เป้ ตาย !!!
วั น ที่ ฟ้ า ดู ห ม่ น ๆ แ ล ะ ต้ น ไ ม้ ไ ม่ ส ด ชื่ น ..
วันนี้ก็เป็นวันเศร้าอีกวันหนึ่ง ซึ่งจริงๆในชีวิตผมก็มีเรื่องเศร้าๆไม่กี่เรื่องหรอก เป้ คือหมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ขนาดน้องๆม้า เพราะเค้าเป็นลูกแชมป์ Best in Show มาจากอเมริกา เป็นหมาที่สง่างาม ดูดีมีสกุลรุนช่องมาก เป้ มาอยู่กับผมพร้อมวีนัส ซึ่งเป็นเพศเมีย พี่น้องสายเลือดเดียวกันกับเป้ ผมไม่ได้ซื้อทั้งคู่มาเลี้ยงหรอกครับ พอดีคุณอาผมเค้าเพราะพันธุ์สุนัข เป็น งานอดิเรก ผมเลยขอปันผลผลิตที่ได้มาส่วนหนึ่ง เราอยู่กันมานานมากครับ ณ ตอนนี้ เป้อายุได้สิบห้าปีกว่าๆ ส่วนวีนัสนั้น มะเร็งตับพรากเอาชีวิตเค้าไปเมื่อสองปีมาแล้ว และในวันนี้เวลาประมาณ 13.45 น. เป็ก็ตามน้องวีนัสไปอย่างสงบ สองหมานี้ แม้จะเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด แต่กลับมีบุคลิกและนิสัยแตกต่างกัน โดยสิ้นเชิง วีนัสจะเป็นสุนัขเพศเมียที่ถ้าเปรียบเทียบกับคนก็จะเป็นแนวสก๊อย คือวีนัสจะออกไฮเปอร์ ชีวิตยุ่งเหยิง พลุ่งพล่าน ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน วันใด She สามารถจะระริกระรี้ ดีใจกระโดดแบบได้เสมอถ้าคนในบ้านผมกลับมาถึง ส่วนเป้เป็นหมาใจดี สุภาพ ฉลาดและ รักเด็ก แม่บอกว่าเป้เป็นหมานางงาม ... ตลอดชีวิตเป้ ผมได้ยินเค้าเห่าไม่ถึงยี่สิบครั้ง แต่พอได้เห่า เสียงเป้จะ ห้าวใหญ่ ดุดันใช้ได้เลย ส่วนใหญ่เป้จะชอบเล่นคาบบอล ในทุกครั้งที่โยนไปให้ เป้จะคาบบอลมาส่งให้เสมอ แต่กว่าจะแงะเอาบอลออกจากปากเป้ได้นี่ ต้องใช้ ความอุตสาหะมาก นอกขากนี้เป้ยังเป็นสุนัขที่รู้ภาษามนุษย์(ผมเชื่อว่ายังงั้น) ก่อนหน้านี้ กลางเดือนธันวาคม ผมก็พึ่งเสียสิบล้อไป สิบล้อเป็นแมวพันธุ์ทางตัว ใหญ่ นี่ก็เป็นมะเร็งที่ไต และก็จากไปเหมือนกัน สิบล้อกับเป้ อยู่กันได้แบบเพื่อน สนิท นอนหนุนก่ายกันตลอด และไม่เคยทะเลาะเอะอะกันเลย เป็นเรื่องน่าคิดว่า มะเร็งนี่มันเกิดได้ง่ายๆ ปานนี้เลยเหรอ หรือจะเป็นเพราะอาหารเม็ดเกรดโปร ที่ประดังให้กินกัน แต่ก็ไม่อยากจะหาคำตอบอะไรแล้ว เป้เริ่มป่วย และท้องโตมาได้สองเดือนกว่าๆ ระยะเริ่มแรกท้องเป้เริ่มดูใหญ่ขึ้น คือโดยปกติเป้กินจุมาก (หมาอะไรกินยังกะม้า) แต่หลังๆเป้จะนอนอย่างเดียว ก็เลยนึกว่าเป้คือหมาลงพุงธรรมดาๆ แต่ต่อมาไม่นานเป้เริ่มไม่ลุกไปไหน ต้องเอาอาหารไปให้ถึงที่ จึงพา(ใช้คำว่าแบกไปน่าจะเหมาะกว่า)เป้ไปหาหมอ ผลตรวจออกมาหลังจากพาไปอยู่รพ.มาระยะหนึ่ง เป้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอบอกว่าระยะสุดท้ายแล้ว จะเอาอย่างไรต่อ .. ตอนนั้นนั่งมึนๆ ไม่รู้จะยังไงดี เพราะรักษาต่อไปก็ไม่มีทางจะยื้อชีวิตเป้ได้ ตอนที่วีนัสเป็นมะเร็ง ก็เคยลองพยายามดูแล้ว แต่สุดท้ายก็เหมือนกับเราจ่าย เงินครึ่งแสนไป เพียงเพื่อจะยืดเวลาทุกข์ทรมานให้เค้าแท้ๆ วันนั้นเลยตัดสินใจ พาเป้กลับบ้าน ให้เค้าอยู่กับความรักของครอบครัวเราให้ได้มากและนานที่สุด น่าจะดีสำหรับเป้ เพราะผมว่า .. ถ้าเป้เลือกได้ เค้าคงไม่อยากจะอยู่ในกรงรักษา ซึ่งคงจะว้าเหว่ และเศร้าหมองเต็มทน และถ้าเป้พูดได้ เป้คงร้องขอให้เค้าได้สิ้นลมหายใจ ใน ขณะที่มีครอบครัวเราอยู่เป็นเพื่อนกับเค้าในวินาทีสุดท้าย เป้กลับมาอยู่บ้าน เราต้องให้เป้นอนนอกบ้านเพราะเป้ลุกไปขับถ่ายเองไม่ได้ เค้าจะนอนปล่อยออกมาตรงที่เค้านอนเลย จึงต้องเตรียมสถานที่ที่สามารถจะ ล้างทำความสะอาดทั้งพื้นและตัวเป้ได้ง่าย และ แห้งไวไม่อับชื้น เป็นงานที่หนักหนาพอดู เพราะเป้เป็นสุนัขตัวใหญ่ จะพลิกจะอุ้มนี่ต้องผมคน เดียวที่เป็นชายฉกรรจ์ที่สุดในบ้าน และมูลของเสียที่เป้ขับถ่ายมามันเป็นกลิ่น ที่เหม็นผิดมาตรฐานจากขี้เยี่ยวของสุนัขทั่วไป คืนก่อนหน้าที่เป้จะไป เป้เริ่มร้องคราง ผมลุกมาดูตอนตี่สี่กว่า เป้นอนบิดไปมา แววตาเป้หมองลงไปมาก มีน้ำตาคลอเบ้าอยู่เอ่อๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เป้แสดง อาการเจ็บปวด ผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ ลูบหัว พยายามพูดกับเป้ ซึ่งผมเชื่อว่าเป้รับรู้ ผมบอกกับเป้ว่าไปให้สบายเถอะ อยู่ไปก็ทรมาน ไปให้ดี จะแผ่เมตตาให้ ซึ่งในวันนี้ พรุ่งนี้ ถ้าเป้ยังอยู่ได้ต่อไป ผมอาจจะขอยาหมอมาทำการุณฆาตให้เป้ ก็เป็นได้ ... เพราะทนรับกับสภาพทรมานของเป้แบบนี้ไม่ไหวอีกแล้ว เช้าวันนี้ เป้ไม่กินอะไร แม้แต่น้ำ ตาเริ่มฝ้าฟางขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆห้านาทีโดยประมาณ เป้จะถอนหายใจยาวๆ สักครั้งหนึ่ง ร่างที่นิ่งเฉยไร้เรี่ยวแรง เป็นสัญญาณบอกว่า เป้น่าจะทนได้ไม่พ้นคืนนี้ คนในบ้านเริ่มมาเฝ้าดู และพูดกับเป้ เป็นความพยายาม ครั้งสุดท้ายมี่จะให้เป้ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากเราให้ได้มากที่สุด และจนบ่ายวันนี้ เป้ก็จากไปด้วยอาการเหมือนหมาที่นอนหลับไปเฉยๆ ผมลุกไปหยิบจอบเสียม ลงมือขุดหลุมสำหรับเป้โดยทันที และด้วยความที่เป้มี ขนาดลำตัวที่ใหญ่เป็นทุนเดิม แถมด้วยอาการบวมน้ำที่ช่องท้อง ร่างกายเป้จึงขยาย ใหญ่เป็นพิเศษ หลุมที่ขุดจึงต้องทั้งลึกและกว้าง กว่าจะขุดเสร็จ เล่นเอาผมหน้ามืด ไปหลายรอบ สุดท้าย เป้ก็นอนนิ่งอยู่ในหลุมที่โปรยปรายด้วยกลีบดอกไม้ที่แม่ไปซื้อจากตลาด เราภาวนาให้เป้ได้เกิดในภพภูมิที่ดีกว่า และนี่ควรจะเป็นวาระกรรมสุดท้ายของเป้ ที่จะต้องทรมานทนทุกข์แบบนี้ ผมเอาภาพเป้ที่ถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่เป้ยังเป็นเด็กจนถึงวัยรุ่นมานั่งดู มันทำให้นึกถึงวันคืน. เก่าๆ ที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกัน ไปทะเล ไปต่างจังหวัด วิ่งตามจักรยานในสวนสาธารณะ แม้หลังๆ ผมจะไม่ค่อยได้เล่นกับเป้เหมือนแต่ก่อน แต่ผมก็ยังรักและห่วงเป้เสมอ ฝันดีและหลับให้สบายนะเป้ ..
กลับขึ้นข้างบน
Create Date : 05 มกราคม 2553 |
Last Update : 6 มกราคม 2553 1:54:56 น. |
|
9 comments
|
Counter : 380 Pageviews. |
|
|
ไม่ค่อยได้เลี้ยงสัตว์เท่าไหร่เพราะดูแลใครไม่ค่อยเป็น
วันนี้เจ้าปลาทองตัวน้อยของเราก็ซี้แหงแก๋ไปตัวนุงเหมือนกัน