กาลครั้งหนึ่ง ของ ภาพยนตร์ ,"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" และ Blog & Book
(คู่มือเยี่ยมชม สำหรับ ผู้มาเยือน Blog นี้ครั้งแรก)
1. บล็อกนี้มีผู้ผลิตชิ้นงาน , เลขาฯ , พนักงานต้อนรับ , ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ เพียงคนเดียวคือ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
2. เนื้อหาส่วนใหญ่ใน Blog นี้คือ ภาพยนตร์ แต่ไม่ใช่แค่นำเสนอว่า หนังเรื่องไหนน่าดู , หนังเรื่องไหนสนุกแค่ไหน ฯลฯ
บาง Blog ยังนำเสนอในมุมที่ จขบ. มีความเชื่อว่า 'ภาพยนตร์ ไม่ได้ทำหน้าที่ได้แค่ให้ ความบันเทิง' บวกกับความจริงที่ว่า 'จิตวิทยา ไม่ใช่เรื่องยากที่ พิสูจน์ไม่ได้ หรือ ไกลเกินตัว'
3. เพราะ ภาพยนตร์ ทุกเรื่อง ล้วนแล้วแต่พูดถึง 'ชีวิต' จึงสามารถช่วยให้เราเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต แถมยังสามารถช่วยให้เรา เข้าใจตัวเอง นำไปสู่การเติบโตโอ้หลั่นล้าภายในตัวเองได้ด้วยเช่นกัน
4. ท่านสามารถท่อง Blog นี้ได้ ด้วยการคลิก เลือกอ่านเนื้อหาที่สนใจจาก กรอบฝั่งขวามือของ blog ตามนี้
กรอบ บทความล่าสุด
กรอบ หน้าสารบัญ
หรือ
ใส่ชื่อคำที่ท่านต้องการค้นหาใส่ ช่อง search ทางกรอบขวามือเช่นกัน
5. สถานที่พักพิงของ จขบ.
บ้านเกิด - Blog นี้ที่ท่านกำลังอ่านอยู่
เบอร์ติดต่อ - i_behind_you@yahoo.com
คอนโดที่พักอยู่บ่อยๆ (Facebook) - www.facebook.com/IbehindYou
โทรเลข - twitter.com/ibehindu
บ้านพักตากอากาศรายเดือน(คอลัมน์ประจำ) - นิตยสาร All และ นิตยสาร Filmax
บ้านพักตากอากาศรายปี - พ็อกเก็ตบุ้ค ตามรูปปกและรายละเอียดด้านล่าง
นอกเหนือจากนี้ หากท่านพบเห็นชื่อ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ที่อื่น โปรดสงสัยว่า อาจเป็น ร่างโคลนนิ่ง โดยพลัน
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ใช้บริการ
ณ.ห้วงหนึ่งของกาลเวลา หญิงสาวท้องแก่แหวกฝูงคนเข้าหาที่นั่งสบายๆในบรรยากาศยามเย็นเพื่อดูหนังกลางแปลง อันเนื่องมาจากภาวะ ติดหนังตอนตั้งท้อง ที่ ช่วงตั้งครรภ์ทำให้เธอชอบดูหนังมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อมา หลังจากหนังกลางแปลงเรื่องนั้นจบ เธอคลอดลูกชายหนักประมาณ 3000 กรัม แล้ว อาการอยากดูหนังของเธอก็ค่อยๆเจือจางไปเหมือนคนอื่นๆ
ทารกชาย เติบโตมาเป็น เด็กผู้ชายที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดในบ้านที่ยังอาศัยตะเกียงเจ้าพายุ และ โทรทัศน์ที่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่มีโรงหนังในจังหวัดที่เขาอยู่
สมัยเป็นเด็กประถม เดินผ่านร้านเช่าวิดิโอก็เฝ้ารอวันที่บ้านจะมีเงินซื้อเครื่องเล่นวิดิโอเหมือนเพื่อนๆ และ เมื่อมีวิดิโอเหมือนบ้านอื่นๆ เขาก็ติดหนังจีนกำลังภายในงอมแงม เช่ามาดูกับพ่อแม่ติดๆกันเป็นสิบม้วน
ความผูกพันกับภาพยนตร์ เริ่มส่งสัญญาณผ่าน DNA มากขึ้นเรื่อยๆ
เขาชอบอ่านนิตยสารเกี่ยวกับภาพยนตร์เช่น หนังและวิดิโอ , ฟิล์มวิว , สตาร์พิคส์ , เอนเตอร์เทน ฯลฯ
ทุกครั้งที่เข้ากรุงเทพฯเพื่อไปธุระหรือเยี่ยมญาติ พ่อมักจะพาเขาดูหนังเสมอเมื่อมีโอกาส เพราะอยากให้ลูกชายมีโอกาสรู้จักโลกเหมือนคนอื่นๆ เขายังจำตั๋วผีและนั่งเก้าอี้พับสีแดงเสริมดู Indiana jones ในโรงหนัง หรือตอนสอบไม่ติดเตรียมฯ พ่อพาไปปลอบใจ ด้วย Cape fear ต่อด้วย หนังจีนของโจวเหวินฟะ ที่โรงลิโด้
ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เมื่อดูมาก อ่านมาก เขาก็เริ่มอยากคุย แต่ อนิจจา หลักสูตรการศึกษาที่เขาเรียนอยู่ตอนนั้น ทำให้เขาหาคนคุยเรื่องหนังได้ยาก ชีวิตรอบข้างเขาไม่ได้มีคอหนังที่จะมาคุยด้วย
เขาตัดสินใจ หาคนคอเดียวกัน ด้วยการเขียนถึงหนังในทำนองเล่าสู่ ดูแล้วมาคุยกัน ลงเว็บบอร์ด เริ่มมีเพื่อนมาคุย มาร่วมแสดงความเห็น จนมีเพื่อนในบอร์ดชักชวนให้มาเขียน Blog เพราะ Blog สามารถเก็บข้อมูลได้ยาวนาน จะกลับมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้
เขาหัวหกก้นขวิดกับการทำ Blog ด้วยความรู้ด้าน IT ที่มีประมาณหางอึ่ง จนในที่สุดก็ปลุกปั้น Blog ให้ออกมาได้สำเร็จ
จากที่เขียนบอกเล่าเก้าสิบเกี่ยวกับหนังที่ดูมา ด้วยคัมภีร์การศึกษาที่เขาเรียนอยู่ จู่ๆก็เกิดการผสมผสานรวมกันราวหยินกับหยาง และ ทำให้เขาพบว่า
ภาพยนตร์ ไม่ได้ให้อะไรกลับมา แค่ ความบันเทิง
เพราะ หนังทุกๆเรื่อง คือ เรื่องราวของชีวิต และ ชีวิตในหนัง ก็ไม่ต่างอะไรจาก ชีวิตของเรา
และนั่นคือ จุดเริ่มต้นและการเติบโตของ ผมอยู่ข้างหลังคุณ
6 ปี ผ่านไปกับ การเป็น Blogger ขอสารภาพว่าตัวเองเป็น Blogger ที่ไม่ค่อยได้เรื่องในแง่ของการต้อนรับขับสู้ เพราะไม่ค่อยได้ตอบทุกท่านครบ ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเยือน Blog บ้านอื่นๆ แถมระยะหลังยังเขียน Blog น้อยลง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ยินดียินร้ายกับทุกๆ comment ที่เข้ามา
อยากจะบอกว่า ผู้เขียน ชอบอ่าน ความเห็นของผู้อ่านมาก
เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Blog นี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็คงเหมือน Blog ทั่วไปในโลกไซเบอร์ คือ ความเห็น หรือ comment ที่ผู้อ่านส่งมา ไม่ว่าจะเป็น ความเห็น , มุมมอง , คำวิจารณ์ , กำลังใจ , คำติชม ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็น ยาดีที่ยังทำให้คนเขียนอยากเขียนต่อๆไป และ ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวใน Blog หลังนี้
มีคนตัดพ้อว่าระยะหลัง งานใน Blog ลดน้อยลง ซึ่งนั่นก็เป็นข้อเท็จจริง แต่ เหตุผลที่แท้จริงไม่ใช่เพราะหยิ่งหรือลืมตัว ได้หน้าลืมหลัง ได้(เขียน)หนังสือแล้วลืมบล็อก
แต่เพราะ ชีวิตการงานทุกวันนี้ที่ไม่ได้มีเวลามากเหมือนแต่ก่อน ผสมกับ การต้องส่งต้นฉบับให้กับคอลัมน์ที่เขียนอยู่ประจำ ทำให้จำเป็นต้องเผื่อเนื้อหาที่จะส่งไปให้ต่างจาก Blog มิเช่นนั้นก็จะเข้าอีหรอบเดิม คือ กุมขมับตอนถึงเด๊ดไลน์ เพราะคิดต้นฉบับไม่ได้ เนื่องจากปล่อยหมดก๊อกลง Blog ไปหมดแล้ว
ครั้นจะก็อปเนื้อหาใน blog ไปลงนิตยสาร ก็ดูจะไม่แฟร์กับทาง นิตยสารซักเท่าไหร่ บวกกับ ผมเองก็ไม่ได้อยากให้เพื่อนผู้อ่านที่อุดหนุนนิตยสาร หรือ หนังสือ เกิดความรู้สึกว่า เอ ก็อ่านใน Blog ได้นี่หว่า แล้วตรูจะเสียเงินซื้อมาอ่านทำไม
ดังนั้น ผมจึงพยายามที่ดีที่สุดที่จะยังเขียน Blog เขียน book และ เขียน คอลัมน์ต่อไป พร้อมๆกับพยายามหาหนทางประสานความไม่ลงตัวนี้ จนพบหนทางใหม่ นั่นคือ Facebook
ด้วยเวลาอันจำกัด การเขียน blog ยาวๆจึงเป็นไปได้ยาก ครั้นจะอัพบล็อกสั้นๆ มันก็จะตกเร็วเกินไป แต่ Facebook ตอบโจทย์ได้หมด
ผมเลือกเปิดบริการ Facebook ให้ทำหน้าที่เสมือน Faceblog คือเป็น Blog ฉบับย่นย่อ ที่จะนำเสนอข่าว , คลิป , ประเด็น หรือ พูดคุยแบบสั้นๆ ที่ช่วยย่นย่อเวลาจาก Blog ได้ง่ายๆ
Facebook จึงกลายเป็นทางออกที่ ความยาวกำลังดี , การสื่อสารระหว่างกันรวดเร็วฉับไว และ ถึงเพื่อนผู้อ่านไม่ได้เล่น facebook ท่านก็สามารถตามอ่านได้ครับ เพียงคลิกเข้าไปที่ //www.facebook.com/IbehindYou
หรือจะเลือกอ่านเนื้อหาใน facebook ผ่านหน้าบล็อกนี้ ก็สามารถเลื่อนอ่านได้ ผ่านกรอบ facebook ที่อยู่ด้านขวามือของบล็อกนี้
เพียงแต่ หากเพื่อนๆต้องการคอมเม้นต์ หรือ อยากได้รับการแจ้งเตือนผ่านหน้า facebook ของตัวเองเมื่อมีบทความใหม่ๆ โปรดคลิกปุ่ม Like ในกรอบสี่เหลี่ยมข้างหลังชื่อ
สรุปคือ Blog ยังคงดำเนินกิจการต่อไป บทความยาวๆมีให้เลือกอ่านทั้งใน Blog และ FB
แต่ ถ้าเป็นบทความสั้นๆ , คุยเล่น หรือเป็น คลิป เป็นรูป จะมีเฉพาะใน facebook เท่านั้นครับ
เนื้อหาส่วนนี้ ขอดัดแปลงมาจากบล็อกหน้าที่แล้ว
ถึงจะชอบวิชาภาษาไทยกับอังกฤษมากแค่ไหน แต่ตอนเด็กๆก็ไม่เคยมีความฝันจะเป็นนักเขียน ตอนเขียน Blog ใหม่ๆก็ไม่เคยมีความคิดจะออกเป็นหนังสือแม้แต่น้อย
แต่ด้วยแรงเชียร์จากคนอ่าน พร้อมความ(ถูก)ยุง่ายของผมที่อยากลอง ห้าปีก่อน จึงส่งบทความไปตามนิตยสาร ตามสำนักพิมพ์ ก่อนจะแห้วสนิทศิษย์ส่ายหน้าในรอบแรก กลับมาเลียแผลใจยอมรับว่างานของตัวเองคงไม่ดี
แต่เมื่อ ความอยาก ถูกจุดขึ้น โดยมีความสนุกอยู่เคียงข้าง และ มีกำลังใจจากผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นทางอีเมลล์ หรือการคอมเม้นท์ในบล็อก โชคชะตาและการปรับปรุงงานไปเรื่อยๆ ก็ทำให้
งานเขียนมีโอกาสกระโดดจาก หน้าจอ ไปอยู่ ที่หน้ากระดาษ
จนถึงตอนนี้ 5 ปี 5 เล่ม 5 รูปแบบการนำเสนอ (ขออภัยที่รูปแบบเปลี่ยนไปตามความขี้เบื่อของคนเขียน ) แต่ทั้งห้าเล่มล้วนตั้งอยู่บนมาตรฐานเดียวกันคือ
หนังสือทั้งห้าอาจไม่ใช่หนังสือที่ดีที่สุดที่ท่านเคยอ่าน แต่ ผู้เขียนก็ตั้งใจเขียนให้ดีที่สุด และหวังว่าอย่างน้อยก็จะไม่ให้คนอ่านต้องรู้สึกเสียตังค์ไปเปล่าๆปลี้ๆ
ดังนั้น เนื้อหาในหนังสือ จึงไม่ใช่การรวบรวมงานจากบล็อกหรือที่เขียนลงนิตยสารไปลง แบบก็อปปี้แล้วรวมเล่ม แต่เป็นการนำเสนอ ผลงานใหม่ๆที่เขียนขึ้นมาเพื่อหนังสือโดยเฉพาะ , เรียงร้อยให้เหมาะกับรูปแบบหนังสือ และ ถ้างานไหนเป็นงานเก่า ก็จะรีไรต์ใหม่ให้แตกต่างกับการอ่าน blog
ทั้ง 5 เล่ม ถึงจะมีเรื่องราวของหนัง แต่ไม่ใช่หนังสือวิจารณ์หนัง หากแต่ใช้ หนัง เป็น เครื่องมือ ในเข้าใจจิตใจ เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนรอบข้าง โดยสอดแทรกแง่มุมทางจิตวิทยา ไม่ทำให้ จิตวิทยาเป็นเรื่องยากเกินจับต้อง แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถพาเราเข้าใกล้ ความสุข ได้มากขึ้น
จากจุดเริ่มต้นของการเป็น Blogger ไปสู่ นัก(อยาก)เขียน ทำให้ผมเรียนรู้อะไรมากขึ้น และรู้ว่า การที่หนังสือจะออกมาได้ ไม่ได้ขึ้นกับคนเขียนอย่างเดียว แต่ขึ้นกับ 3 ปัจจัยหลักๆ
1. ตัวคนเขียน
2.สำนักพิมพ์ ที่พร้อมจะลงทุนกับงานเขียนที่ออกมา
และ 3. ผู้อ่านที่ให้การสนับสนุน
จนถึงตอนนี้ 3 ปัจจัยนี้ยังเดินหน้าไปด้วยกัน ผมเองยังคงสนุกกับการเขียนและยังมีสนพ.ยอมร่วมเสี่ยง ยังมีผู้อ่านร่วมอุดหนุนในระดับที่ไม่ทำให้สนพ.ต้องล่มสลาย
จึงต้อง ขอขอบคุณ สำนักพิมพ์ และ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านอีกครั้ง ที่มีส่วนร่วมให้หนังสือทั้งห้าเล่มพิมพ์ออกมา รวมไปถึงเล่มต่อๆไปในวันข้างหน้า
แต่ หากวันใดวันหนึ่ง 1 ใน 3 ปัจจัยข้างต้น ต้องหยุดชะงักลง จะกลับมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
เจ็บเพราะรัก
ขอแนะนำหนังสือเล่ม 5 หรือ เล่มล่าสุดครับ ที่ว่าด้วย 'หนัง / ความรัก / จิตวิทยา'
ถึงชื่อจะเป็น เจ็บเพราะรัก ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นหนังสือสำหรับเฉพาะคนอกหัก หากแต่เป็นการเรียนรู้และเติบโตจากความรักในมุมที่ต่างออกไป
เพราะไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เราทุกคนที่ตัดสินใจว่าชีวิตนี้จะมีความรัก ย่อมต้องเผชิญหน้ากับ ความเจ็บปวด จาก ความรัก ไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง
เนื่องจาก ความเจ็บปวด ไม่ได้มีแค่อกหัก และ ความรักก็ไม่ใช่แค่เรื่องของหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียว
แขกรับเชิญจากหนังที่มาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ มาจากหนังอย่าง The Holiday , นกไร้ขาของหว่อง คาไว , 500 days of summer , Before sunset & sunrise , Up ฯลฯ
(สำหรับท่านที่เคยอ่าน เมื่อฉันลืมตาแล้วโลกเปลี่ยนไป และ LifeScan-มากกว่าที่ตาเห็น อยากเชียร์ให้ลองพลิกๆอ่าน เจ็บเพราะรัก เพราะท่านจะพบความสัมพันธ์เสมือน ภาคเติมเต็ม ในกันและกันของหนังสือทั้งสามเล่ม)
ล่าสุด วางแผงแล้วจ้า รอเพื่อนผู้อ่านตามร้านหนังสือทั่วไทย ตามสโลแกนของผู้เขียนที่ยึดมั่นมาตั้งแต่เล่มแรก นั่นคือ
"ไม่แน่ใจยืนอ่านฟรี อ่านแล้วดีหยิบกลับไป อ่านแล้วถูกใจวานบอกต่อ"
[รีวิวร้อนๆ จากเพื่อนผู้อ่านที่สละเวลาเขียนถึง ]
เจ็บเพราะรัก //blogs.lumamagic.com/?p=1957
[สำหรับเพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว ชวนไปแสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังสือตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ]
อ่านแล้วมาคุยกัน ... เจ็บเพราะรัก //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18
หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้า
(ยังมีวางตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ หากหาไม่พบ ท่านสามารถสั่งจองที่พนักงานในร้านซีเอ็ด , นายอินทร์ หรือ B2S )
ความ(ปวด)ในใจ ของข้าพเจ้าในฐานะนัก(อยาก)เขียน + วิธีการหาซื้อ หนังสือ ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" //www.facebook.com/IbehindYou?v=app_2347471856#!/notes/phm-xyu-khang-hlang-khun/khwampwdni-ci-khxng-khaphcea-ni-thana-nakxyakkheiyn-withi-kar-ha-sux-hnangsux-kh/430402776464
Create Date : 06 สิงหาคม 2553 |
|
52 comments |
Last Update : 27 ธันวาคม 2553 19:33:04 น. |
Counter : 1411 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: panwat 6 สิงหาคม 2553 0:20:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลิปดา - พิลิปดา IP: 58.9.1.101 6 สิงหาคม 2553 0:25:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 6 สิงหาคม 2553 0:56:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: คราซน..ของ.. (คนสาธารณะ ) 6 สิงหาคม 2553 2:17:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: wicsir 6 สิงหาคม 2553 8:23:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: รุ่งฤดี 6 สิงหาคม 2553 9:21:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: มือใหม่ๆ IP: 10.112.1.170, 10.112.253.226, 58.137.129.220 6 สิงหาคม 2553 9:57:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: cvJ; 6 สิงหาคม 2553 15:16:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 6 สิงหาคม 2553 16:00:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: phaclam 6 สิงหาคม 2553 21:14:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: Or Rudy (เริงฤดีนะ ) 6 สิงหาคม 2553 21:17:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: Mathurot IP: 125.24.157.159 9 สิงหาคม 2553 19:10:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|