อย่ามาเลยฟิลิปปินส์ จะบอกให้
เอางี้นะ ขอจำแนกข้อดีข้อเสีย ให้คิดเองข้อดี1. อาจจะมาเรียนต่อได้ถูกกว่าทางอเมริกา หรือออสเตรเลีย ใกล้บ้าน พ่อแม่พี่น้องก็มาเยี่ยมง่าย ตั๋วเครื่องบินก็ถูก 2. ผู้คนหน้าตาท่าท่างและนิสัยคล้าย ๆ บ้านเรา ทำให้ไม่เหงามากนัก ผู้คนเป็นมิตร (อืม แต่ออกจะเฟรนด์ลี่ไปนิดจนเหมือนไม่มีความเป็นส่วนตัว) สถานบันเทิงเพียบ ตามห้างสรรพสินค้าถนนหนทาง (ของมะนิลา) มีแต่คน คน และคน.... 3. นึกไม่ออกอ่ะ ใครนึกออกช่วยมาเติมให้หน่อย ไอ่เรามันเขียนในอารมณ์ลำเอียงซะแล้วด้วย ข้อเสีย1. อาหารไม่ถูกปาก (อุ๊ย ลืมตัว ขึ้นเป็นข้อ 1 เลย 555) อันนี้ถึงจะเทสต์ใครเทสต์มัน แต่เท่าที่คุย ๆ กับคนไทยที่นี่ เพิ่งเจอคนเดียวจริง ๆ ที่เอ็นจอยอาหารฟิลิปปินส์ นอกจากไม่อร่อยแล้วอาหารที่นี่ยังใส่สีและผงชูรสกันอย่างไม่บันยะฯ คุณภาพและความสะอาดก็ไม่น่าไว้ใจ (ล่าสุดนี่ได้ข่าวว่ามีอีโบล่าด้วย) แล้วไม่รู้ปรุงกันยังไง ถ้าใส่ผักก็เหม็นเขียว ใส่อาหารทะเลก็หม็นคาว อยากให้หวานก็ใสน้ำตาลทราย อยากให้เค็มก็ใส่เกลือ น้ำจิ้ม เครื่องปรุงก็ไม่หลากหลาย อาหารผ็ดที่ขึ้นชื่อของเขาแล้วก็ยังไม่สามารถกระดิกต่อมรับรสเผ็ดของคนไทยภาคกลางชาวกรุง (ที่กินเผ็ดน้อยที่สุดแล้ว)อย่างเราได้ ข้าวสวยก็มักมีกรวดปน เคี้ยว ๆ อยู่มีสิทธิ์ฟันร่วงได้ 2. ไปไหนมาไหนลำบาก การขึ้นสองแถว รถสามล้อ หรือแท็กซี่นั้น มันต้องสื่อสารกับคนขับ ไม่ใช่นั่งเฉย ๆ แล้วจ่ายเงินก็ไปถึงได้ แม้ว่าคนฟิลิปปินส์ที่ทำงานในสำนักงานทั่วไปจะสามารถพูดอังกฤษได้ แต่คนขับรถรับจ้างนั้น... ไม่ได้... จะเจรจาถามทางอะไรที มันเป็นเรื่องใหญ่ นอกจากหาคนมาช่วยแปลได้ยากแล้ว ชาวบ้านจะเริ่มมามุง (ดูคนต่างชาติหลงทาง) แต่เขาก็มีน้ำใจแหละ จะมีหลายคนมาพยายามช่วย และออกความเห็นต่าง ๆ (แต่เป็นภาษาพื้นเมือง ฟังไม่ออกอยู่ดี) ถนนหนทางก็ไม่ค่อยมีฟุธปาท (เขียนไงฟะ) เดินลำบาก แถมยังมีฉี่เป็นหย่อม ๆ ด้วย 3. แม้ว่าทั่ว ๆ ไปผู้คนอัธยาศัยดี เป็นมิตรมาก ๆ แต่โจรผู้ร้ายก็ยังชุม รถตู้โดยสารโดนจี้เป็นว่าเล่น เดิน ๆ อยู่ก็อาจจะถูกวิ่งราวหรือโดนโจรมุมตึกล็อกคอ เวลามีโจรปล้นธนาคารหรือรถตู้ พี่ยามพี่ตำรวจจะเปิดฉากยิงโดยไม่แม้จะใยดีประชาชนตาดำ ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ กลัวมาก เพราะธุรกิจร้านค้าที่นี่จะมียามถือปืนเฝ้าทุกร้าน แม้แต่แม็กโดนัลด์ หรือโรงจำนำ ที่ไม่น่าจะมีการปล้นไปได้ มันก็มียามแห่งละหลาย ๆ คน (อ่อ พี่ยามที่นี่สะพายปืนแบบช็อทกัน ดุ้นใหญ่มาก แบบที่พี่อาร์โนลด์ในคนเหล็กใช้เลยอ่ะ - เคยมีข่าวนานมาแล้วว่าเผลอโป้งป้างออกมาโดนคนเดินถนนด้วย) 4. ความน่าเชื่อถือของนายจ้าง -- ช่วงนี้มีคอลเซ็นเต้อร์ทางฟิลิปปินส์หลอกคนไทยมาทำงานกันเยอะ ขอแนะนำว่าถ้ามีการคุยกันทางโทรศัพท์ อย่าไปเชื่อเรทที่เขาบอก เพราะมีแล้วที่ตกลงกันราคานึง มาถึงสัญญาเป็นอีกราคานึง ซึ่งถูกกว่าเป็นหมื่น มาแล้วจะทำไงล่ะ กลับไปก็ไม่มีงานทำแล้ว บริษัทที่ว่านี่เป็นบริษัทอเมริกันยักษ์ใหญ่ด้วย ไม่ใช่บริษัทพื้นเมืองจิ๊บ ๆ (ซึ่งคนไทยคงฉลาดพอที่จะไม่เชื่ออยู่แล้ว) มองเห็นน้องผู้หญิงต้องเซ็นสัญญาทั้งน้ำตาแล้วปวดใจจริง ๆ ปัญหาคือแรงงานไม่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลเท่าที่ควรนั่นเอง แม้แต่บริษัทใหญ่ ๆ ยังลงมาเล่นแผนสกปรกแบบนี้ได้ 5. แพง... ภาษีมหาโหด ไอ้ที่ตกลงกันว่าได้เงินเดือนสามหมื่นน่ะ ได้จริง ๆ สองหมื่นสองเท่านั้น ไอ้ที่ว่าห้าหมื่น เน็ท ๆ แค่สามหมื่นหก แถมยัง... ค่าครองชีพสูงมากกกกกก... ค่าเช่า - ถ้าเป้นห้องดี ๆ หน่อย มีรปภ. อยู่ใกล้ไปมาสะดวก ห้องขนาดห้องเดี่ยว (studio) ก็เหยียบหมื่น ถ้าอยูไกลออกไปค่ารถนี่แสบไส้ ไม่ใช่สามบาทห้าสิบตลอดสายอย่างเราหรอก ส่วนอาหารมื้อนึง ๆ ไม่ต่ำกว่าร้อยเปโซ ลองกินข้างทางดูแล้วปรากฏว่าท้องร่วง จะทำกินเองก็อาจจะแพงกว่าซื้อเขากินก็ได้ ข้าวของก็แพง มีแต่บุหรี่ กับเหล้า แหละที่ถูก เดือนนึง ๆ ไม่ค่อยมีเงินเหลือหรอก 6. ไม่ใช่บ้านเรา.... เข้าใจว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลส่วนตัวอ่ะนะ แต่ขอให้คิดให้ดี เพราะเราสงสารน้อง ๆ ที่ (โดนหลอก) มา (หรืออาจจะมาแบบไม่มีข้อมูล) ไอ่บริษัทที่มันจ้างเข้ามาก็ไม่ได้ดูแลเขาเลย ถ้าได้คอนแทรกท์ที่มันดี อยากจะมาก็ตามใจ ยังไงก็ติดต่อมาบ้าง จะได้รู้จักกันไว้ มีไรก็ช่วยเหลือกันได้ มะนิลาวันนี้ไม่เหมือนมะนิลายุคเฟื่องฟูที่เป็นจุดกำเนิดของวงคาราบาวแล้วล่ะป.ล. แต่ไม่มีตังค์ให้ยืมนะ ตอนนี้ตกงานอยู่
พ่อกับแม่ เค้าเคยไปฟิลิปปินส์ด้วยกัน ปรากฎว่าคุณแม่เค้าเป็นคนทานอาหารยาก ไปได้ไม่กี่วัน เค้าก็บอกคุณพ่อว่า เค้าจะกลับเมืองไทยแล้วนะ คุณพ่อก็ถามว่า "แล้วชั้นล่ะ ?"
คุณแม่บอกว่า "เธอจะอยู่ต่อ ก็อยู่ไปซิ" ตั้งแต่นั้นมา พ่อกับแม่ ไม่ร่วมทางด้วยกันอีกเลย