บันทึกการเดินทางตอนที่ 4 เป็นเวลา 10 ปีแล้วเพิ่งได้มีโอกาสมาเที่ยวเสาเฉลียง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
| | | |
เข้าสู่ตอนที่ 3 แล้วค่ะหลังจากหายไปนานเป็นการท่องเที่ยวแบบสำนึกรักษ์บ้านเกิด บันทึกการเดินทางม๋วนเซิ่นกันที่เมืองอุบลฯ เป็นภาพเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2556 ยกโขยงกันไปเที่ยวกัน 5 คน โดยน้องเตี้ยเป็นคนขับรถมีน้องปุ้มเป็นเนฯ แล้วก็มีน้องอองฟอง-น้องอัลฟาฟ่า และคุณนายอุ้มสีเป็นผู้ร่วมเดินทางกันตะลอนทัวร์ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ผาแต้มก็เลยเก็บเกี่ยวที่ท่องเที่ยวตามทางเริ่มจากเสาเฉลียงเจ้าค่ะ ตามลิงค์ย้อนหลังไปคลิกดูภาพตอนที่ 1 และตอนที่ 2 ข้างล่างได้เลยค่ะ
ตอนที่ 1 : กองทัพต้องเดินด้วยท้องก่อนจะไปเที่ยวผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
ตอนที่ 2 : ก่อนจะไปถึงผาแต้ม ก็ได้รู้ว่าสุขาของศูนย์การค้าอุบลสแควร์ได้ไอเดียมาจากผาแต้มเจ้าค่ะ
ก่อนอื่นก็ต้องเสียค่าเข้าไปเที่ยวชมที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มก่อนค่ะ ซึ่งจะเสียครั้งเดียวรวมไปเลยเที่ยวเสาเฉลียง น้ำตกสร้อยสวรรค์ เถาวัลย์ยักษ์ และผาแต้ม คิดค่ารถยนต์ 30 บาท/คัน และค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 40 บาท/คน
ขอ-บอกว่าตลอดเส้นทางมาเที่ยวเสาเฉลียงถนนหนทางสะดวกและสวยงามมากนะคะ
เสาเฉลียง ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี การเดินทางไปเสาเฉลียงใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 217 จากจังหวัดอุบลราชธานี ไปยังอำเภอพิบูลมังสาหาร แล้วไปต่อด้วยเส้ทางหลวงหมายเลข 2222 ไปอำเภอโขงเจียม จากนั้นภายในอำเภอโขงเจียมโดยใช้เส้นทางหลวงสาย 2134 เส้นโขงเจียม - ศรีเมืองใหม่ เมื่อวิ่งรถยนต์ไปได้ประมาณ 5 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางสาย 2112 เจ้าค่ะ แล้วจากนั้นขับรถตรงไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร จะเห็นมีทางแยกให้เลี้ยวขวาไปผาแต้ม ก็จะเห็นเสาเฉลียงเจ้าค่ะ ถ้าเห็นเสาเฉลียงก็จะรู้ได้เลยค่ะว่าอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรจะถึงผาแต้ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี
เสาเฉลียงเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สืบเนื่องมาจากกระบวนการกัดเซาะและกัดกร่อนด้วยอิทธิพลของน้ำและลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสึกกร่อนโดยแม่น้ำหรือธารน้ำไหลกัดเซาะเป็นเวลานานหลายร้อยปี ซึ่งเกิดขึ้นในชั้นหินที่วางตัวอยู่ในแนวราบหรือเกือบราบ และในแต่ละชั้นมีส่วนประกอบของแร่ที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีความแข็งและทนทานที่ไม่เหมือนกันค่ะ
"เสาเฉลียง" แผลงมาจาก "สะเลียง" ซึ่งแปลว่า "เสาหิน"
ประติมากรรมชิ้นเอกเสาเฉลียงแห่งนี้เป็นการร่วมกันของหินทราย 2 ยุค ก็คือ หินทรายยุค "ครีเตเซียส" ซึ่งมีอายุประมาณ 130 ล้านปี เป็นส่วนดอกเห็ดอยู่ท่อนบน และหินทราย "ยุคไดโนเสาร์" ซึ่งมีอายุประมาณ 180 ล้านปีค่ะ
เสาหินท่อนล่าง โดยผ่านการถูกชะล้างพังทลายอันเกิดจากสภาพอากาศ ฝน และลมพายุเป็นเวลาหลายล้านปี ซึ่งคุณสมบัติทางธรณีวิทยาของหินทรายนั้นง่ายต่อการสึกกร่อนกว่าหินชนิดอื่น ที่จัดอยู่ในกลุ่มหินชึ้นเดียวกันน่ะค่ะ
และเมื่อผ่านการสึกกร่อนไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ก็มีสิ่งที่เรียกว่า "กระบวนการต้านทานทางธรรมชาติ" และ "แรงกดทับของเม็ดฝน" ทำให้หินทรายแข็งยิ่งขึ้นค่ะ จนเป็นผลให้สามารถรักษาสภาพให้คงรูปได้ดังที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้ค่ะ
แหล่มเลยค่ะ นอกจากได้ไปเที่ยวชมความงามทางธรรมชาติรังสรรค์ของเสาเฉลียงแล้ว ยังได้ความรู้ทางด้านธรณีวิทยาเพียบขึ้นอีกเพียบเลย
จำได้ว่าเคยไปเที่ยวล่าสุดเมื่อปี 2546 คราวนี้มาได้เที่ยวอีกที 2556 ว๊าวววว 10 ปีพอดี ตอนนั้นปีนขึ้นไปนั่งตรงกลางเสาเลยค่ะ อิอิอิ ได้มาเที่ยวอีกทีชอบมาเที่ยวเมืองไทยครึกครื้นเศรษฐกิจบ้านเฮาคึกคักจริงๆ ตอนที่มาเที่ยวมีนักท่องเที่ยวขับรถยนต์ตามกัน 3 คัน เพราะออกจากบ้านเช้ากันน่ะค่ะ เพราะถ้าย้อนไปอ่านตอนที่หนึ่งล้อหมุนกันหกโมงเช้าเลยล่ะ BLOG หน้าเรา 5 คนจะพาไปเที่ยวผาแต้มกันค่ะ
ขอขอบคุณ banner : คุณ no filling / BG & กรอบ : น้อง KungGuenter / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat เพลง : อีสานบ้านเฮา : เทพพร เพชรอุบล โค้ดและของแต่ง BLOG : ป้ามด / น้องดอกหญ้าเมืองเลย / คุณยายชมพร / น้องญามี่ / คุณเนยสีฟ้า
| | | | |
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 23 มีนาคม 2557 16:18:54 น. |
|
65 comments
|
Counter : 2550 Pageviews. |
|
|
|
เห็นอัพบล้ิอคโชว์ใกล้กัน
เลยแวะเข้ามาฟังเพลงและ
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ อุ้มสี เรียบร้อยแล้วนะคะ
คุณเหลือ อีก 9 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ