้านที่อุบลฯ ก็มีเลื่อยแบบที่แขวนเลยค่ะ
มาดูตู้เก่าและก้วยโถโอชามั่งค่ะ
ของเก่าสวยๆ เพียบเลยค่ะ
อ่างศิลาเป็นหมู่บ้านประมงริมทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 5 กิโลเมตรค่ะ
จากที่อ่านประวัติอ่างศิลาแห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ตากอากาศชายทะเลเก่าแก่ โดยเป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยม ของชาวตะวันตกและคนบางกอก เมื่อเป็นที่ยอดนิยมในการตากอากาศ ก็เปลี่ยนชื่อเป็นอ่างศิลาเพื่อให้ดูเป็นสากลมากขึ้นค่ะ
โดยมีตำหนักที่ประทับริมทะเล (ตึกขาว-ตึกแดง) สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สำหรับตลาดอ่างศิลาเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2419 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 136 ปีแล้ว ปัจจุบันตึกขาวแห่งนี้ อยุ่ในความดูแลของเทศบาลตำบลอ่างศิลา จากภาพอุ้มชอบขันเงินเก่ามากๆ ถ้าเอามาขัดก็จะเห็นความงามของขันเงินเลยค่ะ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้โปรดฯ ให้ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สร้างตึกใหญ่ให้ต่างชาติที่เจ็บไข้อยู่รักษาตัว "...ที่อ่างศิลา แขวงเมืองชล อากาศดี โปรดให้ทำที่ประทับแห่งหนึ่ง ได้ทำแต่อิฐปูนขึ้นไว้กับถมสะพานศิลา เป็นถนนออกมาสายหนึ่ง ฯพณฯ หัวเจ้าท่าน เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ ที่สมุหกระลาโหมสร้างตึกใหญ่ขึ้นไว้หลังหนึ่ง เพื่อจะให้พวกยุโรปที่เจ็บไข้ ไปอยู่รักษาตัวตากอากาศที่นั้นเป็นการบุญ แลที่ตลาดหลังเขาสามมุกนั้น โปรดให้ทำพลับพลาเป็นที่ประพาสขึ้นไว้หมู่หนึ่ง ให้ถมศิลาเป็นถนนออกมาสายหนึ่ง
" คัดจากหนังสือพระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ กล่าวถึงตึกที่สร้างไว้ถึงตึกอาไศรยสถาน (ตึกแดง-ตึกขาว) แห่งนี้
ในบริเวณตะวันออกบ้านอ่างศิลา หรือบ้านอ่างหิน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เคยเป็นแหล่งทอผ้าที่สำคัญมาแต่โบราณ ผ้าทอบ้านอ่างหินส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ที่ทอจากเส้นด้ายสำเร็จ ที่นำมาเตรียมตามกรรมวิธีพื้นบ้าน ทำให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณภาพ โดยการผ้าที่ได้จากการทอนับเป็นผ้าเนื้อดีคงทนค่ะ
ผ้าจากอ่างศิลา แต่เดิมมีทั้งผ้าม่วง ผ้าไหม ผ้าตาสมุด สำหรับใช้เป็นซิ่นหรือตัดเครื่องนุ่งห่ม ในสมัยรัฐนิยม
ผ้ายกดอกไหมของอ่างหินแห่งนี้ ได้รับความนิยมแพร่หลาย ภายหลังเมื่อมีโรงงานทอผ้าด้วยเครื่องจักร ทำให้การทอผ้าบ้านอ่างหินประสบปัญหาตามด้วยค่ะ
ส่งผลให้การทอผ้าที่บ้านอ่างหิน เหลือเพียงจำนวนน้อย ผ้าที่พออยู่ในปัจจุบัน ที่ยังพบเห็นได้ส่วนใหญ่เป็นผ้าด้าย สำหรับทำซิ่น ผ้าโสร่ง ผ้าขาวม้าค่ะ
ถึงแม้ว่าผ้าทอมือบ้านอ่างหินจะเป็นงานศิลปะ เป็นที่นิยมมาแต่โบราณ แต่ปัจจุบันการทอผ้าบ้านอ่างหินประสบปัญหารายได้ ไม่คุ้มกับเวลาและค่าแรง เช่นเดียวกับผ้าทอพื้นเมืองหลายๆ แห่ง หากไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุน ก็คงจะสูญหายและมีให้ดูตามพิพิธภัณฑ์แค่นั้นค่ะ
งานช่างฝีมือพื้นบ้านทอผ้าอ่างศิลา-บ้านปึก นับเป็นงานช่างของชาวอ่างศิลายังคงทอสืบต่อกันมา และได้เปลี่ยนรูปแบบจากผ้าพื้นและผ้าเช็ดปาก แบบที่เคยมีในอดีตกค่ะ
ผ้าทออ่างศิลา นับเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวอ่างศิลา ที่มีชื่อเสียงมาช้านานเลยนะคะ
ว่างๆ มาเที่ยวชมความงามของตึกขาว แล้วอย่าลืมมาชมความงามของผ้าทอค่ะ
จบตอนที่ 3 แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่แวะมา BLOG อุ้ม ช่วงนี้อุ้มไม่ค่อยเดินสายเม้นท์ค่ะ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ
ขอขอบคุณ BG : น้องญามี่ banner : คุณ no filling กรอบ : น้อง KungGuenter เพลง : เหนื่อยหรือยัง : มัม ลาโคนิค กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย ดุ๊กดิ๊ก : คุณยายชมพร & คุณญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
| | | | | | | |
| |