การเดินทาง ที่ไม่มีจุดหมาย My journey has no destination..........

<<
พฤษภาคม 2552
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 พฤษภาคม 2552
 

Stand by me เคียงข้างกันตลอดไป

หนังเกือบจะถอดความมาจากนิยาย The Body ของ Stephen King ถ้าใครเคยอ่านคงจะพอจะจินตนาการภาพ ฉาก และบรรยากาศไว้คร่าวๆ สิ่งที่ได้เห็นได้จากในหนังนั้น ไม่แตกต่างกัน สิ่งนี้ยืนยันได้ดีว่า นิยายที่ดีนั้นจะให้ภาพชัดเจนในหัวของเราในขณะที่อ่านมัน และผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดนิยายมาเป็นหนังได้อย่างไม่มีที่ติ

ช่วงชีวิตที่โลดโผน บ้าบิ่น ที่สุดคงไม่พ้นช่วงวัย 10 ขวบกว่าๆ ผมจำได้ว่าตอนเด็กเคยทำอะไรแผลงๆ อย่างเช่น การผจญภัยในป่าแถวบ้าน ยิงนกตกปลา หรือขี่จักรยานไปยังที่ๆไม่เคยไป บางครั้งก็ชอบเล่นวางกับดัก ซึ่งมาคิดดูตอนนี้ หากบางสิ่งมันคลาดเคลื่อนไปแม้เล็กน้อย ชีวิตพวกผมตอนนี้คงแตกต่างออกไปมาก ผมเคยเอาเชือกขึงสองข้างทาง เพื่อดักรถที่ขี่ผ่าน ในตอนนั้น ลุงคนนั้นขี่มาช้า เลยไม่เป็นไร แต่ถ้าขี่มาไวละก็ ยังนึกไม่ออกเลยว่าผมจะมีชีวิตต่อมาได้อย่างไง

สิ่งที่เด็กกลุ่มนี้ทำนั้น พวกเราอินเพราะเข้าใจได้ จากเหตุผลข้างต้นนั่นเอง การผจญภัยของพวกเขาเริ่มต้นจาก สิ่งเร้า ที่ท้าทายความอยากรู้อยากเห็น เมื่อได้รู้จุดที่เด็กโดนรถไฟชนตายอยู่ตรงไหง พวกเขานัดแนะกันออกเดินทาง เพื่อหวังจะเป็น ฮีโร่ ระหว่างทางเกิดเหตุการณ์มากมาย ผมชอบฉากที่ตัวเอกของเรื่องเดินคุยกัน ซึ่งตอนนั้น ในช่วงอายุเดียวกันกับพวกเขา ผมยังเด็กกว่านั้นมาก ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะคิดอะไรได้ไกลขนาดนั้น โดยเฉพาะ คริสกับกอร์ดี้ นั้นเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุมาก พวกเขาพูดคุยถึงอนาคต ทั้งสองมีปมที่แตกต่างกัน คริส เติบโตมากับคำว่า ลูกขโมย และเขาก็เคยขโมยเงินจากโรงเรียนจริง มาตอนท้าย คริสสารภาพให้กอร์ดี้ฟังว่า เขาเอาเงินไปคืนครูแล้ว แต่ครูกับฉวยโอกาสเอาเงินนั้นไปซื้อเสื้อใหม่ เพราะคริสพูดความจริงไปก็ไม่มีใครยอมเชื่อ เขาจึงเลือกจะไม่พูด และให้สังคมปรามาสเขาต่อไป ในขณะที่กอร์ดี้เติบโตมากับความรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รัก เพราะพวกเขายังทำใจไม่ได้กับการตายลูกชายคนโตที่เก่งทุกอย่าง ตอนท้ายๆของเรื่อง ทั้งคริสและกอร์ดี้เปิดใจซึ่งกันและกัน จนทำให้เราซาบซึ้งกับคำว่ามิตรภาพของทั้งสอง ในขณะที่อีกคู่หนึ่ง คือเวอร์นและเท็ดดี้นั้น สนิทกันก็จริง แต่ก็หาแก่นสารอะไรไม่ได้ ทั้งสองกันสนิทกับแบบผิวเผิน คุยกันแต่เรื่องไร้สาระ เราเห็นความแตกต่างของสองคู่นี้อย่างชัดเจน

ในตอนจบที่พวกเขาเจอศพเด็กแล้ว จุดพีคของหนังก็มาถึง เมื่อกอร์ดี้ได้พิสูจน์ให้คริสเห็นถึงคำว่า มิตรภาพที่แท้จริงเป็นยังไง ซึ่งเหตุการณ์นั้น ไม่เคยลบเลือนไปจากใจของพวกเขาในตอนจบ กอร์์ดี้ปิดท้ายเรื่องราววัยเด็กของเขาว่า

I have never had any friend like when I was 12 years old. Jesus Is there anyone?

ผมไม่เคยมีเพื่อนเหมือนกับเพื่อนสมัยตอนอายุ 12 เลย ให้ตายสิพระเจ้า มีบ้างไหม

ดูหนังเรื่องนี้จบ ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า รู้สึกยังไง เศร้า โหยหาอดีต มีความสุข หรือ ยังไง งง




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2552
1 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2552 23:53:12 น.
Counter : 522 Pageviews.

 
 
 
 
แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี
 
 

โดย: koreaserie (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:10:51:37 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

น้ำแร่ธรรมชาติ
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีที่ได้รู้จักครับ นี่คือบล็อกส่วนตัวบักทึกเรื่องราวของผม สนใจก็อ่านเล่นๆได้ครับ
[Add น้ำแร่ธรรมชาติ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com